Ten Facts About ConcordeBetween 197

Ten Facts About Concorde

Between 1976 and 2003, it flew the rich and famous around the planet at supersonic speeds. Here are ten facts about Concorde.
ConcordeFact One
Concorde was one of only two commercial supersonic aircrafts to have operated. The other one was the Soviet Union's Tupolev Tu-144 which was much less successful, beginning passenger flights in November 1977, ending them in June 1978.

Fact Two
Concorde was developed and built by British and French engineers. The arrangement was part of an international treaty between the two countries rather than a commercial agreement. This meant that if either country backed out and broke the treaty, it would face heavy penalties. The two companies involved in the development (British Aircraft Corp and France's Aerospatiale) merged into one and worked together to build the planes.

Fact Three
Several of the world's major airline companies placed non-binding orders for Concorde aircraft but most of these backed out of any agreements to go ahead with any of the orders due to several factors (the crash of one of the Soviet Union's supersonic aircraft, worries about environmental and noise pollution and cost of purchasing and operating to craft). The only two airlines that were left were Air France and British Airways, and that was probably largely due to the fact that the two countries built that aircraft. In total, 20 Concordes were built and 14 flew commercially, 7 for France and 7 for Britain.

Fact Four
As Concorde travelled at more than twice the speed of sound (mach 2.0 or about 1520 mph), it created a sonic boom, which could sound like a loud bang, crack or deep rumble. This loud noise and the complaints that inevitably came with it resulted in Concorde being unable to fly certain routes, or having to fly sub-sonically (at the speed of normal airliners) to complete certain journeys. It is one of the main reasons why airlines backed out of purchasing Concordes or developing their own supersonic aircrafts.

Fact Five
British Prime Minister Harold changed the name of Concorde to the less French-looking Concord as a way to spite his French counterpart. However, the British government's Minister for Technology, Tony Benn, changed it back to Concorde with an "e". To appease British moaners, he stated that the "e" at the end stood for Excellence, England, Europe and Entente (as in Entente Cordial). In response to complaints from the Scots who pointed out that Concorde was actually British and not just English, Benn claimed that the "e" also stood for ecosse, the French word for Scotland. It's a good job the Welsh and Irish didn't start whinging.�

Fact Six
Concorde 001 (built in France) made its first test flight on March 2nd 1969. Concorde 002 (built in the UK) first flew on April 9th 1969. The first commercial flights of Concorde took place on January 21st 1976. British Airways flew their Concorde from Heathrow Airport to Bahrain, and Air France flew from Paris to Rio. British Airways Concorde flights from London to New York and back used the flight numbers BA001 to BA004. Since the retirement of Concorde, these flight numbers are no longer used.

Fact Seven
For its first few years, Concorde operated at a loss. The British Government, which financed the British side of the Concorde project, took 80% of Concorde's revenue. It was discovered in the early eighties that public perception of Concorde was that it cost more to fly on it than it actually did. So the prices were put up to what people thought they were, and with oil prices reducing, Concorde began making money. In 1984, financial ownership of the crafts were passed over for the government to British Airways who operated the crafts at a profit. It is believed that part of the reason for the crafts being retired in 2003 was that, while they were grounded, British Airways and Air France realised that they made more profit out of the passengers who would have flown on Concorde by them flying First Class on their standard aircrafts.

Fact Eight
As well as flying faster than other aeroplanes, Concorde also flew higher, flying at an altitude of about 50,000 to 55,500 feet (although it could fly up to 60,000 feet). At this height, it was possible to see the curvature of the Earth as if you were on the edge of space. Air turbulance is also less of a problem at that height, meaning a less bumpy flight.



Fact Nine
Concorde recorded its fastest journey from New York to London on January 1st 1983, taking 2 hours 56 minutes. The was no in flight entertainment on Concorde flights, but you got free champagne and posh food on Wedgwood crockery.

Fact Ten
Up to 2000, Concorde was the world's safest aircraft with no crashes and no fatalities. One of the Concordes belonging to Air France crashed on July 25th 2000 after debris from a punctured tyre ruptured the fuel tank. It is believed that the debris had fallen off another aircraft operated by Continental. Concorde lost its Certificate of Airworthiness on July 26th 2000, not regaining it until September 5th 2001 and made its first operational flight with passengers (non-paying airline staff) on September 11th 2001. It returned to commercial operations on November 7th 2001 but ended these in 2003 with Air France flying its final Concorde flight on May 31st 2003 and British Airways on October 24th 2003. An offer by Richard Branson to purchase the remaining Concorde fleet and fly them for Virgin Atlantic was rejected. Concorde will never fly again.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคองคอร์ด1976 และ 2003 อดีตร่ำรวย และมีชื่อเสียงทั่วโลกที่ความเร็วเหนือเสียง นี่คือ 10 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคองคอร์ดConcordeFact หนึ่งคองคอร์ดเป็นเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงพาณิชย์เพียงสองการดำเนินอย่างใดอย่างหนึ่ง อีกหนึ่งคือ สหภาพโซเวียต Tupolev ตู-144 ที่สำเร็จมากน้อย เที่ยวบินผู้โดยสารเริ่มต้นในเดือน 1977 พฤศจิกายน สิ้นสุดนั้นในเดือน 1978 มิถุนายนความจริงสองคองคอร์ดถูกพัฒนา และสร้าง โดยวิศวกรชาวอังกฤษและฝรั่งเศส การจัดเรียงเป็นส่วนหนึ่งของการสนธิระหว่างทั้งสองประเทศมากกว่าที่เป็นข้อตกลงทางการค้า นี้หมายถึง ว่า ถ้าประเทศใดสนับสนุนออก และยากจนสนธิ มันจะเผชิญโทษหนัก บริษัททั้งสองเกี่ยวข้องกับการพัฒนา (Aerospatiale Corp เครื่องบินอังกฤษและฝรั่งเศส) รวมเป็นหนึ่ง และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเครื่องบินความจริงสามต่าง ๆ ของบริษัทสายการบินรายใหญ่ของโลกวางใบสั่งไม่รวมเครื่องบินคองคอร์ดแต่ส่วนใหญ่เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากข้อตกลงไปข้างหน้ากับใบสั่งเนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง (ความผิดพลาดหนึ่งของสหภาพโซเวียตเครื่องบินความเร็วเหนือเสียง ความกังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และมลภาวะทางเสียงและต้นทุนของการซื้อ และการปฏิบัติการเรือ) สายการบินเพียงสองที่ถูกปล่อยได้ Air France และบริติชแอร์เวย์ และที่แนะนำส่วนใหญ่เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าทั้งสองประเทศสร้างอากาศยานที่ รวม สร้าง 20 Concordes และ 14 บินในเชิงพาณิชย์ 7 สำหรับฝรั่งเศสและ 7 สำหรับสหราชอาณาจักรความจริง 4เป็นคองคอร์ดเดินทางที่สองมากกว่าความเร็วเสียง (mach 2.0 หรือประมาณ 1520 ความเร็ว), สร้างเสียง sonic ซึ่งสามารถฟังเสียงบาง แตก หรือเรือลึก นี้กึกก้องและข้อร้องเรียนที่ย่อมส่งผลให้ในคองคอร์ดรับการบินบางเส้นทาง หรือต้องบินย่อย sonically (ที่ความเร็วของสายการบินปกติ) สมบูรณ์เจอร์นีย์บาง มันเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำไมสายการบินได้รับการสนับสนุนจากซื้อ Concordes หรือการพัฒนาเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงของตนเองความจริง 5นายกรัฐมนตรีอังกฤษฮาโรลด์เปลี่ยนชื่อคองคอร์ดน้อยมองฝรั่งเศสคอนคอร์ดเป็นวิธีประชดกันของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอังกฤษรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยี โทนี่ Benn เปลี่ยนมันกลับคองคอร์ดด้วย "e" ในภาษาอังกฤษ moaners เขากล่าวว่า "e" ท้ายยืนสำหรับความเป็นเลิศ อังกฤษ ยุโรป และความตกลง (ในอย่างอบอุ่นงตอง) ในการตอบสนองข้อร้องเรียนจากที่สก็อต ที่ชี้ให้เห็นว่า คองคอร์ดมีเพียงอังกฤษ และอังกฤษจริง Benn อ้างว่า "อี" ยังยืนสำหรับ ecosse คำภาษาฝรั่งเศสในสกอตแลนด์ มันเป็นงานที่ดีชาวเวลส์ และไอร์แลนด์ไม่ได้เริ่มต้น whingingความจริง 6คองคอร์ด 001 (แห่งฝรั่งเศส) ทำการบินทดสอบครั้งแรกในเดือน 1969 มีนาคม 2 คองคอร์ด 002 (แห่งสหราชอาณาจักร) บินครั้งแรกในเดือน 1969 เมษายน 9 เที่ยวบินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของคองคอร์ดเกิดขึ้นในเดือน 1976 มกราคม 21 บริติชแอร์เวย์บินคองคอร์ดการจากท่าอากาศยานฮีทโธรว์ไปบาห์เรน และ Air France บินจากปารีสไปริโอ บริติชแอร์เวย์คองคอร์ดเที่ยวบินจากลอนดอนสู่นิวยอร์ก และหลังใช้หมายเลขเที่ยวบิน BA001 เพื่อ BA004 เนื่องจากการเกษียณอายุของคองคอร์ด หมายเลขเที่ยวบินเหล่านี้จะไม่ใช้ความจริง 7สำหรับของปี คองคอร์ดดำเนินการขาดทุน รัฐบาลอังกฤษ การเคหะด้านภาษาอังกฤษของโครงการคองคอร์ด ใช้เวลา 80% ของรายได้ของคองคอร์ด มันถูกค้นพบในอันดับแรกที่ประชาชนได้รู้ของคองคอร์ด ที่ทุนมากขึ้นในการบินมันกว่าจริง ๆ มัน เพื่อใส่ราคาถึง สิ่งที่ผู้คนคิดว่า พวกเขา และราคาน้ำมันลด คองคอร์ดเริ่มทำเงิน ในปี 1984 เงินเจ้าของงานฝีมือถูกส่งผ่านสำหรับรัฐบาลกับบริติชแอร์เวย์ที่ดำเนินงานฝีมือที่กำไร เชื่อว่าเหตุผลหนึ่งที่สำหรับงานฝีมือที่ถูกปลดเกษียณใน 2003 ถูกว่า ในขณะที่พวกเขามีสูตร บริติชแอร์เวย์และอากาศฝรั่งเศสเองก็ยังคิดว่า พวกเขาทำกำไรเพิ่มเติมจากผู้โดยสารที่จะมีเอกสิทธิ์ในคองคอร์ดโดยพวกเขาไปชั้นบนของเครื่องบินมาตรฐานความจริง 8และบินได้เร็วกว่า aeroplanes อื่น ๆ คองคอร์ดยังบินสูง บินที่ระดับความสูงประมาณ 50000-55,500 ฟุต (แม้ว่ามันสามารถบินสูงสุด 60000 ฟุต) ที่ความสูงนี้ มันเป็นไปได้เพื่อดูขนาดของแผ่นดินเป็นถ้าคุณอยู่บนขอบของพื้นที่ Turbulance อากาศก็น้อยปัญหาที่ที่ความสูง เที่ยวบินหลุมน้อยหมายถึง ความจริงเก้าคองคอร์ดบันทึกการเดินทางที่เร็วที่สุดจากนิวยอร์กไปลอนดอนในเดือนมกราคมปี 1983 1 ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 56 นาที ถูกไม่ในเที่ยวบิน บันเทิงบนเที่ยวบินคองคอร์ด แต่คุณมีแชมเปญ และหรูอาหารฟรีบนเครื่องถ้วยชามของเวดจ์วู้ดความจริง 10ค่าเป็น 2000 คองคอร์ดเป็นเครื่องบินปลอดภัยที่สุดในโลกไม่เกิดปัญหากับผู้ไม่ หนึ่ง Concordes ของ Air France ล้มบน 2000 25 กรกฎาคมหลังจากเศษจากยางแฟบพุ่งกระฉูดถังน้ำมันเชื้อเพลิง เชื่อกันว่าว่า เศษที่ได้ตกลงมาจากเครื่องบินอื่นที่ดำเนินการ โดยคอนติเนนทัล คองคอร์ดหายไปของใบรับรอง Airworthiness บน 2000, 26 กรกฎาคมไม่กลับคืนจนถึง 2001 กันยายน 5 และทำการดำเนินงานเที่ยวบินแรกผู้โดยสาร (ไม่ใช่จ่ายพนักงานสายการบิน) ในปี 2001 11 กันยายน กลับไปดำเนินธุรกิจในเดือน 2001 พฤศจิกายน 7 แต่จบลงแล้วเหล่านี้ใน 2003 กับ Air France บินของเครื่องบินคองคอร์ดสุดท้ายบน 31 2003 may และบริติชแอร์เวย์ 24 2546 ตุลาคม ข้อเสนอ โดยริชาร์ดแบรนสันกองคองคอร์ดเหลือ และบินไปในเวอร์จินแอตแลนติกถูกปฏิเสธ คองคอร์ดจะไม่บินอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ Concorde ระหว่างปี 1976 และปี 2003 มันบินรวยและมีชื่อเสียงทั่วโลกด้วยความเร็วเหนือเสียง ที่นี่สิบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ Concorde. มีConcordeFact หนึ่งConcorde เป็นหนึ่งในสองเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงในเชิงพาณิชย์จะมีการดำเนินการ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นของสหภาพโซเวียตตูโปเลฟ Tu-144 ซึ่งประสบความสำเร็จมากน้อยเริ่มต้นผู้โดยสารเที่ยวบินในเดือนพฤศจิกายนปี 1977 พวกเขาสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนปี 1978 ความจริงสองคองคอร์ดได้รับการพัฒนาและสร้างโดยวิศวกรชาวอังกฤษและฝรั่งเศส จัดเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาระหว่างประเทศระหว่างสองประเทศมากกว่าข้อตกลงการค้า นั่นหมายความว่าถ้าทั้งสองประเทศถอยออกมาและยากจนสนธิสัญญาก็จะต้องเผชิญโทษหนัก ทั้งสอง บริษัท มีส่วนร่วมในการพัฒนา (บริติชเครื่องบินคอร์ปและฝรั่งเศส Aerospatiale) รวมเป็นหนึ่งและทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเครื่องบิน. ความจริงสามหลาย บริษัท สายการบินรายใหญ่ของโลกที่สั่งซื้อไม่ผูกพันสำหรับเครื่องบินคองคอร์ด แต่ส่วนใหญ่เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจาก ข้อตกลงใด ๆ ที่จะไปข้างหน้าด้วยการใด ๆ ของการสั่งซื้อเนื่องจากปัจจัยหลายประการ (ความผิดพลาดของหนึ่งในเครื่องบินเหนือของสหภาพโซเวียตกังวลเกี่ยวกับมลพิษทางสิ่งแวดล้อมและเสียงรบกวนและค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อและการดำเนินงานฝีมือ) เพียงสองสายการบินที่ถูกทิ้งเป็นแอร์ฟรานซ์และบริติชแอร์เวย์และที่อาจจะเป็นส่วนใหญ่เนื่องจากความจริงที่ว่าทั้งสองประเทศที่สร้างขึ้นเครื่องบินที่ โดยรวมแล้ว 20 Concordes ถูกสร้างขึ้นและ 14 บินในเชิงพาณิชย์ 7 สำหรับประเทศฝรั่งเศสและ 7 สำหรับสหราชอาณาจักร. ความจริงสี่เป็น Concorde เดินทางที่มากขึ้นกว่าสองเท่าของความเร็วของเสียง (จักร 2.0 หรือประมาณ 1,520 ไมล์ต่อชั่วโมง) มันสร้างโซนิคบูมซึ่งจะทำได้ เสียงเหมือนเสียงดังปัง, ร้าวหรือก้องลึก นี้เสียงดังและข้อร้องเรียนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้มาพร้อมกับมันส่งผลให้ Concorde การไม่สามารถที่จะบินบางเส้นทางหรือต้องบินย่อย sonically (ที่ความเร็วของสายการบินปกติ) ที่จะเสร็จสิ้นการเดินทางบางอย่าง มันเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักว่าทำไมสายการบินที่ได้รับการสนับสนุนจากการซื้อ Concordes หรือการพัฒนาเครื่องบินความเร็วเหนือเสียงของตัวเอง. จริงห้านายกรัฐมนตรีอังกฤษแฮโรลด์เปลี่ยนชื่อของ Concorde ไปน้อยฝรั่งเศสมองคองคอร์ดเป็นวิธีการทั้งๆที่คู่ของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงของรัฐบาลอังกฤษเทคโนโลยีโทนี่เบนน์เปลี่ยนมันกลับไปที่ Concorde กับ "e" เพื่อเอาใจ moaners อังกฤษเขากล่าวว่า "อี" ในตอนท้ายยืนเพื่อความเป็นเลิศ, อังกฤษ, ยุโรปและข้อตกลง (ในขณะที่ข้อตกลง Cordial) ในการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนจากสก็อตที่ชี้ให้เห็นว่าเป็นจริง Concorde อังกฤษและภาษาอังกฤษไม่ได้เป็นเพียงเบนน์อ้างว่า "อี" ยังยืน Ecosse, ภาษาฝรั่งเศสสกอตแลนด์ มันเป็นงานที่ดีเวลส์และไอร์แลนด์ไม่ได้เริ่มต้น whinging. จริงหกคองคอร์ด 001 (สร้างขึ้นในฝรั่งเศส) ทำเที่ยวบินทดสอบครั้งแรกในวันที่ 2 มีนาคม 1969 คองคอร์ด 002 (สร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร) แรกบิน 9 เมษายน 1969 เที่ยวบินพาณิชย์แรกของ Concorde ที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 มกราคม 1976 บริติชแอร์เวย์บิน Concorde ของพวกเขาที่สนามบินฮีทโทรว์จากไปบาห์เรนและแอร์ฟรานซ์บินจากปารีสไปยังริโอ เที่ยวบินบริติชแอร์เวย์ Concorde จากลอนดอนไปนิวยอร์กและกลับมาใช้หมายเลขเที่ยวบิน BA001 การ BA004 นับตั้งแต่เกษียณของ Concorde เหล่านี้หมายเลขเที่ยวบินจะไม่มีการใช้อีกต่อไป. ความจริงเซเว่นไม่กี่ปีแรกของ Concorde ดำเนินการที่สูญเสีย รัฐบาลอังกฤษซึ่งทุนด้านอังกฤษของโครงการคองคอร์ดเอา 80% ของรายได้คองคอร์ด มันถูกค้นพบในช่วงแปดที่รับรู้ของประชาชนของ Concorde ก็คือว่ามันมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นในการบินในนั้นกว่าที่เป็นจริงได้ ดังนั้นราคาที่ถูกใส่ได้ถึงสิ่งที่ผู้คนคิดว่าพวกเขาและมีราคาน้ำมันที่ลด Concorde เริ่มทำเงิน ในปี 1984 เป็นเจ้าของทางการเงินของงานฝีมือที่ถูกส่งผ่านสำหรับรัฐบาลในการบริติชแอร์เวย์ที่ดำเนินงานฝีมือที่มีกำไร เป็นที่เชื่อว่าส่วนหนึ่งของเหตุผลสำหรับงานฝีมือถูกเกษียณในปี 2003 คือว่าในขณะที่พวกเขากำลังมีเหตุผลบริติชแอร์เวย์และแอร์ฟรานซ์ตระหนักว่าพวกเขาทำกำไรมากขึ้นจากผู้โดยสารที่จะได้บินคองคอร์ดโดยพวกเขาบินเฟิร์สคลาสบน เครื่องบินมาตรฐาน. จริงแปดเช่นเดียวกับที่บินเร็วกว่าเครื่องบินอื่น ๆ นอกจากนี้ยัง Concorde บินสูงขึ้นบินที่ระดับความสูงประมาณ 50,000 ถึง 55,500 ฟุต (แม้ว่ามันจะบินขึ้นไป 60,000 ฟุต) ที่ระดับความสูงนี้มันเป็นไปได้ที่จะเห็นความโค้งของโลกเช่นถ้าคุณอยู่บนขอบของพื้นที่ อากาศแปรปรวนของอากาศยังเป็นน้อยของปัญหาที่ความสูงที่มีความหมายเป็นเที่ยวบินเป็นหลุมเป็นบ่อน้อย. ความจริงเก้าConcorde บันทึกการเดินทางที่เร็วที่สุดจากนิวยอร์กไปลอนดอนในวันที่ 1 มกราคม 1983 การ 2 ชั่วโมง 56 นาที เป็นความบันเทิงในเที่ยวบินในเที่ยวบิน Concorde แต่คุณได้ฟรีแชมเปญและอาหารหรูบนเครื่องถ้วยชามเวดจ์. จริงสิบถึงปี 2000 เป็นเครื่องบินคองคอร์ดที่ปลอดภัยที่สุดในโลกโดยไม่เกิดความผิดพลาดและเสียชีวิตไม่มี หนึ่งใน Concordes เป็นของแอร์ฟรานซ์ตกอยู่ 25 กรกฎาคม 2000 หลังจากที่เศษซากจากการเจาะยางแตกถังน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นที่เชื่อว่าเศษได้ลดลงออกจากอากาศยานอื่นที่ดำเนินการโดยคอนติเนน Concorde หายไปรับรองความสมควรเดินอากาศในวันที่ 26 กรกฎาคม 2000 ไม่ฟื้นจนกระทั่ง 5 กันยายน 2001 และทำให้เที่ยวบินในการดำเนินงานเป็นครั้งแรกกับผู้โดยสาร (ไม่จ่ายพนักงานของสายการบิน) ในวันที่ 11 กันยายน 2001 มันกลับไปดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2001 แต่จบเหล่านี้ ในปี 2003 มีการบินแอร์ฟรานซ์เที่ยวบิน Concorde สุดท้ายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2003 และบริติชแอร์เวย์เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2003 นำเสนอโดยริชาร์ดแบรนสันจะซื้อเรือเดินสมุทร Concorde ที่เหลืออยู่และพวกเขาสำหรับการบินเวอร์จินแอตแลนติกถูกปฏิเสธ Concorde จะไม่บินอีกครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคองคอร์ด

ระหว่าง 2519 และปี 2003 มันก็รวย และมีชื่อเสียงทั่วโลกที่ความเร็วเหนือเสียง นี่คือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคองคอร์ดสิบหนึ่ง
.
concordefact คองคอร์ดเป็นเครื่องบินเชิงพาณิชย์เพียงสองเหนือจะผ่าตัดได้ อีกหนึ่งคือสหภาพโซเวียต ตูโปเลฟ ตู - 144 ซึ่งประสบความสำเร็จมากน้อย เริ่มต้น ผู้โดยสารเที่ยวบินในเดือนพฤศจิกายน ปี 1977สิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 1978 .

ความจริงสอง
Concorde ได้ถูกพัฒนาขึ้นโดยวิศวกรชาวอังกฤษและฝรั่งเศส . จัดเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาระหว่างสองประเทศมากกว่าความตกลงทางการค้า นี้หมายถึงว่า ถ้าทั้งประเทศถอยออกมาแล้วก็ทำสนธิสัญญาก็จะเผชิญบทลงโทษที่หนักทั้งสอง บริษัท ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนา ( อังกฤษเครื่องบินคอร์ปและฝรั่งเศสโรสปาเทล ) ที่ผสานเป็นหนึ่ง และทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเครื่องบิน

3
ความจริงของโลกหลายสาขาบริษัทสายการบินวางไว้ไม่ผูกพันสั่งซื้อเครื่องบิน Concorde แต่ส่วนใหญ่เหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากข้อตกลงที่จะไปข้างหน้ากับใด ๆของคำสั่งเนื่องจากปัจจัยหลายประการ ( ความล้มเหลวของสหภาพโซเวียตเครื่องบินเหนือความกังวลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและมลพิษทาง เสียง และต้นทุนของการซื้อและการดำเนินงานฝีมือ ) .มีแค่สองสายการบินที่ถูกทิ้งถูกฝรั่งเศสอากาศ และบริติช แอร์เวย์ และนั่นอาจเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากว่าทั้งสองประเทศสร้างอากาศยาน รวม 20 concordes ถูกสร้างขึ้นและ 14 บินในเชิงพาณิชย์ 7 ฝรั่งเศสและอังกฤษ 7 .

4
เป็นข้อเท็จจริงคองคอร์ดเดินทางที่มากกว่าสองเท่าของความเร็วเสียง ( Mach 2.0 หรือประมาณ 1520 mph ) , มันสร้างบูมโซนิคซึ่งอาจเสียงเหมือนบางดัง แตกหรือก้องลึก นี้เสียงดังและการร้องเรียนที่ย่อมมาด้วยทำให้ Concorde ไม่สามารถบินบางเส้นทาง หรือต้องบินซบ sonically ( ที่ความเร็วของสายการบินปกติ ) ให้เสร็จสมบูรณ์การเดินทางที่แน่นอน มันเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักว่าทำไมสายการบินถอนตัวจากการซื้อหรือพัฒนาตนเอง concordes เครื่องบินเหนือเสียง


ความจริงห้านายกรัฐมนตรีอังกฤษฮาโรลด์เปลี่ยนชื่อคองคอร์ดจะน้อยกว่าฝรั่งเศสดู Concord เป็นวิธีประชดของเขา ฝรั่งเศส คู่ อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีของรัฐบาลอังกฤษ เทคโนโลยี โทนี่เบนน์ เปลี่ยนมันกลับไปที่ Concorde ด้วย " E " เสียงคร่ำครวญอย่าง อังกฤษ เขากล่าวว่า " E " สุดท้ายยืนเป็นเลิศ อังกฤษ ยุโรป และความสัมพันธ์ ( เช่นในความสัมพันธ์ฉันมิตร )ในการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนจากพันทิปที่ชี้ให้เห็นว่า คองคอร์ด คืออังกฤษ และไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษ เบน อ้างว่า " E " ยังยืนสำหรับทวีป , คำภาษาฝรั่งเศสสำหรับสกอตแลนด์ มันเป็นดีมาก และเวลส์ ไอริชไม่ได้เริ่มโอดครวญซะทีเถอะ �

ความจริงหก
Concorde 001 ( ของฝรั่งเศส ) ได้บินทดสอบครั้งแรกเมื่อ 2 มีนาคม 1969Concorde 002 ( สร้างขึ้นใน UK ) ก่อนบินในวันที่ 9 เมษายน 2512 โฆษณาเที่ยวบินแรกของคองคอร์ดเอาสถานที่ใน 21 มกราคม 1976 . บริติชแอร์เวย์บินคองคอร์ดจากสนามบิน Heathrow ไปยังบาห์เรน และ Air France บินจากปารีสไปริโอ บริติช แอร์เวย์ คองคอร์ดเที่ยวบินจากลอนดอนไปนิวยอร์ค และกลับมาใช้หมายเลขเที่ยวบิน ba001 เพื่อ ba004 . ตั้งแต่เกษียณของคองคอร์ดหมายเลขเที่ยวบินเหล่านี้ไม่มีการใช้อีกต่อไป

ความจริง 7
สำหรับครั้งแรกไม่กี่ปี คองคอร์ดดำเนินการขาดทุน รัฐบาลอังกฤษ ซึ่งทุนด้านอังกฤษของโครงการคองคอร์ด เอา 80% ของ Concorde ของรายได้ มันถูกค้นพบใน eighties ต้นที่สาธารณชนรับรู้ภาวะที่ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่จะบินมันกว่าจริงทำดังนั้น ราคา ถูก วาง สิ่งที่คนคิดว่าพวกเขา และน้ำมันราคาลด หลินฮุ่ยเริ่มหาเงิน ในปี 1984 ความเป็นเจ้าของทางการเงินของงานฝีมือถูกผ่านไปให้รัฐบาลบริติช แอร์เวย์ ที่ดำเนินการงานฝีมือที่มีกำไร เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลสำหรับงานฝีมือที่เกษียณในปี 2003 คือว่าในขณะที่พวกเขาถูกกักบริเวณบริติชแอร์เวย์และสายการบินฝรั่งเศสตระหนักว่าพวกเขาสร้างกำไรเพิ่มเติมจากผู้โดยสารที่ต้องบินใน คองคอร์ด โดยพวกเขาบินชั้นหนึ่งบนเครื่องบินตามมาตรฐานของตนเอง เนื่องจากแปด


เป็นบินเร็วกว่ากันเครื่องบิน , Concorde ยังบินสูง บินที่ระดับความสูงประมาณ 50 , 000 55500 ฟุต ( แม้ว่ามันอาจจะบินได้ถึง 60 , 000 ฟุต ) ที่ความสูงระดับนี้มันเป็นไปได้ที่จะเห็นความโค้งของโลกว่าคุณอยู่บนขอบของพื้นที่ air turbulance ยังเป็นน้อยของปัญหาความสูงหมายถึงเที่ยวบินเป็นหลุมเป็นบ่อน้อยลง




ความจริงเก้าบันทึกเร็วที่สุดของคองคอร์ด เดินทางจากนิวยอร์กไปลอนดอนในวันที่ 1 มกราคม 1983 กิน 2 ชั่วโมง 56 นาที ไม่มีอะไรในเที่ยวบินบันเทิงในเที่ยวบินคองคอร์ดแต่คุณมีแชมเปญฟรีและอาหารหรูในเวดจ์วู้ดถ้วยชาม


ความจริงสิบถึง 2000 คองคอร์ดเป็นเครื่องบินของโลกที่ปลอดภัย ไม่ล่ม และไม่เสียชีวิต หนึ่งใน concordes เป็นของแอร์ฟรานซ์ตกบน 25 กรกฎาคม 2543 หลังจากทะลุฉีกขาด เศษยางเชื้อเพลิงถัง เชื่อกันว่า เศษหลุดไปอีกอากาศยานที่ดำเนินการโดยคอนติเนน .ภาวะสูญเสียใบรับรองของ airworthiness เมื่อ 26 กรกฎาคม 2000 ไม่ฟื้น จนกระทั่ง วันที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2544 และทำให้เที่ยวบินปฏิบัติการครั้งแรกกับผู้โดยสารไม่จ่ายพนักงานสายการบิน ) ในวันที่ 11 กันยายน ปี 2001มันกลับไปที่ธุรกิจใน 7 พฤศจิกายน 2544 แต่สิ้นสุดเหล่านี้ในปี 2003 กับแอร์ฟรานซ์บินคองคอร์ดเที่ยวบินสุดท้ายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2546 และบริติชแอร์เวย์ ในวันที่ 24 ตุลาคม 2546 ข้อเสนอโดยริชาร์ด แบรนสันซื้อที่เหลืออย่างรวดเร็ว และบินคองคอร์ดสำหรับเวอร์จินแอตแลนติกถูกปฏิเสธ ใกล้จะได้บินอีกครั้ง