species performs better in the expo

species performs better in the exposed conditions of the
restoration sites. The study shows that to ensure the high survival
of seedlings, planting should be conducted when the substrate of
the restoration site has stabilized after fence construction.
Practical methods for fence establishment have been developed
and tested in over 3 years in restoration site of Kien Giang Province.
The design is being applied by IUCN in collaboration with GIZ,
Department of Natural Resources and Environment, Forest
Protection Management Board and local communities under the
project “Building Resilience to Climate Change Impacts in Coastal
Southeast Asia” that constructed 900 m Melaleuca fences near the
study site to protect mangrove belt from erosion and support for
mud accumulation and recruitment (Hung and To, 2014).
Construction of fences for mangrove restoration is also planned
in Kien Giang, (Kien Giang DARD, 2010) funded by ODA loan
projects of German Bank (KFW) and Asian Development Bank
(ADB) for the period 2011–2020. These projects will provide a test
of how these techniques can be scaled up for mangrove forest
restoration, coastal rehabilitation and shoreline erosion control at
the scale needed to effect improvements in coastal management in
the tropics.
Mangrove restoration is expensive and is only cost effective if it
follows good planning design (Lewis, 2005). Construction costs
often vary with the materials and construction methods used.
Melaleuca fences are much cheaper than other wave reduction
barriers (see e.g., Stewart and Fairfull, 2008; Hashim et al., 2010;
Albers and Lieberman, 2011; Ca Mau DARD, 2012). In Kien Giang,
the proposed planting cost of traditional planting method in
depositional site is 2450 USD/ha (Kien Giang DARD, 2010)
compared to 1000–1600 USD/ha for fence construction (silt trap
fence). In eroding sites, planting advanced saplings costs 7400
USD/ha compared to 6000–6500 USD/ha for fencing (wave barrier
and silt trap fences), including damaged repairing and mainte-
nance cost.
Melaleuca is a native in the Mekong Delta and the most
appropriate plant species that can tolerate the extreme acid
sulphate soil conditions of the delta. Melaleuca also plays a vital
role in prevention to the formation process of acid sulphate soil
(Cuong and Dart, 2011; To et al., 2011). Using local materials like
Melaleuca poles for fence construction will increase the monetary
value of this species which has significantly declined in the market
recently (To et al., 2011; Trung, 2008). Perhaps, it might encourage
farmers to maintain Melaleuca plantations for both income and
environmental benefits. Furthermore, all branches of Melaleuca
are used in building wave break fences. This does not only bring
additional income for farmers but also reduces gas emissions from
the common practice of burning residuals after harvesting.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พันธุ์ดำเนินการดีขึ้นในการสัมผัสของการคืนค่าไซต์ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าเพื่อให้การอยู่รอดสูงของกล้าไม้ การปลูกควรดำเนินการเมื่อพื้นผิวของคืนค่าไซต์ได้เสถียรหลังจากก่อสร้างรั้วได้รับการพัฒนาวิธีการปฏิบัติสำหรับก่อรั้วและผ่านการทดสอบใน 3 ปีในการคืนค่าไซต์เคียนเกียงจังหวัดการออกแบบจะถูกใช้เพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติร่วมกับ GIZกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าคณะกรรมการจัดการป้องกันและชุมชนท้องถิ่นภายใต้การโครงการ "อาคารความยืดหยุ่นกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงผลกระทบในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้"ที่สร้าง 900 m มาลาลิวค่ารั้วใกล้ไซต์เพื่อป้องกันในแถบป่าชายเลนจากการกัดเซาะ และสนับสนุนศึกษาโคลนสะสมและสรรหาบุคลากร (ฮัง และ 2014)นอกจากนี้ยังมีการวางแผนก่อสร้างกรอบสำหรับการฟื้นฟูป่าชายเลนในเกียนยาง, (เคียนเกียง DARD, 2010) รับการสนับสนุนเงินกู้ลโอะดะโครงการของธนาคารเยอรมัน (KFW) ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB) สำหรับรอบระยะเวลา 2011-2020 โครงการเหล่านี้จะมีการทดสอบเทคนิควิธีเหล่านี้สามารถปรับค่าสำหรับป่าชายเลนคืน ฟื้นฟูชายฝั่ง และควบคุมการพังทลายของชายฝั่งที่มาตราส่วนที่ต้องปรับปรุงมีผลในการจัดการชายฝั่งในเขตร้อนฟื้นฟูป่าชายเลนมีราคาแพง และเป็นต้นทุนเฉพาะที่มีประสิทธิภาพนั้นตามการออกแบบการวางแผนที่ดี (Lewis, 2005) ต้นทุนการก่อสร้างมักจะแตกต่างกับวัสดุและวิธีการก่อสร้างที่ใช้กรอบมาลาลิวค่าถูกมากถูกกว่าลดคลื่นอื่น ๆอุปสรรค (ดูเช่น สจ๊วตและ Fairfull, 2008 ฮาชิม et al., 2010Albers และ Lieberman, 2011 ก่า DARD, 2012) ในเกียนยางต้นทุนปลูกนำเสนอวิธีการปลูกแบบดั้งเดิมในการเว็บไซต์ depositional เป็น 2450 USD/ฮา (เคียนเกียง DARD, 2010)เมื่อเทียบกับ USD 1000 – 1600/ฮา สำหรับการก่อสร้างรั้ว (ดักตะกอนริ้ว) ในการกัดเซาะไซต์ ปลูกกล้าไม้และประสงค์ขั้นสูงต้นทุน 7400USD/ฮา เมื่อเทียบกับ USD 6000 – 6500/ฮา สำหรับฟันดาบ (กั้นคลื่นและกรอบดักตะกอน), รวมทั้งความเสียหายการซ่อมแซมและ mainte -nance ต้นทุนมาลาลิวค่าเป็นคนพื้นเมือง ในสามเหลี่ยม ปากแม่น้ำโขง และมากที่สุดชนิดพืชที่เหมาะสมที่สามารถทนกรดมากสภาพดินซัลเฟตของเดลต้า มาลาลิวค่ายังเล่นเป็นสำคัญบทบาทในการป้องกันการการก่อตัวของดินกรดซัลเฟต(กวงและโผ 2011 ไปร้อยเอ็ด al., 2011) ใช้วัสดุท้องถิ่นเช่นมาลาลิวค่าเสาสำหรับการก่อสร้างรั้วจะเพิ่มการเงินค่าพันธุ์นี้ซึ่งได้ปฏิเสธอย่างมีนัยสำคัญในตลาดเมื่อเร็ว ๆ นี้ (ไปร้อยเอ็ด al., 2011 ตรัง 2008) บางที อาจสนับสนุนให้เกษตรกรจะรักษาสวนมาลาลิวค่าสำหรับรายได้ทั้งสอง และประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ทุกสาขาของมาลาลิวค่าใช้ในการสร้างรั้วแบ่งคลื่น นี้ไม่เพียงนำรายได้เกษตรกรเพิ่มเติม แต่ยัง ช่วยลดการปล่อยก๊าซจากขนบการเขียนค่าคงเหลือหลังจากเก็บเกี่ยว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าในสภาวะที่สัมผัสของเว็บไซต์การฟื้นฟู
ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเพื่อให้แน่ใจว่าการรอดตายสูงของต้นกล้าปลูกควรจะดำเนินการเมื่อพื้นผิวของเว็บไซต์ฟื้นฟูมีเสถียรภาพหลังจากการก่อสร้างรั้ว. วิธีปฏิบัติสำหรับการจัดตั้งรั้วได้รับการพัฒนาและทดสอบในรอบ 3 ปีในเว็บไซต์ฟื้นฟู Kien Giang จังหวัด . การออกแบบที่จะถูกนำมาใช้โดย IUCN ในความร่วมมือกับ GIZ, กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมป่าไม้คณะกรรมการบริหารการป้องกันและชุมชนท้องถิ่นภายใต้โครงการ"การกลับคืนสู่ปกติอาคารเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศผลกระทบในชายฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" ที่สร้าง 900 เมตรรั้วเสม็ดใกล้ เว็บไซต์การศึกษาเพื่อป้องกันเข็มขัดป่าชายเลนจากการกัดเซาะและการสนับสนุนสำหรับการสะสมโคลนและการรับสมัคร (Hung และ 2014). การก่อสร้างรั้วเพื่อการฟื้นฟูป่าชายเลนนอกจากนี้ยังมีการวางแผนใน Kien Giang (Kien Giang dard 2010) ได้รับทุนจากเงินกู้ ODA โครงการของเยอรมัน ธนาคาร (KFW) และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB) สำหรับรอบระยะเวลา 2011-2020 โครงการเหล่านี้จะช่วยให้การทดสอบของวิธีการเทคนิคเหล่านี้สามารถปรับขนาดสำหรับป่าชายเลนฟื้นฟูฟื้นฟูชายฝั่งและการควบคุมการกัดเซาะชายฝั่งในระดับที่จำเป็นที่จะทำให้เกิดการปรับปรุงในการจัดการชายฝั่งทะเลในเขตร้อน. ฟื้นฟูป่าชายเลนมีราคาแพงและเป็นเพียงค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพถ้ามันต่อไปนี้การออกแบบการวางแผนที่ดี (ลูอิส 2005) ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างมักจะแตกต่างกันไปด้วยวัสดุและวิธีการก่อสร้างที่ใช้. รั้วเสม็ดมีมากราคาถูกกว่าการลดลงของคลื่นอื่น ๆอุปสรรค (ดูเช่นสจ๊วตและ Fairfull 2008; ฮิ et al, 2010;. Albers และลีเบอร์แมน 2011; Ca Mau dard 2012 ) Kien Giang ใน, ค่าใช้จ่ายในการปลูกที่นำเสนอวิธีการปลูกแบบดั้งเดิมในเว็บไซต์สะสมเป็น 2,450 เหรียญสหรัฐ / ไร่ (Kien Giang dard 2010) เมื่อเทียบกับ 1,000-1,600 เหรียญสหรัฐ / ไร่สำหรับการก่อสร้างรั้ว (กับดักตะกอนรั้ว) กัดเซาะในเว็บไซต์ปลูกต้นกล้าที่สูงค่าใช้จ่าย 7,400 เหรียญสหรัฐ / ไร่เมื่อเทียบกับ 6,000-6,500 เหรียญสหรัฐ / ไร่สำหรับรั้ว (กั้นคลื่นและรั้วดักตะกอน) รวมทั้งการซ่อมแซมความเสียหายและรักษาจะเสียค่าใช้จ่ายบำรุง. เสม็ดเป็นชนพื้นเมืองในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงและที่ มากที่สุดสายพันธุ์พืชที่เหมาะสมที่สามารถทนต่อกรดมากสภาพดินซัลเฟตของเดลต้า เสม็ดยังเล่นที่สำคัญบทบาทในการป้องกันกระบวนการก่อตัวของดินที่เป็นกรด(Cuong และโผ 2011;. ในการ et al, 2011) โดยใช้วัสดุในท้องถิ่นเช่นเสาเสม็ดสำหรับการก่อสร้างรั้วจะเพิ่มขึ้นการเงินมูลค่าของสายพันธุ์นี้ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญได้ในตลาดเมื่อเร็วๆ นี้ (หากต้องการ et al, 2011;. ตรัง 2008) บางทีมันอาจจะส่งเสริมให้เกษตรกรที่จะรักษาสวนเสม็ดทั้งรายได้และผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ทุกสาขาของเสม็ดที่ใช้ในการแบ่งคลื่นรั้วอาคาร นี้ไม่เพียง แต่นำรายได้เพิ่มเติมให้กับเกษตรกรแต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซจากการปฏิบัติร่วมกันของการเผาไหม้ที่เหลือหลังการเก็บเกี่ยว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชนิดมีประสิทธิภาพดีกว่าในเปิดเผยเงื่อนไขของ
บูรณะเว็บไซต์ ผลการศึกษาพบว่า เพื่อให้แน่ใจว่าสูงรอด
ต้นกล้าปลูกควรจะดำเนินการเมื่อพื้นผิวของ
การฟื้นฟูเว็บไซต์ที่มีเสถียรภาพ หลังจากการก่อสร้างรั้ว .
วิธีปฏิบัติสำหรับการจัดตั้งรั้วได้รับการพัฒนา
และทดสอบใน 3 ปี ในการฟื้นฟูเว็บไซต์ของจังหวัดเกียงยาง
.การออกแบบจะถูกใช้โดย IUCN ในความร่วมมือกับ giz
, กรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป่าไม้
การป้องกันการจัดการคณะกรรมการชุมชนและท้องถิ่น ภายใต้โครงการ " การสร้างความยืดหยุ่น
กับผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ชายฝั่ง
" ที่สร้าง 900 M melaleuca รั้วใกล้
ศึกษาเว็บไซต์เพื่อปกป้องป่าชายเลนจากการกัดเซาะและการสนับสนุนเข็มขัด สำหรับ
การโคลนและการสรรหา ( แขวนและ 2014 ) .
ก่อสร้างรั้วเพื่อการฟื้นฟูป่าชายเลนยังวางแผน
ในเกียนยาง ( เกียนยาง dard 2010 ) สนับสนุนสินเชื่อโครงการของธนาคารเยอรมันโอดะ
( หน้าจอ ) และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย ( ADB ) สำหรับระยะเวลา
2011 – 2020 โครงการนี้จะให้ทดสอบ
ว่าเทคนิคเหล่านี้สามารถปรับขนาดขึ้นเพื่อการฟื้นฟูป่า
ป่าชายเลนฟื้นฟูชายฝั่งและการควบคุมการกัดเซาะชายฝั่ง
ขนาดต้องการผลในการปรับปรุงการจัดการชายฝั่งในเขตร้อน
.
ฟื้นฟูป่าชายเลน มีราคาแพงและเป็นเพียงค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพถ้า
ตามการออกแบบการวางแผนที่ดี ( Lewis , 2005 ) ต้นทุนการก่อสร้าง
มักจะแตกต่างกับวัสดุและวิธีการก่อสร้างที่ใช้ .
melaleuca กรอบมีมากราคาถูกกว่าอื่น ๆคลื่นลด
อุปสรรค ( ดูเช่น สจ๊วร์ต fairfull , 2008 ; ฮิ et al . , 2010 ;
Albers และลีเบอร์แมน , 2011 ; Ca Mau dard , 2012 ) ในเกียนยาง
, เสนอต้นทุนแบบดั้งเดิม วิธีการปลูก ปลูกในการเว็บไซต์
2450 USD / ฮา ( เกียนยาง dard 2010 )
เมื่อเทียบกับ 1 , 000 – 1 , 600 USD / ฮา ก่อสร้างรั้ว ( รั้วกับดัก
ตะกอน ) ในการปลูกต้นกล้ากัดเซาะเว็บไซต์ ราคา 7400
ขั้นสูงUSD / ha เมื่อเทียบกับ 6000 - 6500 บาท / ไร่สำหรับการฟันดาบ (
กั้นคลื่นและตะกอนที่ติดกับรั้ว รวมทั้งความเสียหายการซ่อมแซมและ mainte -

melaleuca แม่คู่ต้นทุน เป็นอาหารพื้นเมืองในลุ่มน้ำโขงและเหมาะสมที่สุด
ชนิดพืชที่สามารถทนต่อสภาพดินเป็นกรดมาก
ขุ่นของเดลต้า melaleuca ยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการเกิด กระบวนการ

ของดินกรด( เกื และโผ 2011 ; et al . , 2011 ) การใช้วัสดุท้องถิ่นเช่น
melaleuca เสาก่อสร้างรั้วจะเพิ่มค่าเงิน
ชนิดนี้ซึ่งมีสถิติลดลงในตลาด
เมื่อเร็ว ๆนี้ ( et al . , 2011 ; ตรัง , 2008 ) บางที มันอาจจะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเพื่อรักษา melaleuca

ทั้งรายได้และผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ทุกสาขาของ melaleuca
ที่ใช้ในการสร้างคลื่นทำลายรั้ว นี้ไม่เพียง แต่นำ
รายได้เพิ่มเติมสำหรับเกษตรกร แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซจาก
การปฏิบัติทั่วไปของการเผาไหม้ซึ่งหลังจากการเก็บเกี่ยว