As the many socio-political revolut

As the many socio-political revolutions of the late eighteenth-century established new social orders and new ways of life and thought, so composers of the period broke new musical ground by adding a new emotional depth to the prevailing classical forms. Throughout the remainder of the nineteenth-century (from ca. 1820 to 1900), artists of all kinds became intent in expressing their subjective, personal emotions. "Romanticism" derives its name from the romances of medieval times

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นปฏิวัติการเมืองหลายสายราชศตวรรษก่อตั้งสังคมการใบสั่งใหม่และวิธีการใหม่ของชีวิตและความคิด ดังนั้นคีตกวีของขาดดินดนตรีใหม่ โดยเพิ่มความลึกทางอารมณ์ใหม่แบบคลาสสิกเป็น ตลอดส่วนที่เหลือของศตวรรษปั้นจั่น (จาก ca. 1820 ถึง 1900), ศิลปินทุกชนิดกลายเป็น เจตนาในการแสดงอารมณ์ของพวกเขาตามอัตวิสัย ส่วนบุคคล "ศิลปะจินตนิยม" มาเป็นชื่อจาก romances ของยุคกลาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขณะที่การปฏิวัติทางสังคมและการเมืองจำนวนมากในช่วงปลายศตวรรษที่สิบแปดที่เป็นที่ยอมรับคำสั่งทางสังคมใหม่และวิธีการใหม่ของชีวิตและความคิดเพื่อให้นักประพันธ์เพลงแห่งยุคยากจนพื้นดนตรีใหม่โดยการเพิ่มความลึกทางอารมณ์ใหม่ในรูปแบบคลาสสิกที่เกิดขึ้น ตลอดที่เหลือของศตวรรษที่สิบเก้าที่ (จากแคลิฟอร์เนีย 1820-1900) ศิลปินทุกชนิดกลายเป็นความตั้งใจในการแสดงทัศนะของพวกเขาอารมณ์ส่วนบุคคล "โรแมนติก" ล้วนมาจากชื่อความรักของยุคกลาง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นหลายสังคมการปฏิวัติทางการเมืองของศตวรรษที่สิบแปดปลายสร้างสังคมใหม่คำสั่งและวิธีการใหม่ของชีวิตและความคิด ดังนั้น ผู้แต่งระยะเวลายากจนพื้นดนตรีใหม่โดยเพิ่มความลึกทางอารมณ์ใหม่ที่ออกคลาสสิกรูปแบบ ตลอดที่เหลือของศตวรรษที่ ( จากแคลิฟอร์เนีย 1820 1900 ) ศิลปินทุกชนิดกลายเป็นความตั้งใจในการแสดงของพวกเขา อัตนัยอารมณ์ส่วนตัว” ศิลปะโรแมนติกซิสม์ " มาจากชื่อของมันจากความรักของยุคกลางครั้ง