variability in sleep schedule hinde

variability in sleep schedule hinders brain development
Much of focus on insufficient sleep in adolescence has been on sleep duration and sleep quality-
the average time spent asleep and how restful that sleep is. while both of those variables have been linked to cognitive functioning and emotional control, many studies, including our own (e.g.Buckhalt, keller,2007)have shown that variability in sleep schedule is related to poor functioning in multiple domains. During school yeas, wake up times are fairly stable during the week, so the variability comes with going to bed at different times. For children who build up a sleep debt, both bedtime and wake up times are typically later on weekends. all of the body's systems are dependent on timing regulated by the brain's the suprachiasmatic nucleus, and there are clock genes throughout the body that also determine timing of physiological processes. For example, the timing of melatonin release is associated with the feeling of sleepiness that induces sleep. Eating, exercising, and sleeping"off-time" is disruptive to the coordinated timing.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความแปรผันในตารางเวลาการนอนหลับลดลงสมองพัฒนามากเน้นนอนหลับไม่เพียงพอในวัยรุ่นมีระยะเวลาการนอนและคุณภาพการนอนหลับ-เวลาเฉลี่ยที่ใช้ในโหมดสลีป และวิธีเพื่อการพักผ่อนนอนหลับเป็น ในขณะที่ทั้งสองตัวแปรที่เชื่อมโยงการทำงานรับรู้และควบคุมอารมณ์ หลายศึกษา รวมทั้งของเราเอง (e.g.Buckhalt เคลเลอร์ 2007) ได้แสดงว่า ความแปรผันในกำหนดการปเกี่ยวข้องกับการทำงานได้ดีในแบบ ระหว่างโรงเรียน yeas ตั้งเวลาปลุกจะค่อนข้างมีเสถียรภาพในช่วงสัปดาห์ เพื่อความแปรผันที่มาพร้อมกับการเข้านอนในเวลาที่แตกต่างกัน สำหรับเด็กที่สร้างหนี้นอนหลับ นอนและตั้งเวลาปลุกได้โดยปกติวันหยุดสุดสัปดาห์ในภายหลัง ระบบของร่างกายทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ควบคุม โดยสมองของนิวเคลียส suprachiasmatic และมียีนนาฬิกาทั่วร่างกายที่ยัง กำหนดช่วงเวลาของกระบวนการสรีรวิทยา ตัวอย่าง ช่วงเวลาของการปล่อยเมลาโทนินเชื่อมโยงอยู่กับความรู้สึกของ sleepiness ที่ก่อให้เกิดป รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย และนอน "ปิดเวลา" ได้ขวัญการประสานเวลา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความแปรปรวนในช่วงเวลาการนอนหลับเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสมองมากของการมุ่งเน้นในการนอนหลับไม่เพียงพอในวัยหนุ่มสาวที่ได้รับในระยะเวลาการนอนหลับและการนอนหลับ quality- เวลาเฉลี่ยที่ใช้และวิธีการนอนหลับพักผ่อนที่หลับเป็น ในขณะที่ทั้งสองตัวแปรเหล่านั้นได้รับการเชื่อมโยงการทำงานกับความรู้ความเข้าใจและการควบคุมอารมณ์การศึกษาจำนวนมากรวมทั้งของเราเอง (egBuckhalt เคลเลอร์, 2007) ได้แสดงให้เห็นความแปรปรวนในช่วงเวลาการนอนหลับที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่ไม่ดีในหลายโดเมน ในช่วง yeas โรงเรียนตื่นขึ้นมาเวลาเสถียรธรรมในช่วงสัปดาห์ที่แปรปรวนจึงมาพร้อมกับที่จะไปนอนในเวลาที่แตกต่างกัน สำหรับเด็กที่สร้างหนี้การนอนหลับทั้งก่อนนอนและตื่นขึ้นมามักจะมีครั้งต่อมาในวันสุดสัปดาห์ ทั้งหมดของระบบของร่างกายจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ควบคุมโดยนิวเคลียส suprachiasmatic ของสมองและมียีนนาฬิกาทั่วร่างกายที่ยังกำหนดระยะเวลาของกระบวนการทางสรีรวิทยา ยกตัวอย่างเช่นระยะเวลาของการเปิดตัวเมลาโทนิมีความเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของการง่วงนอนที่ก่อให้เกิดการนอนหลับ การรับประทานอาหาร, การออกกำลังกายและนอนหลับ "ออกเวลา" เป็นก่อกวนกับระยะเวลาการประสานงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความผันแปรในตารางเวลานอนเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสมอง
มากเน้นไม่เพียงพอนอนในวัยรุ่นได้นอนระยะเวลาและคุณภาพการนอนหลับ -
โดยใช้เวลาหลับแล้วพักผ่อนนอนหลับอยู่ ในขณะที่ทั้งสองตัวแปรเหล่านั้นได้ถูกเชื่อมโยงกับขบวนการคิด และการควบคุมอารมณ์ หลายการศึกษา รวมทั้งของเราเอง ( e.g.buckhalt เคลเลอร์ ,2550 ) ได้แสดงให้เห็นว่าความแปรปรวนในเวลานอน เกี่ยวข้องกับการทำงานจนหลายโดเมน ในระหว่างปีโรงเรียน ตื่นเวลาค่อนข้างมีเสถียรภาพในช่วงสัปดาห์ ดังนั้น ความแปรปรวนมาพร้อมกับเข้านอนในเวลาที่แตกต่างกัน สำหรับเด็กที่สร้างขึ้นหนี้การนอน ทั้งนอนและตื่นเวลาปกติ ต่อมา ในวันหยุดสุดสัปดาห์ทุกระบบของร่างกายจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ควบคุมโดยสมองของนิวเคลียส suprachiasmatic และมียีนนาฬิกาตลอดร่างกายที่ยังกำหนดระยะเวลาของกระบวนการทางสรีรวิทยา ตัวอย่างเช่น เวลาของเมลาโทนินปล่อยเกี่ยวข้องกับความรู้สึกง่วงทำให้หลับ การรับประทานอาหารการออกกำลังกายและนอนหลับ " ปิด " คือ ก่อกวนการประสานเวลา