เอดิสันเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1847 ที่เมืองมิลาน มลรัฐโอไฮโ การแปล - เอดิสันเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1847 ที่เมืองมิลาน มลรัฐโอไฮโ ไทย วิธีการพูด

เอดิสันเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ

เอดิสันเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1847 ที่เมืองมิลาน มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา

เขาเป็นลูกคนที่ 7 และคนสุดท้าย


- บิดาของเขาชื่อว่า แซมมวลเอดิสัน (Samuel Edison) ประกอบธุรกิจในประเทศแคนาดา


- ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนในเมืองพอร์ตฮิวรอน แต่ด้วยความซูนซนของเขาจนโดนที่

โรงเรียนทำโทษบ่อยๆเขาจึงไม่ไปเรียน ต่อมามารดาเป้นคนสอนหนังสือให้เขาจนสามารถอ่าน

ออกเขียนได้


- เอดิสัน คาวานี่ เอ้ย เอดิสัน ในวัย 12 ขวบเขาเริ่มทำงานเพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อ

หาเครื่องมือ เครื่องใช้ รวมไปถึงหนังสือ เพื่อสร้างห้องทดลองของตัวเอง (เป็นคนชอบประดิษฐ์

ตั้งแต่เด็ก)


- หูของเขาต้องพิการจากการระเบิดของแท่งฟอสฟอรัสตกกระแทกพื้นทำให้ไฟไหม้ตู้รถไฟของ

เขา ในตู้รถไฟที่เขาใช้เก็บสารเคมีตอนทำงานเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์ บนรถไฟสายพอร์ตฮิวรอน

ดีทรอยต์ และยังทำให้เขาโดนไล่ออกจากงานอีกด้วย


- ในปี ค.ศ.1862 เขาจึงเช่าที่ว่างในร้านขายยาบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟ เปิดร้านรับจ้างส่งโทรเลข

แต่กิจการไม่ค่อยดีนัก เพราะมีร้ายรับส่งโทรเลขมากเกินไปและร้านเขาก็เล็กและเพิ่งเปิดใหม่


- ต่อมาเขาก็หันมาทำกิจการขายเครื่องจักร และยังได้ประดิษฐ์ของอีกหลายชิ้นเช่น เครื่องบันทึก

คะแนนเสียงในรัฐสภา เครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้น และเครื่องโทรเลข 2 ทาง


- เครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้น และเครื่องโทรเลข 2 ทาง ของเขาได้รับการตอบรับอย่างดี เขาจึงได้

นำไปเสนอบริษัทเวสเทิร์ส ยูเนียนเทเลกราฟ แต่ก็โดนปัดมา จึงได้ไปเสนอต่อให้กับบริษัทโทรเลข

แอตแลนติก และแปซิฟิก และก็ได้การตอบรับชิ้นงานนั้น แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เขาได้

ทดลองส่งสัญญาณจากนิวยอร์คถึงโรเชสเตอร์ ปรากฏว่าเกิดขัดข้องไม่สามารถส่งสัญญาณได้

ซะอย่างนั้น


- เขาทั้งหมดตูดและตกงาน และบังเอิญไปเจอกับวิศวกรไฟฟ้าผู้หนึ่ง ชื่อ แฟรงคลิน โปป ที่ให้เขา

อาศัยอยู่ด้วยและหางานในบริษัทเดียวกันให้คือ บริษัท ลอว์โกลด์ อินดิเคเตอร์ เป็นแจ้งราคาทอง

ในตำแหน่งนายโทรเลขประจำบริษัท ต่อมาเขาสามารถเลื่อนตำแหน่งของตัวเองขึ้นไปเป็นผู้ช่วย

ของโปป เมื่อโปป ลาออก เขาก็เสียบแทนตำแหน่งนั้นทันที


- ต่อมาบริษัทได้รวมกิจการเข้ากับบริษัทเวสเทิร์น ยูเนียน เทเลหราฟ เอดิสันที่เคยเอาชิ้นงานไป

เสนอบริษัทนี้แล้วโดนปฏิเสธกลับมาเขาจึงลาออกหลังจากนั้นก็ได้มาเปิดบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า

ร่วมกับโปป โดยมีหุ้นส่วนอีกคนชื่อว่า เจ.เอช.แอชลีย์


- เขามักรู้สึกว่าต้องทำงานหนักเพียงคนเดียว ต่างกับหุ้นส่วนคนอื่นๆที่นั่งรอนอนรอส่วนแบ่งอย่าง

สบาย ทำให้เอดิสันเองรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ


- ในปี ค.ศ.1871 เอดิสันจึงถอนหุ้นออกจากโรงงาน และเดินทางไปยังเมืองนิววาร์ด รัฐนิวเจอร์ซี

เพื่อเปิดบริษัทผลิตเครื่องใช้ต่าง ๆ


- และก็เป็นเรื่องดีบริษัทของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากจาก ผลงานการจำหน่ายเครื่องป้องกัน

ความผิดพลาดของใบแจ้งราคาหุ้น


- ค.ศ.1876 อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell) สามารถประดิษฐ์โทรศัพท์

ขึ้นเป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้ธุระกิจโทรเลขซบเซาขาดทุนอย่างหนักหน่วง บริษัทเวสเทิร์น ยูเนียน

เทเลกราฟ (คนที่ปัดงานของ เอดิสันในตอนแรก) จึงได้จ้างเขาให้มาช่วยปรับปรุงโทรศัพท์ของ

อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อมาหลังจากที่เขา

ทดลองปรับเปลี่ยนนับครั้งไม่ถ้วนจนกระทั่งเอดิสันทดลองนำคาร์บอนมาทาบริเวณแผ่นเหล็ก

ปรากฏว่าได้ยินเสียงอย่างชัดเจนขึ้น ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว เอดิสันได้รับค่าตอบแทน

เพียง 1 แสนดอลล่า ซึ่งไม่มากเลยถ้าเทียบกับจำนวนการขายได้ของโทรศัพท์ที่เขาพัฒนา


- แต่จากการที่เขาพัฒนาโทรศัพท์ครั้งนั้น ทำให้เขาค้นพบวิธีการประดิษฐ์หีบเสียง และได้รับ

ความนิยมเป็นอย่างมากรวมไปถึง เครื่องบันทึกเสียงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งต่อมาเขาได้

ปรับปรุงเครื่องบันทึกเสียงให้เป้นเครื่องบันทึกโทรเลข


- เขาได้นำผลงานทั้ง 2 ชิ้นไปให้นักหนังสือพิมพ์ดูและสิ่งประดิษฐ์ของเขาทำให้นักหนังสือพิมพ์

ที่ชื่อว่า อัลเฟรด อีลีบัช ถูกใจอย่างมากนำเอาไปลงในหนังสือ Scientific American Newspaper

ทำให้ โทมัน อัลวา เอดิสัน คาวานี่ (ยังจะคาวานี่อีก) มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และฉายา พ่อมด

แห่งเมนโลพาร์ก ก็ได้มาจากการที่เขาประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียงนี้


- ค.ศ. 1878 เอดิสันเริ่มศึกษาค้นคว้าคิดจะทำหลอดไฟ เพราะไฟส่องสว่างในสมัยนั้นสามารถก่อ

ให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย


- การทดลองในช่วงแรกนั้น ไม่ค่อยจะได้ผลดีนักเนื่องจากเซอร์ฮัมฟรี เดวี่ ได้ทำการทดลอง

เกี่ยวกับหลอดไฟเอาไว้ที่มีชื่อว่า Arc Light แต่เส้นลวดไม่สามารถทนความร้อนได้สูง ทำให้

การใช้งานของหลอดชนิดนี้มีอายุสั้น ทำให้เอดิสันต้องพยายามหาตัวนำที่สามารถทนความร้อน

ได้สูง เขาทดลองใช้วัสดุกว่า 10,000 ชนิด มาทำการทดลองใช้เป็นไส้ของหลอดไฟ


- ในปี ค.ศ.1879 เอดิสันก็สามารถประดิษฐ์หลอดไฟไส้คาร์บอนสำเร็จ โดยการนำเส้นใยที่ทำ

ด้วยฝ้ายมาทำเป็นเส้นด้าย แล้วก็นำมาเผาไฟ ก็จะได้ถ่านคาร์บอนที่สามารถทนความร้อนได้สูง

จากนั้นเอง เอดิสันจึงนำมันมาบรรจุไว้ในหลอดสูญญากาศ หลอดไฟของเอดิสันนั้นสามารถจุด

ให้แสงสว่างได้นานถึง 45 ชั่วโมง หลอดไฟฟ้าชนิดนี้มีชื่อว่า Incandesent Electric Lamp


- ค.ศ. 1880 เปลี่ยนไส้หลอดไฟจากคาร์บอนเป็นไม่ไผ่ญี่ปุ่น เพราะหลอดคาร์บอน ส่องสว่าง

ได้นาน 40 ชั่วโมง แต่หลอดไม้ไผ่ญี่ปุ่น ส่องสว่างได้นานกว่าและมีคุณภาพดีกว่า แต่ถึง

อย่างนั้นก็ยังไม่เป็นที่นิยมเพราะราคาค่าไฟฟ้าในช่วงเวลาสมัยนั้นแพงมาก


- เอดิสัน เดินทางกลับไปที่นิวยอร์ค เพื่อไปตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Edison Electric Limit Company

เพื่อที่จะสร้างเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการนำไดนาโมของไมเคิล ฟาราเดย์ มาปรับปรุงให้

ดีขึ้น มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และได้ตั้งชื่อมันว่า Beauty Mary Ann"ตามชื่อของภรรยาของเขา


- หลังจากนั้นเองค.ศ. 1882 สร้างโรงจ่ายกระแสไฟฟ้าขึ้นที่นิวยอร์ก และเริ่มประกาศเทคโนโลยี

หลอดไฟให้เป็นที่รู้จัก ลากสายไปทั่วทั้งเมือง ทุกคนในเมืองก็มีโอกาศใช้ไฟฟ้าอย่างทั่วถึงกัน


- นอกจากกระสร้างเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วนั้นเขาก็ยังสร้างเครื่องวัดกระแสไฟฟ้า และ

เครื่องป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าอีกด้วย


- ค.ศ. 1891 ประดิษฐ์เครื่องถ่ายภาพตัดต่อสำเร็จ บันทึกภาพเคลื
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
เอดิสันเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1847 ที่เมืองมิลาน มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นลูกคนที่ 7 และคนสุดท้าย - บิดาของเขาชื่อว่า แซมมวลเอดิสัน (Samuel Edison) ประกอบธุรกิจในประเทศแคนาดา- ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนในเมืองพอร์ตฮิวรอน แต่ด้วยความซูนซนของเขาจนโดนที่ โรงเรียนทำโทษบ่อยๆเขาจึงไม่ไปเรียน ต่อมามารดาเป้นคนสอนหนังสือให้เขาจนสามารถอ่าน ออกเขียนได้- เอดิสัน คาวานี่ เอ้ย เอดิสัน ในวัย 12 ขวบเขาเริ่มทำงานเพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อ หาเครื่องมือ เครื่องใช้ รวมไปถึงหนังสือ เพื่อสร้างห้องทดลองของตัวเอง (เป็นคนชอบประดิษฐ์ ตั้งแต่เด็ก) - หูของเขาต้องพิการจากการระเบิดของแท่งฟอสฟอรัสตกกระแทกพื้นทำให้ไฟไหม้ตู้รถไฟของ เขา ในตู้รถไฟที่เขาใช้เก็บสารเคมีตอนทำงานเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์ บนรถไฟสายพอร์ตฮิวรอน ดีทรอยต์ และยังทำให้เขาโดนไล่ออกจากงานอีกด้วย- ในปี ค.ศ.1862 เขาจึงเช่าที่ว่างในร้านขายยาบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟ เปิดร้านรับจ้างส่งโทรเลข แต่กิจการไม่ค่อยดีนัก เพราะมีร้ายรับส่งโทรเลขมากเกินไปและร้านเขาก็เล็กและเพิ่งเปิดใหม่- ต่อมาเขาก็หันมาทำกิจการขายเครื่องจักร และยังได้ประดิษฐ์ของอีกหลายชิ้นเช่น เครื่องบันทึก คะแนนเสียงในรัฐสภา เครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้น และเครื่องโทรเลข 2 ทาง - เครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้น และเครื่องโทรเลข 2 ทาง ของเขาได้รับการตอบรับอย่างดี เขาจึงได้ นำไปเสนอบริษัทเวสเทิร์ส ยูเนียนเทเลกราฟ แต่ก็โดนปัดมา จึงได้ไปเสนอต่อให้กับบริษัทโทรเลข แอตแลนติก และแปซิฟิก และก็ได้การตอบรับชิ้นงานนั้น แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เขาได้ ทดลองส่งสัญญาณจากนิวยอร์คถึงโรเชสเตอร์ ปรากฏว่าเกิดขัดข้องไม่สามารถส่งสัญญาณได้ซะอย่างนั้น- เขาทั้งหมดตูดและตกงาน และบังเอิญไปเจอกับวิศวกรไฟฟ้าผู้หนึ่ง ชื่อ แฟรงคลิน โปป ที่ให้เขา อาศัยอยู่ด้วยและหางานในบริษัทเดียวกันให้คือ บริษัท ลอว์โกลด์ อินดิเคเตอร์ เป็นแจ้งราคาทอง ในตำแหน่งนายโทรเลขประจำบริษัท ต่อมาเขาสามารถเลื่อนตำแหน่งของตัวเองขึ้นไปเป็นผู้ช่วย ของโปป เมื่อโปป ลาออก เขาก็เสียบแทนตำแหน่งนั้นทันที - ต่อมาบริษัทได้รวมกิจการเข้ากับบริษัทเวสเทิร์น ยูเนียน เทเลหราฟ เอดิสันที่เคยเอาชิ้นงานไป เสนอบริษัทนี้แล้วโดนปฏิเสธกลับมาเขาจึงลาออกหลังจากนั้นก็ได้มาเปิดบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วมกับโปป โดยมีหุ้นส่วนอีกคนชื่อว่า เจ.เอช.แอชลีย์ - เขามักรู้สึกว่าต้องทำงานหนักเพียงคนเดียว ต่างกับหุ้นส่วนคนอื่นๆที่นั่งรอนอนรอส่วนแบ่งอย่าง สบาย ทำให้เอดิสันเองรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ - ในปี ค.ศ.1871 เอดิสันจึงถอนหุ้นออกจากโรงงาน และเดินทางไปยังเมืองนิววาร์ด รัฐนิวเจอร์ซี เพื่อเปิดบริษัทผลิตเครื่องใช้ต่าง ๆ - และก็เป็นเรื่องดีบริษัทของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากจาก ผลงานการจำหน่ายเครื่องป้องกัน ความผิดพลาดของใบแจ้งราคาหุ้น- ค.ศ.1876 อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell) สามารถประดิษฐ์โทรศัพท์ ขึ้นเป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้ธุระกิจโทรเลขซบเซาขาดทุนอย่างหนักหน่วง บริษัทเวสเทิร์น ยูเนียน
เทเลกราฟ (คนที่ปัดงานของ เอดิสันในตอนแรก) จึงได้จ้างเขาให้มาช่วยปรับปรุงโทรศัพท์ของ

อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อมาหลังจากที่เขา

ทดลองปรับเปลี่ยนนับครั้งไม่ถ้วนจนกระทั่งเอดิสันทดลองนำคาร์บอนมาทาบริเวณแผ่นเหล็ก

ปรากฏว่าได้ยินเสียงอย่างชัดเจนขึ้น ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว เอดิสันได้รับค่าตอบแทน

เพียง 1 แสนดอลล่า ซึ่งไม่มากเลยถ้าเทียบกับจำนวนการขายได้ของโทรศัพท์ที่เขาพัฒนา


- แต่จากการที่เขาพัฒนาโทรศัพท์ครั้งนั้น ทำให้เขาค้นพบวิธีการประดิษฐ์หีบเสียง และได้รับ

ความนิยมเป็นอย่างมากรวมไปถึง เครื่องบันทึกเสียงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งต่อมาเขาได้

ปรับปรุงเครื่องบันทึกเสียงให้เป้นเครื่องบันทึกโทรเลข


- เขาได้นำผลงานทั้ง 2 ชิ้นไปให้นักหนังสือพิมพ์ดูและสิ่งประดิษฐ์ของเขาทำให้นักหนังสือพิมพ์

ที่ชื่อว่า อัลเฟรด อีลีบัช ถูกใจอย่างมากนำเอาไปลงในหนังสือ Scientific American Newspaper

ทำให้ โทมัน อัลวา เอดิสัน คาวานี่ (ยังจะคาวานี่อีก) มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และฉายา พ่อมด

แห่งเมนโลพาร์ก ก็ได้มาจากการที่เขาประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียงนี้


- ค.ศ. 1878 เอดิสันเริ่มศึกษาค้นคว้าคิดจะทำหลอดไฟ เพราะไฟส่องสว่างในสมัยนั้นสามารถก่อ

ให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย


- การทดลองในช่วงแรกนั้น ไม่ค่อยจะได้ผลดีนักเนื่องจากเซอร์ฮัมฟรี เดวี่ ได้ทำการทดลอง

เกี่ยวกับหลอดไฟเอาไว้ที่มีชื่อว่า Arc Light แต่เส้นลวดไม่สามารถทนความร้อนได้สูง ทำให้

การใช้งานของหลอดชนิดนี้มีอายุสั้น ทำให้เอดิสันต้องพยายามหาตัวนำที่สามารถทนความร้อน

ได้สูง เขาทดลองใช้วัสดุกว่า 10,000 ชนิด มาทำการทดลองใช้เป็นไส้ของหลอดไฟ


- ในปี ค.ศ.1879 เอดิสันก็สามารถประดิษฐ์หลอดไฟไส้คาร์บอนสำเร็จ โดยการนำเส้นใยที่ทำ

ด้วยฝ้ายมาทำเป็นเส้นด้าย แล้วก็นำมาเผาไฟ ก็จะได้ถ่านคาร์บอนที่สามารถทนความร้อนได้สูง

จากนั้นเอง เอดิสันจึงนำมันมาบรรจุไว้ในหลอดสูญญากาศ หลอดไฟของเอดิสันนั้นสามารถจุด

ให้แสงสว่างได้นานถึง 45 ชั่วโมง หลอดไฟฟ้าชนิดนี้มีชื่อว่า Incandesent Electric Lamp


- ค.ศ. 1880 เปลี่ยนไส้หลอดไฟจากคาร์บอนเป็นไม่ไผ่ญี่ปุ่น เพราะหลอดคาร์บอน ส่องสว่าง

ได้นาน 40 ชั่วโมง แต่หลอดไม้ไผ่ญี่ปุ่น ส่องสว่างได้นานกว่าและมีคุณภาพดีกว่า แต่ถึง

อย่างนั้นก็ยังไม่เป็นที่นิยมเพราะราคาค่าไฟฟ้าในช่วงเวลาสมัยนั้นแพงมาก


- เอดิสัน เดินทางกลับไปที่นิวยอร์ค เพื่อไปตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Edison Electric Limit Company

เพื่อที่จะสร้างเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการนำไดนาโมของไมเคิล ฟาราเดย์ มาปรับปรุงให้

ดีขึ้น มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และได้ตั้งชื่อมันว่า Beauty Mary Ann"ตามชื่อของภรรยาของเขา


- หลังจากนั้นเองค.ศ. 1882 สร้างโรงจ่ายกระแสไฟฟ้าขึ้นที่นิวยอร์ก และเริ่มประกาศเทคโนโลยี

หลอดไฟให้เป็นที่รู้จัก ลากสายไปทั่วทั้งเมือง ทุกคนในเมืองก็มีโอกาศใช้ไฟฟ้าอย่างทั่วถึงกัน


- นอกจากกระสร้างเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วนั้นเขาก็ยังสร้างเครื่องวัดกระแสไฟฟ้า และ

เครื่องป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าอีกด้วย


- ค.ศ. 1891 ประดิษฐ์เครื่องถ่ายภาพตัดต่อสำเร็จ บันทึกภาพเคลื
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
เอดิสันเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1847 เมืองมิที่ลานมลรัฐโอไฮโอประเทศสหรัฐอเมริกาเขาเป็นที่คุณลูกคนที่7 และคนสุดท้าย- บิดาของเขาชื่อว่าแซมมวลเอดิสัน (ซามูเอลเอดิสัน) ประกอบธุรกิจในประเทศแคนาดา- เอดิสันคาวานี่เอ้ยเอดิสันในวัย 12 เครื่องใช้รวมไปถึงหนังสือเพื่อสร้างห้องทดลองของตัวเอง (คนชอบเป็นประดิษฐ์ตั้งแต่ที่คุณเด็ก) - รถไฟสายบนพอร์ตฮิวรอนดีทรอยต์ ในปี ค.ศ. 1862 เครื่องบันทึกคะแนนเสียงในรัฐสภาเครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้นและเครื่องโทรเลข 2 ทาง - เครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้นและเครื่องโทรเลข 2 ทางของเขาได้รับหัวเรื่อง: การตอบรับอย่างดีเขาจึงได้นำไปเสนอบริษัท บริษัท เวสเทิร์สยูเนียนเทเลกราฟ แต่ก็โดนปัดมา และแปซิฟิกและก็ได้การตอบรับชิ้นงานนั้น แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เขาทั้งหมดตูดและตกงาน ชื่อแฟรงคลินโปป บริษัท ลอว์โกลด์อินดิเคเตอร์ เมื่อโปปลาออกเขาก็เสียบแทนตำแหน่งนั้นทันที- ยูเนียนเทเลหราฟ โดยมีหุ้นส่วนอีกคนชื่อว่าเจเอชแอชลีย์.. - ในปี ค.ศ. 1871 เอดิสันจึงถอนหุ้นออกจากโรงงานและเดินทางไปยังเมืองนิววาร์ด ๆ- ค.ศ. 1876 อเล็กซานเดอร์เกรแฮมเบลล์ (Alexander Graham Bell) เวส บริษัท บริษัท เทิร์นยูเนียนเทเลกราฟ(คนที่ปัดงานของเอดิสันในตอนแรก) เกรแฮมเบลล์ ทำให้เป็นซึ่งที่นิยมอย่างรวดเร็วเอดิสันได้รับค่าตอบแทนเพียง 1 แสนดอลล่า เขาได้นำผลงานทั้ง 2 อัลเฟรดอีลีบัชถูกใจอย่างมากนำเอาไปลงในหนังสือวิทยาศาสตร์อเมริกันหนังสือพิมพ์ทำให้โทมันอัลวาเอดิสันคาวานี่ (ยังจะคาวานี่อีก) มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากและฉายาพ่อมดแห่งเมนโลพาร์ก ค.ศ. 1878 การทดลองในช่วงแรกนั้น เดวี่ โคมไฟ เขาทดลองใช้วัสดุกว่า 10,000 ชนิดมาทำการทดลองใช้เป็นไส้ของหลอดไฟ- ในปี ค.ศ. 1879 แล้วก็นำมาเผาไฟ 45 ชั่วโมงหลอดไฟฟ้าชนิดนี้มีชื่อว่า Incandesent Electric Lamp - ค.ศ. 1880 หลอดคาร์บอนเพราะส่องสว่างได้นาน 40 ชั่วโมง แต่หลอดไม้ไผ่ญี่ปุ่น เอดิสันเดินทางกลับไปที่นิวยอร์คเพื่อไปตั้ง บริษัท ที่ชื่อว่าเอดิสันไฟฟ้า จำกัด การนำไดนาโมโดยไมเคิของลฟาราเดย์มาปรับปรุงให้ดีขึ้นมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นและได้ตั้งชื่อมันว่าได้ความงามแมรี่แอน "ตามชื่อของภรรยาของเขา -.. หลังจากนั้นเองคศ 1882 ลากสายไปทั่วทั้งเมือง ค.ศ. 1891 บันทึกภาพเคลื






























































































































































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
เอดิสันเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ค . ศ . 1847 ที่เมืองมิลานมลรัฐโอไฮโอประเทศสหรัฐอเมริกา

เขาเป็นลูกคนที่ 7 และคนสุดท้าย


- บิดาของเขาชื่อว่าแซมมวลเอดิสัน ( แซมมวลเอดิสัน ) ประกอบธุรกิจในประเทศแคนาดา


- ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนในเมืองพอร์ตฮิวรอนแต่ด้วยความซูนซนของเขาจนโดนที่โรงเรียนทำโทษบ่อยๆเขาจึงไม่ไปเรียนต่อมามารดาเป้นคนสอนหนังสือให้เขาจนสามารถอ่าน






ออกเขียนได้- เอดิสันคาวานี่เอ้ยเอดิสันในวัย 12 ขวบเขาเริ่มทำงานเพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อ

หาเครื่องมือเครื่องใช้รวมไปถึงหนังสือเพื่อสร้างห้องทดลองของตัวเอง ( เป็นคนชอบประดิษฐ์




ตั้งแต่เด็ก )- หูของเขาต้องพิการจากการระเบิดของแท่งฟอสฟอรัสตกกระแทกพื้นทำให้ไฟไหม้ตู้รถไฟของ

เขาในตู้รถไฟที่เขาใช้เก็บสารเคมีตอนทำงานเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์บนรถไฟสายพอร์ตฮิวรอน

ดีทรอยต์และยังทำให้เขาโดนไล่ออกจากงานอีกด้วย


- สามารถค . ศ . 1862 เขาจึงเช่าที่ว่างในร้านขายยาบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟเปิดร้านรับจ้างส่งโทรเลข

แต่กิจการไม่ค่อยดีนักเพราะมีร้ายรับส่งโทรเลขมากเกินไปและร้านเขาก็เล็กและเพิ่งเปิดใหม่


-

ต่อมาเขาก็หันมาทำกิจการขายเครื่องจักรและยังได้ประดิษฐ์ของอีกหลายชิ้นเช่นเครื่องบันทึกคะแนนเสียงในรัฐสภาเครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้นและเครื่องโทรเลข 2 ทาง


- เครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้นและเครื่องโทรเลข 2 ทางของเขาได้รับการตอบรับอย่างดีเขาจึงได้

การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: