change it on the basis of communica

change it on the basis of communication with others, ability to objectify
issues irrespective of who holds them, dilution of status and prestige, time
and patience to get all the resources out into the open and get them
integrated into a fair outcome. The list is not conclusive, but it suffices to
show the difficulties encountered in integrative teamwork.
As difficult as this style is, it has much more potential to it than the
dictatorial and compromise styles can ever have. It is a learning exercise for
the team members: the resources of the team members are now greater than
without and before the teamwork, as they have all gained in learning from
one another. It makes the 100 per cent solution possible. The team has added
value. In this style the different views do not divide people; rather they pose
a problem that the team members share. Integrating is time-consuming,
but the time spent in this style has a better return than in dictating and
compromising. It is possible to learn integrative teamwork. This learning
diminishes time needed for the integrative outcome.
Integration is not, however, always only positive in its consequences. There is
evidence to show that in well-integrated teams the members may share not
only their resources, but even their their blind spots. Janis[2] coined the
concept “groupthink” to point out the inability of a cohesive group to see and
accept critique and optional views. Groupthink has been shown to be a factor
in major catastrophes and fiascoes such as the disastrous failure of the space
shuttle Challenger, when it was destroyed soon after it was launched[3].
Synergistic teamwork
In synergistic teamwork the team creates something new and more than the
addition of the individual resources would be. The outcome is something
that no team member possessed before and without the teamwork. This was
borne in the process of teamwork, when the combination of the members’
resources exceeded the input. In creative work views are combined in a
unique way, and this is precisely what synergistic teamwork is about.
It could, equally, be called innovative teamwork.
In synergistic teamwork the outcome exceeds the 100 per cent of the input to
the teamwork. It is the most productive style. At the same time, it is the most
rewarding to the team members. It is of paramount importance in
knowledge-intensive business (see Nurmi et al.,[4]). It is not an easy style to
apply. Sweeney and Allen[5] studied teams of excellent performance. They
observed that these kind of teams did not come into existence as a result of
intentional management, but they seemed to grow spontaneously from a
fertile breeding ground. The breeding ground can be fertilized by
management but apart from that, management has little to say in igniting
the process nor getting it to sparkle once it has started. These innovative,
synergistic groups were characterized by a high level of enthusiasm,
motivation and commitment, experimenting, an inside jargon that the
outsiders found difficult to understand, the fusion of work and leisure,
pride in the team and indifference to rules. It also appeared that these kind of
groups did not maintain their level of energy for long, but in due course they
tended to dissolve as spontaneously as they appeared.
Relatively stable high-performing teams have been observed at least in
artistic team performance. Murnighan and Conlon[6] concluded that

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปลี่ยนแปลงโดยใช้สื่อสารกับผู้อื่น ความสามารถในการ objectifyปัญหาแก่ที่เก็บไว้ เจือจางของสถานะ และศักดิ์ศรี เวลาและความอดทนจะได้รับทรัพยากรทั้งหมดออกไปเปิดให้พวกเขารวมอยู่ในผลลัพธ์ที่ยุติธรรม มีข้อสรุป แต่มัน suffices ไปแสดงปัญหาที่พบในการทำงานเป็นทีมแบบบูรณาการยากเป็นแบบนี้ มันมีศักยภาพที่มากไปกว่านี้เสนอ และลักษณะประนีประนอมสามารถมี เป็นการออกกำลังกายการเรียนรู้สำหรับสมาชิกทีม: ทรัพยากรของสมาชิกในทีมก็มากกว่าไม่มี และ ก่อนทำงานเป็น ทีม เป็นพวกเขามีทั้งหมดได้เรียนรู้จากอีกแบบหนึ่ง มันทำให้การแก้ปัญหาร้อยละ 100 ได้ ทีมงานได้เพิ่มค่า แบบนี้ มุมมองแตกต่างกันไม่แบ่งคน ค่อนข้าง จะก่อให้เกิดปัญหาที่สมาชิกในทีม รวมเป็นเวลาแต่กลับดีกว่าในการบอกเวลาแบบนี้ และสูญเสีย เป็นการเรียนรู้แบบบูรณาการทำงานเป็นทีม เรียนรู้นี้ค่อย ๆ หายไปเวลาที่ต้องการผลแบบบูรณาการรวมไม่ อย่างไรก็ตาม บวกเสมอเฉพาะในผลที่เกิดขึ้น มีหลักฐานแสดงว่าในทีมห้องรวมสมาชิกอาจใช้ร่วมกันไม่เฉพาะทรัพยากรของพวกเขา แม้แต่การจุดบอดของพวกเขา Janis [2] เป็นแนวคิด "groupthink" ไปไม่เป็นกลุ่มควบดู และยอมรับการวิจารณ์และมุมมองที่เลือก Groupthink ได้ถูกแสดงเป็น ตัวหายนะทางหลักและ fiascoes เช่นความล้มเหลวที่ร้ายของพื้นที่รถรับส่งผู้ท้าชิง เมื่อมันถูกทำลายทันทีหลังจากที่มันเปิดตัว [3]ทีมพลังในการทำงานเป็นทีมพลัง ทีมสร้างสิ่งใหม่และเพิ่มเติมมากกว่านี้เพิ่มของทรัพยากรแต่ละรายการจะได้ ผลที่ได้คืออะไรที่สมาชิกทีมไม่ต้องก่อน และไม่ มีการทำงานเป็นทีม นี้แบกรับในกระบวนการทำงานเป็นทีม เมื่อรวมกันของสมาชิกทรัพยากรเกินอินพุต ในงานสร้างสรรค์ มุมมองที่จะรวมในการลักษณะเฉพาะ และนี้ได้แม่นยำว่าทีมพลังกำลังมันสามารถ เท่า สามารถเรียกทีมนวัตกรรมในการทำงานเป็นทีมพลัง ผลเกินร้อยละ 100 ของการป้อนข้อมูลการทำงานเป็นทีม แบบมากที่สุดได้ ในเวลาเดียวกัน เป็นที่สุดให้รางวัลกับสมาชิกของทีม มันเป็นความสำคัญสูงสุดในเร่งรัดความรู้ธุรกิจ (ดู Nurmi et al.,[4]) มันไม่ใช่แบบง่ายไปนำไปใช้ Sweeney และทีมงานอัลเลน [5] ศึกษาประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม พวกเขาสังเกตว่า ชนิดของกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาดำรงอยู่เป็นผลมาจากจัดการตก แต่พวกเขาดูเหมือนจะ เติบโตในธรรมชาติจากการพื้นดินอุดมสมบูรณ์เพาะพันธุ์ ดินผสมพันธุ์ที่สามารถปฏิสนธิด้วยจัดการแต่แยกจาก จัดการได้น้อยกล่าวในจุดกระบวนการหรือการทำให้แวววาวเมื่อเริ่มทำ เหล่านี้เป็นนวัตกรรมใหม่กลุ่มพลังมีลักษณะของความกระตือรือร้นแรงจูงใจและความมุ่งมั่น ทดลอง ภายใน jargon ที่บุคคลภายนอกที่พบยากที่จะเข้าใจ ฟิวชั่นทำงานและการพักผ่อนไพรด์ในทีมงานและท่านกฎ นอกจากนี้ยังปรากฏที่เหล่านี้ชนิดของกลุ่มไม่ได้รักษาระดับของพลังงานสำหรับลอง แต่ในครบกำหนดแน่นอนว่าพวกเขามีแนวโน้มจะ ยุบเป็นธรรมชาติ ตามที่เคยปรากฏทีมงานดำเนินการสูงค่อนข้างมีเสถียรภาพมีการสังเกตน้อยในประสิทธิภาพของทีมงานศิลปะ Murnighan และ Conlon [6] ได้ที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปลี่ยนบนพื้นฐานของการสื่อสารกับคนอื่น ๆ ความสามารถในการแลเห็นปัญหาโดยไม่คำนึงถึงผู้ที่ถือพวกเขาลดสัดส่วนของสถานะและศักดิ์ศรีเวลาและความอดทนที่จะได้รับทรัพยากรทั้งหมดที่ออกไปเปิดและพวกเขาได้รับการรวมเข้ากับผลที่ยุติธรรม รายการไม่ได้ข้อสรุป แต่ก็พอเพียงที่จะแสดงให้เห็นความยากลำบากในการทำงานเป็นทีมพบบูรณาการ. ในฐานะที่เป็นเรื่องยากที่รูปแบบนี้คือมันมีมากขึ้นที่อาจเกิดขึ้นกับมันกว่ารูปแบบเผด็จการและการประนีประนอมเคยได้มี มันคือการออกกำลังกายการเรียนรู้สำหรับสมาชิกในทีมทรัพยากรของสมาชิกในทีมอยู่ในขณะนี้มากกว่าโดยไม่ต้องทำงานเป็นทีมและก่อนที่พวกเขาได้รับมีทั้งหมดในการเรียนรู้จากคนอื่น มันทำให้การแก้ปัญหาร้อยละ 100 เป็นไปได้ ทีมงานได้มีการเพิ่มมูลค่า ในรูปแบบนี้มุมมองต่างกันไม่แบ่งคน; แต่พวกเขาก่อให้เกิดปัญหาที่สมาชิกในทีมร่วมกัน การบูรณาการคือใช้เวลานานแต่เวลาที่ใช้ในรูปแบบนี้จะมีผลตอบแทนที่ดีกว่าในติดขัดและไม่สูญเสีย มันเป็นไปได้ที่จะเรียนรู้การทำงานเป็นทีมแบบบูรณาการ การเรียนรู้นี้ลดเวลาที่จำเป็นสำหรับผลแบบบูรณาการ. บูรณาการไม่ได้เป็น แต่เพียงเสมอในเชิงบวกในผลของมัน มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าทีมดีแบบบูรณาสมาชิกอาจใช้ไม่เพียงแต่ทรัพยากรของพวกเขา แต่จุดด้อยของพวกเขา เจนิส [2] ประกาศเกียรติคุณแนวคิด"groupthink" เพื่อชี้ให้เห็นการไร้ความสามารถของกลุ่มเหนียวที่จะเห็นและยอมรับคำติชมและมุมมองที่เป็นตัวเลือก คิดคล้อยตามกลุ่มได้รับการแสดงที่จะเป็นปัจจัยในหายนะที่สำคัญและ fiascoes เช่นความล้มเหลวหายนะของพื้นที่รถรับส่งชาเลนเจอร์เมื่อมันถูกทำลายเร็วๆ นี้หลังจากที่มันถูกเปิดตัว [3]. การทำงานเป็นทีมแพลเลเดียมในการทำงานเป็นทีมการทำงานร่วมกันของทีมสร้างสิ่งใหม่และมากกว่านอกจากทรัพยากรบุคคลที่จะเป็น ผลคือสิ่งที่สมาชิกในทีมไม่ก่อนที่จะมีและไม่มีการทำงานเป็นทีม นี้ได้รับการเป็นพาหะในขั้นตอนของการทำงานเป็นทีมเมื่อรวมกันของสมาชิกฯทรัพยากรเกินอินพุต ในมุมมองงานสร้างสรรค์ที่จะรวมกันในวิธีที่ไม่ซ้ำกันและนี่คือสิ่งที่การทำงานเป็นทีมเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำงานร่วมกัน. มันอาจจะเท่าเทียมกัน, การทำงานเป็นทีมจะเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่. ในการทำงานเป็นทีมประสานผลเกินกว่าร้อยละ 100 ของการป้อนข้อมูลเพื่อการทำงานเป็นทีม มันเป็นรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็เป็นส่วนใหญ่ที่คุ้มค่าให้กับสมาชิกในทีม มันมีความสำคัญยิ่งในธุรกิจความรู้มาก (ดู Nurmi et al., [4]) มันไม่ได้เป็นรูปแบบที่ง่ายต่อการใช้ สวีนีย์และอัลเลน [5] การศึกษาทีมของประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าชนิดของทีมเหล่านี้ไม่ได้เข้ามาในชีวิตเป็นผลมาจากการบริหารจัดการโดยเจตนาแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเติบโตเป็นธรรมชาติจากพื้นพันธุ์อุดมสมบูรณ์ พื้นพันธุ์สามารถปฏิสนธิโดยการจัดการ แต่นอกเหนือจากนั้นการจัดการมีเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะบอกว่าการจุดไฟติดขั้นตอนหรือการไปประกายเมื่อมันได้เริ่มต้น เหล่านี้เป็นนวัตกรรมใหม่ที่กลุ่มประสานโดดเด่นด้วยระดับสูงของความกระตือรือร้นแรงจูงใจและความมุ่งมั่นทดลองเป็นศัพท์แสงภายในว่าบุคคลภายนอกพบยากที่จะเข้าใจฟิวชั่นของการทำงานและการพักผ่อนที่มีความภาคภูมิใจในทีมและไม่แยแสกับกฎระเบียบของ นอกจากนี้ยังปรากฏว่าชนิดของเหล่านี้กลุ่มไม่ได้รักษาระดับของการใช้พลังงานสำหรับยาวแต่ในหลักสูตรเนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะละลายเป็นธรรมชาติที่พวกเขาปรากฏตัวขึ้น. ค่อนข้างคงที่ทีมงานที่มีประสิทธิภาพสูงได้รับการปฏิบัติอย่างน้อยในประสิทธิภาพของทีมงานศิลปะ Murnighan และ Conlon [6] ได้ข้อสรุปว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานของการสื่อสารกับผู้อื่น ความสามารถในการทำให้เห็นเป็นรูปธรรม
ประเด็นนึงที่ถือมันเจือจางของสถานะและศักดิ์ศรี เวลา
และความอดทนที่จะได้รับทรัพยากรทั้งหมดที่ออกในการเปิดและได้รับพวกเขา
รวมเข้าไปในผลที่เป็นธรรม รายการไม่ใช่ข้อสรุป แต่พอเพียง

แสดงปัญหาที่พบในการทำงานเป็นทีมบูรณาการ .
ยากเช่นลักษณะนี้คือมันมีศักยภาพมากขึ้นกว่า
ลักษณะเผด็จการและประนีประนอม ก็เคยมี มันเป็นแบบฝึกหัดการเรียนรู้สำหรับ
สมาชิกทีม : ทรัพยากรของสมาชิกในทีมตอนนี้มากกว่า
โดยไม่ต้องและก่อนการทำงานเป็นทีม มีทั้งหมดที่ได้รับการเรียนรู้จาก
อีกแบบหนึ่ง มันทำให้ 100 ต่อการแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ร้อยละ ทีมงานได้เพิ่ม
ค่าในลักษณะนี้มีมุมมองที่แตกต่างกันไม่แบ่งคน ; ค่อนข้างพวกเขาก่อให้เกิด
ปัญหาที่สมาชิกในทีมแบ่งปัน รวมจะใช้เวลานาน ,
แต่ใช้เวลาในลักษณะนี้ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าใน dictating และ
ประนีประนอม มันเป็นไปได้ที่จะเรียนรู้การทำงานเป็นทีมบูรณาการ นี้ลดเวลาที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้

ผลการบูรณาการ ไม่ อย่างไรก็ตามก็แค่บวกในผลของมัน มีหลักฐานเพื่อแสดงให้เห็นว่าใน
ดีที่รวมทีมสมาชิกอาจใช้ไม่ได้
เพียงทรัพยากรของพวกเขา แต่พวกเขามองไม่เห็นจุด เจนิส [ 2 ] ชื่อว่า แนวคิด " กลุ่มคิด " เพื่อชี้ให้เห็นความสามารถของกลุ่มที่น่าสนใจที่จะเห็นและยอมรับคำติชมและความคิดเห็น
ตัวเลือก กลุ่มคิดได้รับการแสดงที่จะเป็นปัจจัย
ในภัยพิบัติใหญ่และ fiascoes เช่นความล้มเหลวหายนะของพื้นที่
รับส่งผู้ท้าชิง เมื่อมันถูกทำลายไม่นานหลังจากที่มันถูกเปิดตัว [ 3 ] .

ในการทำงานเป็นทีมร่วมกับทีมที่ทีมสร้างสิ่งใหม่และมากกว่า
เพิ่มทรัพยากรบุคคลจะต้อง ผลบางอย่างที่ไม่มีสมาชิกทีมสิง
ก่อนและมีการทำงานเป็นทีม นี้คือ
แต่ในกระบวนการของการทำงานเป็นทีม เมื่อการรวมกันของสมาชิก
ทรัพยากรเกินข้อมูล ในมุมมองของการสร้างสรรค์ผลงาน จะรวมกันในวิธี
เอกลักษณ์ และนี่คือสิ่งที่ทีมงานที่เกี่ยวกับ .
มันอาจ เท่าเทียมกัน จะเรียกว่าเป็นนวัตกรรม ในการทำงานเป็นทีมร่วมกับ
ผลเกินกว่าร้อยละ 100 ของนำเข้า
การทํางานเป็นทีม มันเป็นลักษณะที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเวลาเดียวกัน มันเป็นที่สุด
คุ้มค่าของสมาชิกในทีม มันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งใน
ความรู้ธุรกิจแบบเข้มข้น ( เห็นยังมี et al . , [ 4 ] ) มันไม่ได้เป็นรูปแบบง่าย

สมัคร สวีนีย์ และ อัลเลน [ 5 ] ได้ศึกษาทีมประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยม พวกเขา
สังเกตว่าเหล่านี้ชนิดของทีมก็ไม่เกิดเป็นผลของการจัดการธุรกิจ แต่พวกเขาดูเหมือนจะเติบโตขึ้นจาก
อุดมสมบูรณ์พันธุ์พื้น พันธุ์พื้นดินสามารถผสมโดยการจัดการ แต่นอกเหนือจากนั้น ฝ่ายบริหารมีเพียงเล็กน้อยที่จะพูดในกระบวนการหรือการจุดไฟ
มันแวววาว เมื่อมันได้เริ่มขึ้นแล้ว เหล่านี้ที่เป็นนวัตกรรม
กลุ่มลักษณะโดยระดับของความกระตือรือร้น
แรงจูงใจและความมุ่งมั่น ทดลอง มีศัพท์แสงภายใน
คนนอกพบยากที่จะเข้าใจระหว่างทำงานและพักผ่อน
ความภาคภูมิใจในทีมงานและไม่แยแสกับกฎ มันขึ้นว่าแบบนี้
กลุ่มไม่รักษาระดับพลังงานของพวกเขาเป็นเวลานาน แต่ในหลักสูตรเนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะละลายอย่างเป็นธรรมชาติ

ตามที่พวกเขาปรากฏ ทีมงานที่มีประสิทธิภาพสูงที่ค่อนข้างมั่นคง ได้รับการตรวจสอบอย่างน้อยใน
ประสิทธิภาพทีมศิลปะ และ murnighan โคลลอน [ 6 ] สรุปว่า