This study was performed to investi

This study was performed to investigate the influence of ultrasound processing on tomato pulp containing no sunflower oil, or increasing amounts (i.e. 2.5%, 5% and 10%), on lycopene concentration and in vitro bioaccessibility at time zero and during storage at 5 °C. Results confirmed previous findings in that ultrasonication was responsible for cell breakage and subsequent lycopene release in a highly viscous matrix. Neither the ultrasound process nor oil addition affected lycopene concentration. A decrease of approximately 35% lycopene content occurred at storage times longer than 15 days, due to isomerisation and oxidation reactions. No differences in lycopene in vitro bioaccessibility were found between the untreated and ultrasonically treated samples; this parameter decreased as a consequence of oil addition. Losses of lycopene in vitro bioaccessibility ranging between 50% and 80% occurred in the untreated and ultrasonically treated tomato pulps with and without oil during storage, mainly due to carotenoid degradation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ทำเพื่อตรวจสอบอิทธิพลของอัลตร้าซาวด์ในการประมวลผลบนเยื่อมะเขือเทศประกอบด้วยน้ำมันดอกทานตะวันไม่ หรือเพิ่มขึ้น (เช่น 2.5%, 5% และ 10%), lycopene เข้มข้นและ bioaccessibility ในเวลาศูนย์ และ ระหว่างการเก็บรักษาที่ 5 องศาเซลเซียส ผลยืนยันผลการวิจัยก่อนหน้านี้ที่ ultrasonication ไม่ชอบเซลล์เคมีฯ และ lycopene ภายหลังปล่อยในเมทริกซ์ความหนืดสูง ไม่ซาวด์กระบวนหรือน้ำมันเพิ่มผลความเข้มข้นของ lycopene ลดลงประมาณ 35% lycopene เนื้อหาเกิดขึ้นนานกว่า 15 วัน เนื่องจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและ isomerisation เวลาเก็บ ไม่มีความแตกต่างของ lycopene ในหลอด bioaccessibility พบระหว่างตัวอย่างไม่ถูกรักษา และบำบัด ultrasonically พารามิเตอร์นี้ลดลงเป็นลำดับเพิ่มน้ำมัน ขาดทุนของ lycopene ในหลอด bioaccessibility ระหว่าง 50 และ 80% เกิดขึ้นใน pulps ไม่ถูกรักษา และบำบัด ultrasonically มะเขือเทศที่มี และไม่ มีน้ำมันระหว่างการเก็บรักษา ส่วนใหญ่เนื่องจากย่อยสลาย carotenoid

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้ได้รับการดำเนินการเพื่อตรวจสอบอิทธิพลของการประมวลผลอัลตราซาวนด์ในเยื่อมะเขือเทศที่มีน้ำมันดอกทานตะวันไม่มีหรือจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น (เช่น 2.5%, 5% และ 10%), กับความเข้มข้นของไลโคปีนและในหลอดทดลอง bioaccessibility ในเวลาที่ศูนย์และระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศา C. ได้รับการยืนยันผลการค้นพบก่อนหน้านี้ใน ultrasonication ว่าเป็นความรับผิดชอบของการแตกของเซลล์และปล่อยไลโคปีนที่ตามมาในเมทริกซ์ความหนืดสูง ทั้งขั้นตอนการอัลตราซาวนด์หรือน้ำมันได้รับผลกระทบนอกจากนี้ความเข้มข้นของไลโคปีน ลดลงประมาณ 35% เนื้อหาไลโคปีนที่เกิดขึ้นในเวลาการเก็บรักษาได้นานกว่า 15 วันเนื่องจาก isomerisation และปฏิกิริยาออกซิเดชัน ไม่มีความแตกต่างในไลโคปีนใน bioaccessibility หลอดทดลองที่พบระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการรักษาและการรักษา ultrasonically; พารามิเตอร์นี้ลดลงเป็นผลมาจากการเพิ่มน้ำมัน ความสูญเสียของไลโคปีนในหลอดทดลอง bioaccessibility ระหว่าง 50% และ 80% เกิดขึ้นในได้รับการรักษาและการรักษา ultrasonically เนื้อมะเขือเทศที่มีและไม่มีน้ำมันระหว่างการเก็บรักษาส่วนใหญ่เกิดจากการย่อยสลาย carotenoid

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้ได้ทำการศึกษาอิทธิพลของชนิดที่ไม่มีการประมวลผลบนมะเขือเทศผลิตน้ำมันทานตะวัน หรือปริมาณที่เพิ่มขึ้น ( เช่น 2.5% , 5% และ 10% ) , ไลโคปีนความเข้มข้นและในหลอดทดลอง bioaccessibility เวลาที่ศูนย์ และระหว่างการเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 5 องศายืนยันก่อนหน้านี้พบใน ultrasonication เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับการแตกเซลล์ และต่อมาไลโคปีนปล่อยในเมทริกซ์หนืดสูง . ทั้งกระบวนการ หรือน้ำมันได้รับผลกระทบจากอัลตร้าซาวน์ไลโคปีนความเข้มข้น การลดลงของปริมาณไลโคพีนประมาณ 35% เกิดขึ้นอีกครั้ง กระเป๋า มากกว่า 15 วัน เนื่องจากปฏิกิริยา isomerisation และออกซิเดชันไม่มีความแตกต่างในไลโคปีนในหลอดทดลอง bioaccessibility พบระหว่างตัวอย่างและการรักษา ultrasonically ; พารามิเตอร์นี้ลดลงเป็นผลมาจากการเพิ่มน้ำมัน ความสูญเสียของไลโคปีนในหลอดทดลอง bioaccessibility ตั้งแต่ระหว่าง 50% และ 80% เกิดขึ้นในไม่ ultrasonically รักษาเยื่อและมะเขือเทศที่มีและไม่มีน้ำมันในช่วงกระเป๋า ส่วนใหญ่เนื่องจากในการย่อยสลาย