During the Napoleonic Wars 1799-181

During the Napoleonic Wars 1799-1815 Britain could not import large amounts of grain from Europe. That all changed in 1815. British landowners feared that cheap foreign grain would be imported so they passed the Corn Laws.

Import duties would be charged on imported wheat unless the average price of British wheat reached £4 a quarter and unless the price of British barley reached £2 a quarter. However from 1828 a sliding scale was used. Import duties were gradually increased as the price of British grain fell.

In 1839 John Bright and Richard Cobden formed an Anti-Corn Law League. Prime Minister Peel finally abolished the corn laws in 1846. (Robert Peel lived from 1788 to 1850. He was prime minister in 1834-35 and 1841-46).

Meanwhile by the 1840s public opinion changed in favor of free trade. Most people believed that government should interfere in the economy as little as possible. They also believed that countries should trade without import duties. So in the early 1840s Peel abolished many tariffs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในระหว่างสงครา 1799-1815 อังกฤษไม่สามารถนำเข้าเมล็ดจำนวนมากจากยุโรป ที่เปลี่ยนแปลงทั้งหมดในปี 1815 ที่ดินอังกฤษกลัวว่า จะนำข้าวต่างประเทศราคาถูกเพื่อให้พวกเขาผ่านกฎหมายข้าวโพดจะถูกเรียกเก็บอากรขาเข้าจากข้าวสาลีนำเข้าเว้น แต่ราคาเฉลี่ยของอังกฤษข้าวสาลีถึง £4 ไตรมาส และเว้น แต่ราคาของข้าวบาร์เลย์ที่อังกฤษถึง £2 ไตรมาส อย่างไรก็ตาม จาก 473 เกณฑ์ใช้ อากรขาเข้าก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ตามราคาข้าวอังกฤษตกในปี 1839 สว่างจอห์นและริชาร์ด Cobden เกิดเป็นข้าวโพดต่อต้านกฎหมายลี เปลือกนายกรัฐมนตรียกเลิกกฎหมายข้าวโพดใน 1846 ในที่สุด (โรเบิร์ตเปลือกอาศัยอยู่จาก 1788 1850 เป็นนายกรัฐมนตรีใน 1834-35 และ 1841-46)โดยทศวรรษที่ 1840 มติมหาชนที่เปลี่ยนแปลงในความโปรดปรานของการค้าเสรีขณะเดียวกัน คนส่วนใหญ่เชื่อว่า รัฐบาลควรแทรกแซงในระบบเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด นอกจากนี้เขายังเชื่อว่า ควรการค้าต่างประเทศ โดยไม่มีอากรขาเข้า ดังนั้น ในทศวรรษที่ 1840 ต้น เปลือกยกเลิกภาษีจำนวนมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในช่วงสงครามจักรพรรดินโปเลียน 1799-1815 สหราชอาณาจักรไม่สามารถนำเข้าจำนวนมากของเมล็ดข้าวจากยุโรป ที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดใน 1815 เจ้าของที่ดินอังกฤษกลัวว่าข้าวราคาถูกจากต่างประเทศจะถูกนำเข้ามาเพื่อให้พวกเขาผ่านข้าวโพดกฎหมาย

อากรขาเข้าจะถูกเรียกเก็บในข้าวสาลีที่นำเข้าเว้นแต่ราคาเฉลี่ยของข้าวสาลีอังกฤษถึง£ 4 ไตรมาสและถ้าราคาของข้าวบาร์เลย์อังกฤษถึง£ 2 ไตรมาส อย่างไรก็ตามจาก 1828 เลื่อนระดับได้ถูกใช้ อากรขาเข้าก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นตามราคาข้าวในอังกฤษลดลง

ในปี 1839 จอห์นสดใสและริชาร์ด Cobden เกิดขึ้นต่อต้านข้าวโพดลีกกฎหมาย นายกรัฐมนตรีเปลือกในที่สุดก็ยกเลิกกฎหมายข้าวโพดใน 1846 (เบิร์ตพีอาศัยอยู่จาก 1788 ไป 1850 เขาเป็นนายกรัฐมนตรีใน 1834-1835 และ 1841-1846)

ในขณะเดียวกันจากความคิดเห็นของประชาชนยุค 1840 การเปลี่ยนแปลงในความโปรดปรานของการค้าเสรี คนส่วนใหญ่เชื่อว่ารัฐบาลควรยุ่งในทางเศรษฐกิจน้อยที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พวกเขายังเชื่อว่าประเทศควรค้าโดยไม่ต้องอากรขาเข้า ดังนั้นในช่วงต้นยุค 1840 เปลือกยกเลิกภาษีจำนวนมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในระหว่างสงครามนโปเลียน 1799-1815 อังกฤษไม่สามารถนำเข้าจำนวนมากของเมล็ดจากยุโรป ทั้งหมดมีการเปลี่ยนแปลงในปี ค . เจ้าของที่ดินอังกฤษกลัวว่าข้าวต่างประเทศราคาถูกจะนำเข้าข้าวโพดจึงผ่านกฎหมายอากรขาเข้าจะคิดค่านำเข้าข้าวสาลีนอกจากราคาเฉลี่ยของข้าวสาลีลดลงจากอังกฤษถึง 4 ไตรมาส และถ้าราคาของข้าวบาร์เลย์กว่าอังกฤษถึง 2 ไตรมาส อย่างไรก็ตามจาก 1828 เป็นตารางที่ใช้ ภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นตามราคาของชาวอังกฤษเมล็ดลดลงใน 1839 จอห์นสดใสและริชาร์ดขึ้นป้องกันข้าวโพด Cobden กฎหมายลีก นายกรัฐมนตรีในที่สุด ยกเลิกกฎหมายในเปลือกข้าวโพด . . ( โรเบิร์ต พีลอาศัยอยู่จาก 1788 ถึง 1850 เขาเป็นนายกรัฐมนตรีใน 1834-35 และ 1841-46 )ในขณะเดียวกัน โดย 1820 ความคิดเห็นสาธารณะการเปลี่ยนแปลงในความโปรดปรานของการค้าเสรี คนส่วนใหญ่เชื่อว่า รัฐบาลควรแทรกแซงเศรษฐกิจน้อยได้ตามที่เป็นไปได้ พวกเขายังเชื่อว่าประเทศควรค้าโดยอากรขาเข้า . ดังนั้นในอังกฤษหลายต้นเปลือกยกเลิกภาษีศุลกากร