6.2. EducationEducational programs

6.2. Education
Educational programs not only can offer information,
but also enhance skills and self-efficacy.
People with chronic disease and their family
care-givers often must take on tasks that require
special skills and/or knowledge. For example,
they may need to learn how to attend to physical
care needs, control pain, and manage the emotional
aspects of illness. Care-givers of family
members with dementia may have to learn how
to manage difficult behaviors, such as catastrophic
reactions of their relative to bathing or
other daily activities. People with chronic illness
also must pay special attention to health-promoting
behaviors, such as nutrition, exercise, and
relaxation and stress management.

In contrast to simply presenting information
education enhances skills and contributes to
psychological adaptation to illness or caregiving,
An important principle guiding the programs of
the Family Support Center is that of self-efficacy,
which emphasizes the importance not just of
knowledge, but of a sense of mastery over one’s
illness conditions and a sense of control over
one’s well-being. When people have a sense of
control over their health, they are more likely to
engage in heath-promoting behavior, to maintain
a more positive attitude about their situation,
and to be less likely to experience depression
[14].

Efficacy-based education teaches skills needed
for self-management, models positive approaches
to problem-solving and overcoming difficulties
reinterprets physiological signs and symptoms,
and uses persuasion to promote positive self-management
[15]. Numerous studies have found
a strong relationship between self-efficacy and

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

6.2 การศึกษาโปรแกรมเพื่อการศึกษาเท่านั้นไม่สามารถให้ข้อมูลแต่ยัง เพิ่มทักษะและประสิทธิภาพตนเองคนที่ มีโรคเรื้อรังและครอบครัวgivers ดูแลมักจะต้องใช้งานที่ต้องการทักษะพิเศษและ/หรือความรู้ ตัวอย่างพวกเขาอาจจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการฟังจริงความต้องการดูแล ควบคุมความเจ็บปวด และจัดการอารมณ์ลักษณะของการเจ็บป่วย Givers ดูแลครอบครัวสมาชิกกับสมองเสื่อมอาจต้องเรียนรู้วิธีการจัดการพฤติกรรมยาก เช่นรุนแรงปฏิกิริยาของญาติของพวกเขาไปอาบน้ำ หรือกิจกรรมประจำวันอื่น ๆ คนที่ มีโรคประจำตัวนอกจากนี้ยัง ต้องให้ความสนใจพิเศษเพื่อส่งเสริมสุขภาพลักษณะการทำงาน เช่นโภชนาการ การออกกำลังกาย และการจัดการความเครียดและผ่อนคลายตรงข้ามเพียงแค่นำเสนอข้อมูลช่วยเพิ่มทักษะการศึกษา และสนับสนุนจิตวิทยาการปรับตัวที่เจ็บป่วยหรือ caregivingแนะนำโปรแกรมของหลักการสำคัญศูนย์บริการครอบครัวเป็นของตนเองประสิทธิภาพซึ่งเน้นความสำคัญไม่เพียงความรู้ แต่ความเป็นครูมากกว่าหนึ่งสภาพการเจ็บป่วยและความรู้สึกของของ เมื่อคนมีความรู้สึกควบคุมผ่านสุขภาพ พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมสุขภาพพฤติกรรม รักษาทัศนคติที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขาและมีแนวโน้มน้อยที่จะพบภาวะซึมเศร้า[14]การศึกษาประสิทธิภาพการสอนทักษะที่จำเป็นสำหรับการจัดการตนเอง โมเดลแนวทางบวกการ แก้ปัญหา และอุปสรรคมากเพียงใดreinterprets สรีรวิทยาสัญญาณและอาการและการใช้การจูงใจเพื่อส่งเสริมการจัดการตนเองในเชิงบวก[15] การศึกษาจำนวนมากได้พบความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตนเองประสิทธิภาพ และ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

6.2 การศึกษา
โปรแกรมการศึกษาไม่เพียง แต่สามารถนำเสนอข้อมูล
แต่ยังเพิ่มทักษะและความรู้ความสามารถของตนเอง.
คนที่มีโรคเรื้อรังและครอบครัวของพวกเขา
ในการดูแลผู้มักจะต้องใช้ในงานที่ต้องใช้
ทักษะพิเศษและ / หรือความรู้ ยกตัวอย่างเช่น
พวกเขาอาจจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการที่จะเข้าร่วมกับทางกายภาพ
ความต้องการการดูแลควบคุมความเจ็บปวดและการจัดการอารมณ์
แง่มุมของการเจ็บป่วย ผู้ให้การดูแลของครอบครัว
สมาชิกที่มีภาวะสมองเสื่อมอาจจะต้องเรียนรู้วิธี
ที่จะจัดการกับพฤติกรรมที่ยากลำบากเช่นภัยพิบัติ
ปฏิกิริยาของญาติของพวกเขาที่จะอาบน้ำหรือ
กิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตประจำวัน คนที่มีโรคเรื้อรัง
นอกจากนี้ยังต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการส่งเสริมสุขภาพ
พฤติกรรมเช่นโภชนาการการออกกำลังกายและ
การพักผ่อนและการจัดการความเครียด. ในทางตรงกันข้ามจะเพียงแค่นำเสนอข้อมูลการศึกษาเพิ่มทักษะและก่อให้เกิดการปรับตัวทางจิตวิทยาต่อการเจ็บป่วยหรือการดูแลแนวทางหลักการที่สำคัญ โปรแกรมของศูนย์สนับสนุนครอบครัวเป็นของตัวเองประสิทธิภาพซึ่งเน้นความสำคัญไม่เพียง แต่ความรู้ แต่ความรู้สึกของการเรียนรู้ในช่วงหนึ่งของเงื่อนไขการเจ็บป่วยและความรู้สึกของการควบคุมของคนเป็นอยู่ที่ดี เมื่อคนมีความรู้สึกของการควบคุมการสุขภาพของพวกเขาพวกเขามีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในพฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพเพื่อรักษาทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขาและมีโอกาสน้อยที่จะได้สัมผัสกับภาวะซึมเศร้า[14]. การศึกษาประสิทธิภาพตามสอน ทักษะที่จำเป็นสำหรับการจัดการตนเองรูปแบบวิธีการในเชิงบวกในการแก้ปัญหาและการเอาชนะความยากลำบากreinterprets สัญญาณทางสรีรวิทยาและอาการและใช้การชักชวนเพื่อส่งเสริมการจัดการตนเองบวก[15] การศึกษาจำนวนมากได้พบความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างการรับรู้ความสามารถตนเองและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

6.2 . การศึกษา
โปรแกรมการศึกษาไม่เพียง แต่สามารถให้ข้อมูล แต่ยังช่วยส่งเสริมทักษะและความสามารถ
.
คนที่เป็นโรคเรื้อรังและครอบครัว
ผู้ดูแลมักจะต้องใช้ในงานที่ต้องใช้ทักษะพิเศษ
และ / หรือความรู้ ตัวอย่างเช่น
พวกเขาอาจต้องการที่จะเรียนรู้วิธีการทำกายภาพ
ดูแลความต้องการของการควบคุมความเจ็บปวด และการจัดการด้านอารมณ์
ของความเจ็บป่วย ผู้ดูแลในครอบครัว
สมาชิกกับภาวะสมองเสื่อมอาจต้องเรียนรู้
การจัดการพฤติกรรมที่ยาก เช่น ปฏิกิริยาที่รุนแรงของญาติของพวกเขาอาบน้ำ

กิจกรรมประจำวัน หรืออื่น ๆ คนที่มี
เรื้อรังยังต้องให้ความสนใจพิเศษเพื่อการส่งเสริมสุขภาพ
พฤติกรรม เช่น การออกกำลังกาย โภชนาการ และ การพักผ่อนและคลายเครียด


ในทางตรงกันข้ามกับเพียงแค่นำเสนอข้อมูล
การศึกษาช่วยเพิ่มทักษะและก่อให้เกิด
จิตวิทยาการปรับตัวต่อความเจ็บป่วยหรือการดูแล
หลักการสำคัญที่แนะนำโปรแกรม
ศูนย์สนับสนุนครอบครัว คือของตนเอง ซึ่งเน้นความสำคัญที่ไม่

แค่ความรู้ แต่ในความรู้สึกของการเรียนรู้มากกว่าหนึ่ง
เจ็บป่วยสภาพและความรู้สึกของการควบคุม
1 ความเป็นอยู่ เมื่อคนมีความรู้สึก
ควบคุมสุขภาพของพวกเขา พวกเขามีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการส่งเสริมพฤติกรรมสุขภาพ

เพื่อรักษาทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขา
และมีโอกาสน้อยที่จะประสบภาวะซึมเศร้า
[ 14 ] .

ผลจากการศึกษาสอนทักษะที่จำเป็น
การจัดการตนเองแบบบวก แนวทางการแก้ปัญหาและเอาชนะอุปสรรค

reinterprets สัญญาณทางสรีรวิทยาและอาการ
และใช้ในการจูงใจเพื่อส่งเสริมบวกตนเอง
[ 15 ] การศึกษามากมายได้พบความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างตนเองและ