Falaras proposes that IRand Raman s

Falaras proposes that IR
and Raman spectra support chemical bonding through ester
formation B on the surface [14]. Duffy et al. [15], on the
other hand, strongly suggest surface coordination involves
syn–syn bridging between two surface titanium atoms D,
whilst Ma et al. [16], with their studies on porphyrin dye
systems using IR evidence, maintain that both C and D
binding is involved. However, recently Weng et al. [17], using
a new interface-sensitive molecular probe method with
all-trans-retinoic acid, showed that 63% of surface binding
arises from ester formation B, 34% from chelating C and
bridging D, and 3% from anion A and hydrogen bonding

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Falaras เสนอที่ IRและแรมสเป็คตรารามันสนับสนุนงานเคมีผ่านเอสก่อตัวที่ B บนผิว [14] Al. ร้อยเอ็ดดัฟฟี [15], ในการอีก ขอแนะนำประสานงานพื้นผิวที่เกี่ยวข้องsyn – syn ที่เชื่อมโยงระหว่างสองอะตอมผิวไทเทเนียม Dในขณะที่ al. et Ma [16], มีการศึกษา porphyrin ย้อมระบบที่ใช้หลักฐาน IR รักษาที่ C และ Dเกี่ยวข้องกับการผูก อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเตอรองต์ et al. [17], การใช้วิธีโพรบโมเลกุลลับของอินเทอร์เฟซใหม่ด้วยทั้งหมดทรานส์-retinoic กรด พบว่า 63% ของพื้นผิวรวมเกิดจากการก่อตัวเอส B, 34% จาก chelating C และระหว่างกาล D และ 3% จาก anion A และไฮโดรเจนยึด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Falaras แนะว่า IR
และรามันสเปกตรัมสนับสนุนพันธะเคมีผ่านเอสเตอร์ก่อ B บนพื้นผิว [14]
ดัฟฟี่, et al [15]
ในมืออื่นๆ
ที่ขอแนะนำประสานงานพื้นผิวที่เกี่ยวข้องกับการแก้Syn-SYN ระหว่างสองไทเทเนียมผิวอะตอม D,
ขณะ Ma et al, [16], กับการศึกษาของพวกเขาใน porphyrin
ย้อมระบบโดยใช้หลักฐานIR รักษาว่าทั้ง C และ D
มีผลผูกพันที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆ Weng et al, [17]
โดยใช้วิธีการสอบสวนโมเลกุลอินเตอร์เฟซที่ไวต่อใหม่ที่มีกรดทั้งหมดทรานส์
retinoic แสดงให้เห็นว่า 63% ของพื้นผิวที่มีผลผูกพันที่เกิดจากการก่อตัวของเอสเตอร์ B, 34% จากคีเลตซีและแก้D และ 3% จากประจุลบและ ไฮโดรเจน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

falaras เสนอว่า IR spectra และสนับสนุน
รามันพันธะเคมีผ่านเอสเทอร์
รูปแบบ B บนผิว [ 14 ] ดัฟฟี่ et al . [ 15 ] , บนมืออื่น ๆขอแนะนำให้ประสานงาน
,
; ; พื้นผิวที่เกี่ยวข้องกับ–เชื่อมระหว่างสองพื้นผิวไทเทเนียมอะตอม D
ในขณะที่ ma et al . [ 16 ] กับการศึกษาของพวกเขาบนพอร์ไพรินย้อม
ระบบโดยใช้หลักฐานและ , รักษา ทั้ง C และ D
เป็นความผูกพันที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆนี้เวง et al . [ 17 ] , การใช้อินเตอร์เฟซใหม่ที่มีโมเลกุลโพรบ

ทั้งหมดด้วยวิธีทรานส์ retinoic acid พบว่า 63% ของพื้นผิวที่เกิดจากการก่อตัว
ผูกเ บี และซี และ 34% จาก
กาล D และ 3 % จากประจุลบ และไฮโดรเจน เชื่อม