This study was conducted to see whe

This study was conducted to see whether fatalism is an important factor in explaining occupational acci-dents among medical waste operatives in Dhaka, Bangladesh. Data were collected using a variety of qual-itative techniques and included observation, formal and informal dialogue. Sampling strategies included
formal representative sampling, purposive and authoritative sampling. Employers did not supply PPE or
offer training to their staff. Most workers (73%) did not wear PPE regularly, and a further 18% wore only
insufficient PPE. Consequently, most waste workers (95%) reported that they had experienced occupa-tional accidents, mostly (75%) from used needles and other sharps. These observations were associated
with fatalistic beliefs among the participants, both managers and employees, who attributed these events
to ‘‘ fate ’’ reflecting their perceived lack of control over such accidents. This study reveals many examples
of a lack of organisational awareness that can occur within a culture of fatalism.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ได้ดำเนินการเพื่อดูว่า fatalism เป็นปัจจัยสำคัญในการอธิบาย acci dents อาชีวระหว่างนั่นเองเสียทางการแพทย์ในกรุงธากา บังกลาเทศ ข้อมูลถูกเก็บรวบรวมโดยใช้เทคนิค qual itative ต่าง ๆ และรวมการสังเกต การเจรจาอย่างเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ สุ่มตัวอย่างกลยุทธ์รวมสุ่มตัวแทนอย่างเป็นทางการ สุ่มตัวอย่าง purposive และไทม์ นายจ้างไม่ได้จัดหาบริษัทพีพีอี หรือมีการฝึกอบรมพนักงานของตน แรงงานส่วนใหญ่ (73%) ไม่ได้ใส่บริษัทพีพีอีเป็นประจำ และ 18% เพิ่มเติมสวมเท่านั้นบริษัทพีพีอีพอ ดังนั้น แรงงานเสียส่วนใหญ่ (95%) รายงานว่า พวกเขามีประสบการณ์ occupa tional อุบัติเหตุ ส่วนใหญ่ (75%) จากใช้เข็มและ sharps อื่น ๆ ข้อสังเกตเหล่านี้ถูกเชื่อมโยงด้วยความเชื่อ fatalistic ระหว่างผู้เข้าร่วม ผู้จัดการและพนักงาน บันทึกเหตุการณ์เหล่านี้กับ "ชะตากรรม" สะท้อนให้เห็นถึงการขาดการรับรู้การควบคุมอุบัติเหตุดังกล่าว การศึกษานี้พบว่า ตัวอย่างมากของการขาดจิตสำนึกที่เกิดขึ้นในวัฒนธรรมของ fatalism organisational

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการเพื่อดูว่าโชคชะตาเป็นปัจจัยสำคัญในการอธิบายการประกอบอาชีพ Acci บุบท่ามกลางปฏิบัติการของเสียทางการแพทย์ในกรุงธากาประเทศบังคลาเทศ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ความหลากหลายของเทคนิค qual-itative และรวมถึงการสังเกตอย่างเป็นทางการและการเจรจาทางการ กลยุทธ์การเก็บตัวอย่างรวมถึง
การเก็บตัวอย่างที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของการสุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจงและมีอำนาจ นายจ้างไม่ได้จัดหา PPE หรือ
ข้อเสนอการฝึกอบรมให้พนักงานของตน คนงานส่วนใหญ่ (73%) ไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่างสม่ำเสมอและอีก 18% สวมเพียง
ไม่เพียงพอการป้องกันส่วนบุคคล ดังนั้นส่วนใหญ่คนงานเสีย (95%) รายงานว่าพวกเขามีประสบการณ์การเกิดอุบัติเหตุ occupa-tional ส่วนใหญ่ (75%) จากการใช้เข็มที่คมอื่น ๆ ข้อสังเกตเหล่านี้มีความเกี่ยวข้อง
กับความเชื่อเอาชีวิตระหว่างผู้เข้าร่วมผู้จัดการและพนักงานที่ประกอบกิจกรรมเหล่านี้
จะ '' โชคชะตา '' สะท้อนให้เห็นถึงการขาดการรับรู้ของพวกเขาในการควบคุมการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นตัวอย่างมากมาย
ของการขาดความตระหนักขององค์กรที่สามารถเกิดขึ้นภายในวัฒนธรรมของโชคชะตา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อดูว่า เชื่อโชคชะฅาเป็นปัจจัยสำคัญในการอธิบายการบุบของของเสียทางการแพทย์อุบัติรณในกรุงธากาบังคลาเทศ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้ความหลากหลายของเทคนิค itative qual รวมถึงการสังเกตแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ การสนทนา กลยุทธ์จำนวน
ตัวแทนตัวอย่างเป็นทางการ แบบเจาะจง และเผด็จการ การสุ่มตัวอย่างนายจ้างไม่ใส่ PPE หรือ
เสนอการฝึกอบรมพนักงานของตน คนงานส่วนใหญ่ ( 73% ) ไม่สวม PPE เป็นประจำ และอีกร้อยละ 18 เท่านั้น
ไม่เพียงพอใส่ PPE . ดังนั้นคนงานเสียส่วนใหญ่ ( 95% ) รายงานว่าพวกเขามีประสบการณ์ occupa tional อุบัติเหตุส่วนใหญ่ ( 75% ) จากการใช้เข็มและของมีคมอื่น ๆ ข้อสังเกตเหล่านี้ถูกเชื่อมโยงกับความเชื่อในหมู่ผู้เชื่อโชคชะตา
,ทั้งผู้บริหาร และพนักงาน ที่เกิดจากเหตุการณ์เหล่านี้
' ' โชคชะตา ' ' สะท้อนการรับรู้ของพวกเขาขาดการควบคุม เช่น การเกิดอุบัติเหตุ การศึกษาครั้งนี้ พบตัวอย่างมากมาย
ขาดองค์กรความรู้ที่สามารถเกิดขึ้นภายในวัฒนธรรมเชื่อโชคชะฅา .