History of chocolateChocolate origi

History of chocolate
Chocolate originally came from Mexico and Central America. Historians think that the Maya took the wild cacao trees from the rainforest and planted them in their own gardens. They crushed the seeds and mixed them with water and spices to make a hot drink.
Chocolate and cacao were very important for the Mayan culture. Families drank a hot chocolate drink at special occasions and at parties.
The Aztecs, a people who lived centuries later, used cacao beans as a form of money. They traded other valuable goods to get them because they didn’t grow there. Only the rich people had the money to buy cacao and drink hot chocolate.
In the 16th century Spanish explorers brought cacao back to Europe, where the drink became popular quickly, especially among kings, queens and noblemen. Other European powers began to plant cacao trees in their own colonies.
During the Industrial Revolution new technologies were able to make the production of cacao cheaper, so that poorer people could also afford it. In the 19th century the beans were pressed together with butter and mixed with sugar into a new form, chocolate.
Today the biggest chocolate producing countries are the United States, Great Britain, Germany, Switzerland, the Netherlands and France.

How cacao grows
Cacao trees grow in the tropical regions of South America, Africa and Asia. The biggest cacao bean producers are the Ivory Coast, Ghana, Indonesia and Brazil. The cacao tree can grow to a height of 7 metres. After about 5 years the cacao trees produce large fruits. When the fruit is ripe it can contain 20 to 40 seeds.
How chocolate is made
After the cacao seeds are harvested they are transported to factories, where they are cleaned and dried. The outer parts of the seeds are removed.
Workers then roast the beans to give them a certain flavour. The seeds of the cacao beans have a lot of fat in them. They are grinded and mixed together with butter to form cocoa butter.
A dry powder can be made by pressing fat and water out of the cocoa butter. This powder is used for baking and also mixed with hot milk to drink.
Chocolate bars are made by putting sugar and milk into the cocoa butter. This paste is then put into different kinds of moulds.
Chocolate making is a big business. More than five billion dollars worth of cacao beans are sold every year. Americans, for example, eat five kilograms of chocolate every year.
Value of Chocolate
Chocolate has a lot of calories but it also has carbohydrates, fats, and other vitamins and minerals. It can give you a lot of energy that you need to do sports or hard work.
Scientists have found out that eating chocolate reduces blood pressure and the risk of heart disease and cancer.
There are also negative effects of chocolate. It can make you addicted and lead to obesity. Chocolate in large amounts lead to tooth decay.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติของช็อคโกแลตช็อกโกแลตมาจากเม็กซิโกและอเมริกากลาง นักประวัติศาสตร์คิดว่า มายาเอาต้น cacao ป่าจากป่า และปลูกไว้ในสวนของตนเอง จะบดเมล็ดพืช และผสมไปกับน้ำและเครื่องเทศเพื่อทำเครื่องดื่มร้อนช็อคโกแลตและ cacao สำคัญมากสำหรับวัฒนธรรมมายา ครอบครัวดื่มเครื่องดื่มช็อกโกแลตร้อน ในโอกาสพิเศษ และงานเลี้ยงAztecs คนที่อาศัยอยู่มานานหลายศตวรรษต่อมา ใช้เมล็ด cacao เป็นรูปแบบของเงิน พวกเขาซื้อขายสินค้าอื่น ๆ ที่มีคุณค่าเพื่อให้พวกเขา เพราะพวกเขาไม่ได้เติบโตมี เฉพาะคนรวยมีเงินซื้อ cacao และดื่มช็อกโกแลตร้อนในศตวรรษ 16 เอ็กซ์พลอเรอร์สเปนนำ cacao ไปยุโรป ซึ่งเครื่องดื่มเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างคิงส์ ควีนส์ และ noblemen อื่น ๆ อำนาจยุโรปเริ่มปลูกต้นไม้ cacao ในอาณานิคมของตนเองในระหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรม เทคโนโลยีใหม่สามารถทำการผลิตของ cacao ถูกกว่า เพื่อว่าคนย่อมยังสามารถจ่ายได้ ในศตวรรษที่ 19 ถั่วถูกกดกับเนย และผสมกับน้ำตาลลงในฟอร์มใหม่ ช็อคโกแลตวันนี้ประเทศ producing ช็อคโกแลตที่ใหญ่ที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศสวิธีการเติบโตของ cacaoต้น cacao เติบโตในเขตร้อนของอเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย ในผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดของถั่ว cacao เป็นโกตดิวัวร์ กานา อินโดนีเซีย และบราซิล ต้น cacao สามารถเจริญเติบโตความสูง 7 เมตร หลังจาก 5 ปี ต้น cacao ผลิตผลไม้ขนาดใหญ่ เมื่อผลไม้สุก จึงสามารถประกอบด้วย 20-40 เมล็ดวิธีทำช็อคโกแลตหลังจากที่มีการเก็บเกี่ยวเมล็ด cacao จะถูกลำเลียงไปโรงงาน ที่พวกเขาจะทำความสะอาด และแห้ง ส่วนภายนอกของเมล็ดจะถูกเอาออกคนย่างถั่วเพื่อให้รสชาติบางแล้ว เมล็ดเมล็ด cacao มีมากไขมันใน พวกเขาเป็น grinded และผสมกับเนยสดกับเนยโกโก้แบบฟอร์มผงแห้งสามารถทำได้ ด้วยการกดไขมันและน้ำจากเนยโกโก้ ผงนี้จะใช้ในการอบ และยัง ผสมกับนมร้อนดื่มบาร์ช็อคโกแลตจะทำ โดยการใส่น้ำตาลและนมเป็นเนยโกโก้ วางนี้แล้วอยู่ในประเภทของแม่พิมพ์ทำช็อคโกแลตเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ กว่า 5 พันล้านดอลลาร์มูลค่าเมล็ด cacao มีขายทุกปี ตัวอย่าง อเมริกัน กินห้ากิโลกรัมของช็อกโกแลตทุกปีค่าของช็อคโกแลตช็อกโกแลตมีแคลอรี่มาก แต่ยังมีคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และอื่น ๆ วิตามิน และแร่ธาตุ มันสามารถให้พลังงานที่คุณต้องการทำหรือการทำงานหนักมากนักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า กินช็อกโกแลตช่วยลดความดันโลหิตและความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคมะเร็งนอกจากนี้ยังมีผลกระทบเชิงลบของช็อคโกแลต มันสามารถทำให้คุณติด และนำไปสู่โรคอ้วน ช็อกโกแลตในปริมาณมากทำให้ฟันผุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติของช็อกโกแลตช็อกโกแลต
แต่เดิมมาจากเม็กซิโก และอเมริกากลาง นักประวัติศาสตร์ว่า มายา เอาต้นไม้ต้นโกโก้ป่าจากป่าและปลูกไว้ในสวนของตัวเอง พวกเขาบดเมล็ดพืช และผสมกับน้ำ และเครื่องเทศ เพื่อให้เครื่องดื่มร้อน ช็อกโกแลต และโกโก้
สำคัญมากสำหรับวัฒนธรรมมายันครอบครัวที่ดื่มเครื่องดื่มช็อกโกแลตร้อนและในโอกาสพิเศษที่ฝ่าย .
Aztecs , คนที่มีชีวิตอยู่หลายศตวรรษต่อมา ใช้เมล็ดโกโก้เป็นรูปแบบของเงิน พวกเขาขายสินค้าที่มีคุณค่าอื่น ๆที่จะได้รับพวกเขาเพราะพวกเขาไม่ได้เติบโตที่นั่น มีแต่คนรวยที่มีเงินซื้อโกโก้และเครื่องดื่มช็อกโกแลตร้อน .
ในศตวรรษที่ 16 นักสำรวจชาวสเปนได้นำเมล็ดโกโก้กลับยุโรปที่เครื่องดื่มกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่กษัตริย์ ราชินี และเหล่าขุนนาง อำนาจในยุโรปอื่น ๆเริ่มที่จะปลูกต้นโกโก้ในอาณานิคมของตนเอง .
ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่สามารถทำให้การผลิตโกโก้ราคาถูกเพื่อให้ประชาชนที่ยากจนไม่สามารถจ่ายได้ในศตวรรษที่ 19 ถั่วที่ถูกกดเข้าด้วยกันกับเนยและผสมกับน้ำตาลลงในแบบฟอร์มใหม่ ช็อกโกแลต ช็อกโกแลต
วันนี้ที่ใหญ่ที่สุดผลิตประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ และฝรั่งเศส ว่าเติบโตขึ้น


โกโก้โกโก้ต้นไม้เติบโตในภูมิภาคเขตร้อนของอเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย ต้นโกโก้ถั่วที่ใหญ่ที่สุดผู้ผลิตชายฝั่งงาช้างกานา , อินโดนีเซีย และบราซิล ต้นไม้ต้นโกโก้สามารถเติบโตได้ถึงความสูง 7 เมตร หลังจาก 5 ปีผลิตโกโก้ต้นไม้ผลไม้ขนาดใหญ่ เมื่อผลไม้สุกมันสามารถบรรจุ 20 ถึง 40 เมล็ด วิธีทำช็อกโกแลต

หลังจากเมล็ดโกโก้จะเก็บเกี่ยวพวกเขาจะส่งไปยังโรงงานที่พวกเขาจะถูกล้างและอบแห้ง ส่วนภายนอกของเมล็ดจะถูกลบออก .
คนงานแล้วคั่วถั่วเพื่อให้พวกเขามีกลิ่นบางอย่าง เมล็ดของต้นโกโก้ถั่วมีไขมันมากในพวกเขา พวกเขาบดและผสมเข้าด้วยกันกับเนยจากเนยโกโก้
ผงแห้ง ทำได้โดยการกดไขมัน และน้ำจากโกโก้บัตเตอร์ ผงนี้จะใช้สำหรับการอบและนมร้อนดื่ม .
ช็อกโกแลตแท่งที่ทำโดยการใส่น้ำตาลและนมลงในโกโก้บัตเตอร์ นี้วาง แล้วใส่ลงในชนิดที่แตกต่างกันของแม่พิมพ์
ช็อกโกแลตทำให้เป็นธุรกิจใหญ่ กว่าห้าพันล้านดอลลาร์มูลค่าของต้นโกโก้ถั่วขายทุกปี ตัวอย่างเช่น คนอเมริกันกินช็อกโกแลตทุกปี 5 กิโลกรัม มูลค่าของช็อกโกแลตช็อกโกแลต

มีแคลอรีมาก แต่ก็ยังมีคาร์โบไฮเดรต ไขมันและวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ มันสามารถให้คุณมากของพลังงานที่คุณต้องการ กีฬา หรือทำงานหนัก
นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า การรับประทานช็อกโกแลตช่วยลดความดันโลหิตและความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง
ยังมีผลกระทบด้านลบของช็อกโกแลต มันสามารถทำให้คุณติดยาเสพติด และนำไปสู่โรคอ้วน ช็อกโกแลตในปริมาณมากทำให้เกิดฟันผุ