Oceans cover more than 70% of Earth

Oceans cover more than 70% of Earth's surface, making them the world's largest solar collectors. The sun's heat warms the surface water a lot more than the deep ocean water, and this temperature difference creates thermal energy. Just a small portion of the heat trapped in the ocean could power the world.
Ocean thermal energy is used for many applications, including electricity generation. There are three types of electricity conversion systems: closed-cycle, open-cycle, and hybrid. Closed-cycle systems use the ocean's warm surface water to vaporize a working fluid, which has a low-boiling point, such as ammonia. The vapor expands and turns a turbine. The turbine then activates a generator to produce electricity. Open-cycle systems actually boil the seawater by operating at low pressures. This produces steam that passes through a turbine/generator. And hybrid systems combine both closed-cycle and open-cycle systems.
Ocean mechanical energy is quite different from ocean thermal energy. Even though the sun affects all ocean activity, tides are driven primarily by the gravitational pull of the moon, and waves are driven primarily by the winds. As a result, tides and waves are intermittent sources of energy, while ocean thermal energy is fairly constant. Also, unlike thermal energy, the electricity conversion of both tidal and wave energy usually involves mechanical devices.
A barrage (dam) is typically used to convert tidal energy into electricity by forcing the water through turbines, activating a generator. For wave energy conversion, there are three basic systems: channel systems that funnel the waves into reservoirs; float systems that drive hydraulic pumps; and oscillating water column systems that use the waves to compress air within a container. The mechanical power created from these systems either directly activates a generator or transfers to a working fluid, water, or air, which then drives a turbine/generator.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มหาสมุทรครอบคลุมมากกว่า 70% ของพื้นผิวโลก การสะสมพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความร้อนของดวงอาทิตย์ warms ผิวน้ำมากมากกว่าน้ำทะเลลึก และความแตกต่างของอุณหภูมินี้สร้างพลังงานความร้อน เพียงส่วนเล็ก ๆ ของความร้อนที่ติดอยู่ในทะเลสามารถพลังงานโลกพลังงานความร้อนมหาสมุทรใช้สำหรับโปรแกรมประยุกต์หลาย รวมถึงไฟฟ้า มีสามชนิดของระบบแปลงไฟฟ้า: วงจรปิด วงจรเปิด และผสม ระบบวงจรปิดใช้น้ำอุ่นพื้นผิวของมหาสมุทรการ vaporize น้ำมันทำงาน ที่มีเดือดต่ำจุด เช่นแอมโมเนีย ไอขยาย และหมุนเป็นกังหัน กังหันลมจากนั้นเรียกใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้า เปิดวงจรระบบต้มน้ำทะเล โดยการทำงานที่ความดันต่ำจริง ๆ นี้ทำให้เกิดไอน้ำที่ผ่านกังหัน/เครื่องกำเนิด และระบบแบบผสมผสานรวมระบบ วงจรปิด และ วงจรเปิดค่อนข้างแตกต่างจากพลังงานความร้อนมหาสมุทรมหาสมุทรพลังงานกลได้ แม้ว่าดวงอาทิตย์มีผลกระทบต่อกิจกรรมของมหาสมุทรทั้งหมด มีการขับเคลื่อนกระแสน้ำหลัก โดยดึงความโน้มถ่วงของดวงจันทร์ และคลื่นมีการขับเคลื่อนหลักจากลม ดัง กระแสน้ำและคลื่นได้แหล่งพลังงาน ไม่ต่อเนื่องในขณะที่พลังงานความร้อนมหาสมุทรค่อนข้างคง ยัง ต่างจากพลังงานความร้อน การแปลงไฟฟ้าทั้งบ่า และพลังงานของคลื่นมักจะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เครื่องจักรกลเขื่อนกั้นน้ำ (เขื่อน) โดยปกติใช้สำหรับแปลงพลังงานบ่าเป็นไฟฟ้า โดยการบังคับให้น้ำที่ผ่านกังหัน เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่เปิดใช้งาน การแปลงพลังงานคลื่น มีระบบพื้นฐานสาม: ช่องกรวยคลื่นเป็นระยะสั้น ระบบการลอยที่ขับปั๊มไฮดรอลิก และขาน้ำคอลัมน์ระบบที่ใช้คลื่นอัดอากาศภายในคอนเทนเนอร์ พลังงานกลที่สร้างขึ้นจากระบบเหล่านี้โดยตรงเรียกใช้เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือโอนย้าย ไปยังของไหลทำงาน น้ำ อากาศ ซึ่งแล้ว ไดรฟ์แบบ/เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มหาสมุทรครอบคลุมมากกว่า 70% ของพื้นผิวโลกทำให้พวกเขาสะสมพลังงานแสงอาทิตย์ใหญ่ที่สุดในโลก ความร้อนของดวงอาทิตย์อุ่นน้ำผิวดินมากขึ้นกว่าน้ำทะเลลึกและความแตกต่างของอุณหภูมินี้จะสร้างพลังงานความร้อน เพียงแค่ส่วนเล็ก ๆ ของความร้อนที่ติดอยู่ในมหาสมุทรอาจอำนาจโลก.
พลังงานความร้อนในมหาสมุทรถูกนำมาใช้สำหรับการใช้งานจำนวนมากรวมทั้งการผลิตกระแสไฟฟ้า มีสามประเภทของระบบการแปลงไฟฟ้า: ปิดวงจรเปิดวงจรและไฮบริด ระบบปิดรอบการใช้น้ำผิวดินที่อบอุ่นของมหาสมุทรจะกลายเป็นไอน้ำที่ทำงานซึ่งมีจุดต่ำเดือดเช่นแอมโมเนีย ไอขยายและเปลี่ยนกังหัน กังหันแล้วเปิดใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าในการผลิตไฟฟ้า ระบบเปิดวงจรจริงต้มน้ำทะเลโดยการดำเนินงานที่ความดันต่ำ นี้ผลิตไอน้ำที่ผ่านกังหัน / เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และระบบไฮบริดรวมทั้งปิดวงจรและระบบเปิดวงจร.
มหาสมุทรพลังงานกลค่อนข้างแตกต่างจากพลังงานความร้อนในมหาสมุทร แม้ว่าดวงอาทิตย์ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางทะเลทั้งหมดกระแสน้ำจะถูกขับดันด้วยแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และคลื่นจะถูกขับดันด้วยลม เป็นผลให้กระแสน้ำและคลื่นเป็นแหล่งของพลังงานต่อเนื่องในขณะที่มหาสมุทรพลังงานความร้อนเป็นค่าคงที่เป็นธรรม นอกจากนี้ยังแตกต่างจากพลังงานความร้อน, การแปลงกระแสไฟฟ้าจากพลังงานน้ำขึ้นน้ำลงและทั้งสองคลื่นมักจะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เชิงกล.
ระดม (เขื่อน) โดยปกติจะใช้ในการแปลงพลังงานน้ำขึ้นน้ำลงเป็นไฟฟ้าโดยการบังคับให้น้ำผ่านกังหันเปิดใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สำหรับการแปลงพลังงานคลื่นมีสามระบบพื้นฐานระบบช่องทางที่ช่องทางคลื่นเข้าสู่อ่างเก็บน้ำ; ลอยที่ไดรฟ์ระบบปั๊มไฮโดรลิ; และระบบน้ำคอลัมน์สั่นที่ใช้คลื่นในการบีบอัดอากาศภายในภาชนะ พลังงานกลที่สร้างขึ้นจากระบบเหล่านี้ไม่ว่าโดยตรงเปิดใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้าหรือโอนไปยังของไหลทำงาน, น้ำ, หรืออากาศที่แล้วไดรฟ์กังหัน / เครื่องกำเนิดไฟฟ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มหาสมุทรครอบคลุมกว่า 70% ของพื้นผิวโลก ทำให้โลกของการสะสมพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุด ดวงอาทิตย์ร้อนอุ่นพื้นผิวน้ำมากกว่าน้ำในมหาสมุทรลึก และความแตกต่างของอุณหภูมินี้สร้างพลังงาน เพียงส่วนเล็ก ๆของความร้อนที่ติดอยู่ในมหาสมุทรสามารถให้พลังงานโลก
มหาสมุทรพลังงานความร้อนที่ใช้สำหรับการใช้งานหลาย ได้แก่ การผลิตไฟฟ้ามีอยู่สามชนิดของระบบแปลงไฟฟ้าวงจร วงจร เปิด และแบบปิด ระบบวงจรปิดการใช้งานของมหาสมุทรอุ่นน้ำกลายเป็นไอของเหลวทำงาน ซึ่งมีจุดเดือดต่ำ เช่น แอมโมเนีย ไอขยายและหมุนแบบกังหัน แล้วเปิดใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าระบบวงจรเปิดจริงต้มน้ำทะเล โดยปฏิบัติการที่ความดันต่ำ นี้ผลิตไอน้ำที่ผ่านกังหัน / เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และระบบไฮบริด รวมทั้งปิดวงจรและระบบวงจรเปิด
มหาสมุทรพลังงานกลค่อนข้างแตกต่างจากมหาสมุทรพลังงาน ถึงแม้ว่าดวงอาทิตย์มีผลต่อกิจกรรมมหาสมุทรทั้งหมด กระแสน้ำจะถูกขับดันโดยแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และคลื่นจะถูกขับดันโดยลม เป็นผลให้กระแสน้ำและคลื่นเป็นแหล่งพลังงานต่อเนื่อง ขณะที่มหาสมุทรพลังงานความร้อนค่อนข้างคงที่ นอกจากนี้ ซึ่งแตกต่างจากพลังงาน ไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลงทั้งคลื่นและคลื่นพลังงานมักจะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์กล
เขื่อน ( เขื่อน ) มักจะใช้เพื่อแปลงพลังงานคลื่นไฟฟ้า โดยการบังคับให้น้ำผ่านกังหันเปิดใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สำหรับการแปลงพลังงานจากคลื่นมี 3 ระบบพื้นฐาน : ช่องทางระบบช่องทางคลื่นเป็นอ่างเก็บน้ำที่ขับปั๊มไฮดรอลิ ; ลอยระบบ และระบบน้ำที่ใช้สั่นคอลัมน์คลื่นอัดอากาศภายในภาชนะ ไฟฟ้าเครื่องกลที่สร้างจากระบบเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งโดยตรงเปิดใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือโอนไปทำงาน ของเหลว น้ำหรืออากาศ ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ / เครื่องกำเนิดไฟฟ้า