The analyses did not show significa

The analyses did not show significant
associations of musculoskeletal pain to individual
factors (age, gender, work experience, waist
circumference and exercise) as in several previous
studies [1,2,16,17] (Table 2and 3). An interesting
finding was that there was a higher proportion of
musculoskeletal pain in women (71.6 %) than in
men (57.3 %) in this study. One suggestion from
the results is that a design of bigger sample size
might be helpful for more powerful statistical
analysis. The major causes of musculoskeletal pain
which were prolonged sitting in the same posture,
bending forward or twisting a trunk reported by
cases may contribute to work-related
musculoskeletal pain. The results supported the
previous reports of occupational risk factors of
musculoskeletal disorders among office workers
[4,6,18]. Obviously, the correlation of workrelated factors to the onset of musculoskeletal pain
might be identified clearly by following up cases
in a prospective cohort study

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิเคราะห์ไม่ได้แสดงอย่างมีนัยสำคัญ ความสัมพันธ์ของอาการปวด musculoskeletal บุคคล ปัจจัย (อายุ เพศ ประสบการณ์การทำงาน เอว เส้นรอบวงและออกกำลังกาย) ในหลายก่อนหน้านี้ การศึกษา [1,2,16,17] (2and ตาราง 3) น่าสนใจ ค้นหาได้ว่า มีสัดส่วนสูงของ ปวด musculoskeletal ในผู้หญิง (ร้อยละ 71.6) กว่า ผู้ชาย (57.3%) ในการศึกษานี้ คำแนะนำหนึ่งจาก ผลลัพธ์คือการออกแบบของตัวอย่างขนาดใหญ่ อาจจะมีประโยชน์สำหรับสถิติมีประสิทธิภาพมากขึ้น วิเคราะห์ สาเหตุสำคัญของอาการปวด musculoskeletal ซึ่งไม่นานนั่งในท่าเดียวกัน ดัดไปข้างหน้า หรือบิดลำตัวการรายงานโดย กรณีที่อาจนำไปสู่การทำงานที่เกี่ยวข้อง ปวด musculoskeletal ผลที่ได้รับการสนับสนุนการ รายงานก่อนหน้านี้ของอาชีวปัจจัยเสี่ยงต่อการ โรค musculoskeletal ระหว่างสำนักงานแรงงาน [4,6,18] อย่างชัดเจน ความสัมพันธ์ของปัจจัยของอาการปวด musculoskeletal workrelated อาจระบุชัดเจนตามคดี ในการศึกษา cohort ที่คาดหวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิเคราะห์ไม่ได้แสดงอย่างมีนัยสำคัญความสัมพันธ์ของความเจ็บปวดกล้ามเนื้อให้กับบุคคลปัจจัย(อายุเพศประสบการณ์ในการทำงานเอวเส้นรอบวงและการออกกำลังกาย) ในขณะที่ก่อนหน้านี้หลายการศึกษา[1,2,16,17] (ตารางที่ 2and 3) ที่น่าสนใจการค้นพบก็คือว่ามีสัดส่วนที่สูงขึ้นของอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูกในผู้หญิง(71.6%) มากกว่าในคน(57.3%) ในการศึกษานี้ หนึ่งคำแนะนำจากผลลัพธ์ที่ได้คือการออกแบบขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่ใหญ่กว่าอาจจะเป็นประโยชน์สำหรับสถิติที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการวิเคราะห์ สาเหตุหลักของอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูกซึ่งเป็นเวลานานนั่งอยู่ในท่าเดียวกันดัดไปข้างหน้าหรือบิดลำต้นรายงานโดยกรณีอาจนำไปสู่การทำงานที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูก ผลการสนับสนุนรายงานก่อนหน้านี้ของปัจจัยเสี่ยงในการประกอบอาชีพของความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกในหมู่คนงานสำนักงาน[4,6,18] เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของปัจจัย workrelated ที่จะเริ่มมีอาการปวดกล้ามเนื้อและกระดูกของอาจจะมีการระบุไว้อย่างชัดเจนโดยการติดตามกรณีในการศึกษาการศึกษาในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์ไม่ได้แสดงสมาคมอย่างมีนัยสำคัญ
อาการปวดเมื่อยปัจจัยบุคคล
( อายุ เพศ ประสบการณ์การทำงาน รอบเอว
และการออกกำลังกาย ) ในการศึกษาก่อนหน้านี้หลาย 1,2,16,17
[ ] ( โต๊ะเฉลี่ย 3 ) น่าสนใจ
พบว่ามีสัดส่วนที่สูงของ
อาการปวดเมื่อยในผู้หญิง ( ของ ) มากกว่า
ผู้ชาย ( 57.3 เปอร์เซ็นต์ ) ในการศึกษานี้ หนึ่งข้อเสนอแนะจาก
ผลก็คือ การออกแบบที่ใหญ่กว่าขนาดตัวอย่าง

อาจเป็นประโยชน์สำหรับการวิเคราะห์ทางสถิติที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สาเหตุหลักของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะมีความเจ็บปวด
นั่งอยู่ในท่าเดิม ดัด หรือบิดลำตัวไปข้างหน้า

กรณีรายงานโดยอาจมีผลต่อการ
ปวดกล้ามเนื้อ . ผลการสนับสนุน
รายงานก่อนหน้านี้ของปัจจัยความเสี่ยงจากการทำงานของ
ความผิดปกติของกล้ามเนื้อของคนงานสำนักงาน
[ 4,6,18 ] เห็นได้ชัดว่า ความสัมพันธ์ของปัจจัยเดียวอาการกล้ามเนื้อปวด
อาจจะระบุไว้อย่างชัดเจน โดยติดตามราย
ในการศึกษาไปข้างหน้าในอนาคต