Next, phubbing less caring of famil

Next, phubbing less caring of family and friends. Excessive use of Internet and Social Networking Sites may limit the proper interpersonal skill development. When interpersonal communication skills are depleted, conflict resolution and problem solving skills are also in declination. Indicated that responses to hypothetical conflict situations are similar to responses observed in real-life experiences. The increase of adolescence reliance on technology for communication with the declination of face to face interaction will result in decreased ability to handle real-life conflicts. Adolescents that have close online relationships, they were reported high amounts of conflict and felt frightened or were in significant trouble did not reach out and communicate with their parents. The ineffective problem solving skills can jeopardize safety and lead to series violence acts. A study published by American Psychologist was one of the earliest researches to examine the relationship between Internet use and social involvement and psychological well-being. The study was conducted of ninety-three families, consisted of 256 people, in their first twelve to eighteen months of being online. Results were found that increased Internet use has affected in the decreased of social involvement, feeling lonelier, and in depressive symptoms were increase. The higher the Internet use, the less communication among family members. The Pediatrics Journal warns of teens that excessively spend time Facebook that they may suffer from Facebook Depression Syndrome. The scholars from American Academy of Pediatrics argue that being rejected on Facebook can be more harmful than being ignored by their actual friends which could be followed by mental illness and would commit a suicide. Moreover, study led by Joanne Davila at Stony Brook University found that texting, email and social networking sites can negatively impact teens to obsess over certain issues rather than solving conflicts. One of the things we are finding is that there are people who are at a greater risk to the negative interactions in social networking and consequently feeling depressed or sad

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Phubbing ถัดไป หักการดูแลของครอบครัวและเพื่อน การใช้อินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์เครือข่ายสังคมมากเกินไปอาจจำกัดการพัฒนาบุคลิกภาพที่เหมาะสม เมื่อหมดแล้วทักษะมนุษยสัมพันธ์การสื่อสาร ทักษะการแก้ไขปัญหาและแก้ไขข้อขัดแย้งไว้ยังปฏิเสธ ระบุว่า การตอบสนองกับสถานการณ์ขัดแย้งสมมุติจะคล้ายกับการตอบสนองที่สังเกตเห็นในประสบการณ์ชีวิตจริง การเพิ่มขึ้นของวัยรุ่นพึ่งพาเทคโนโลยีสำหรับการสื่อสารกับการปฏิเสธของการโต้ตอบหน้าจะส่งผลให้ลดความสามารถในการจัดการความขัดแย้งจริง วัยรุ่นที่มีปิดความสัมพันธ์ออนไลน์ พวกเขามีเงินที่สูงของความขัดแย้ง และรู้สึกกลัว หรือในปัญหาสำคัญไม่ติดต่อ และสื่อสารกับผู้ปกครองไม่ ทักษะการแก้ไขปัญหาไม่ได้ผลสามารถอันตรายต่อความปลอดภัย และนำไปสู่การกระทำรุนแรงชุด ศึกษาที่ตีพิมพ์ โดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกันเป็นวิจัยเร็วที่สุดเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้อินเทอร์เน็ต และการมีส่วนร่วมทางสังคม และจิตใจความเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง การศึกษาดำเนินการของครอบครัวเก้าสิบสาม ประกอบด้วย 256 คน ในเดือนสิบสองถึงสิบแปดตนแรกที่ออนไลน์ ผลลัพธ์พบว่า ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมีผลในการลดลง ของสังคมมีส่วน ร่วม ความรู้สึก เหงาตาย และซึมเศร้าอาการถูกเพิ่ม สูงกว่าการใช้อินเทอร์เน็ต การสื่อสารน้อยในหมู่สมาชิกครอบครัว รายกุมารเตือนของวัยรุ่นที่ใช้เวลา Facebook ที่พวกเขาอาจทุกข์ทรมานจากอาการซึมเศร้า Facebook มากเกินไป นักวิชาการจากสถาบันอเมริกันของกุมารโต้เถียงว่า ถูกปฏิเสธบน Facebook สามารถเป็นอันตรายมากกว่าถูกละเว้นโดยเพื่อนของพวกเขาแท้จริงซึ่งอาจจะตามมา ด้วยการเจ็บป่วยทางจิต และจะฆ่า นอกจากนี้ ศึกษานำ โดย Joanne Davila มหาวิทยาลัย Stony Brook พบว่าส่งข้อความ อีเมลและเว็บไซต์เครือข่ายสังคมสามารถส่งผลเสียต่อวัยรุ่นให้ลึกซึ้งผ่านบางปัญหามากกว่าการแก้ความขัดแย้ง หนึ่งในสิ่งที่เรากำลังค้นหาอยู่ว่า มีคนที่มีความเสี่ยงมากขึ้นในการโต้ตอบเชิงลบในเครือข่ายสังคมและจึง รู้สึกหดหู่ หรือเศร้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถัดไป phubbing ดูแลน้อยของครอบครัวและเพื่อน การใช้งานที่มากเกินไปของอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์เครือข่ายสังคมอาจจะ จำกัด การพัฒนาทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เหมาะสม เมื่อทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลจะหมดลงแก้ปัญหาความขัดแย้งและทักษะการแก้ปัญหายังอยู่ในการปฏิเสธ ชี้ให้เห็นว่าการตอบสนองต่อสถานการณ์ความขัดแย้งสมมุติมีความคล้ายคลึงกับการตอบสนองข้อสังเกตในประสบการณ์ชีวิตจริง การเพิ่มขึ้นของวัยรุ่นพึ่งพาเทคโนโลยีสำหรับการสื่อสารกับการปฏิเสธของใบหน้าที่จะเผชิญกับการทำงานร่วมกันจะส่งผลให้ความสามารถในการปรับตัวลดลงในการจัดการความขัดแย้งในชีวิตจริง วัยรุ่นที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดออนไลน์ที่พวกเขาได้รับรายงานจำนวนเงินที่สูงของความขัดแย้งและรู้สึกกลัวหรือมีปัญหาที่สำคัญไม่ได้เข้าถึงและสื่อสารกับพ่อแม่ของพวกเขา ไม่ได้ผลทักษะการแก้ปัญหาสามารถเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยและนำไปสู่การกระทำความรุนแรงในซีรีส์ การศึกษาที่เผยแพร่โดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกันเป็นหนึ่งในงานวิจัยที่เก่าแก่ที่สุดในการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ตและการมีส่วนร่วมทางสังคมและจิตใจเป็นอยู่ที่ดี การศึกษาได้ดำเนินการ 93 ครอบครัวประกอบด้วย 256 คนเป็นครั้งแรกในสิบแปดเดือนของพวกเขาถูกออนไลน์ ผลการวิจัยพบว่าการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นได้ส่งผลกระทบในการลดการมีส่วนร่วมทางสังคมความรู้สึกเหงาและในอาการซึมเศร้าได้เพิ่มขึ้น สูงกว่าการใช้อินเทอร์เน็ตในการสื่อสารน้อยในหมู่สมาชิกในครอบครัว วารสารกุมารเวชศาสตเตือนของวัยรุ่นที่ใช้เวลามากเกินไป Facebook ที่พวกเขาอาจจะต้องทนทุกข์ทรมานจาก Facebook อาการซึมเศร้าซินโดรม นักวิชาการจาก American Academy of Pediatrics ยืนยันว่าถูกปฏิเสธบน Facebook อาจเป็นอันตรายมากขึ้นกว่าที่ถูกละเลยจากเพื่อน ๆ ที่เกิดขึ้นจริงของพวกเขาซึ่งอาจจะตามมาด้วยความเจ็บป่วยทางจิตและจะฆ่าตัวตาย นอกจากนี้การศึกษานำโดยโจแอนนา Davila ที่มหาวิทยาลัย Stony Brook พบว่าการส่งข้อความอีเมลและเว็บไซต์เครือข่ายสังคมสามารถส่งผลกระทบในเชิงลบวัยรุ่นที่จะครอบงำมากกว่าปัญหาบางอย่างมากกว่าความขัดแย้งแก้ หนึ่งในสิ่งที่เรากำลังมองหาก็คือว่ามีคนที่มีความเสี่ยงมากขึ้นในการปฏิสัมพันธ์เชิงลบในเครือข่ายสังคมและทำให้รู้สึกหดหู่หรือเศร้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ต่อไป phubbing ดูแลน้อยของครอบครัวและเพื่อน การใช้มากเกินไปของอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์เครือข่ายสังคมอาจจะ จำกัด เฉพาะการพัฒนาทักษะระหว่างบุคคล เมื่อทักษะการสื่อสารระหว่างบุคคลพร่อง ความขัดแย้ง และทักษะการแก้ปัญหายังอยู่ในความเสื่อม พบว่า การตอบสนองต่อสถานการณ์ความขัดแย้ง สมมุติจะคล้ายกับการตอบสนองจากประสบการณ์ในชีวิตจริง การเพิ่มขึ้นของวัยรุ่นในการพึ่งพาเทคโนโลยีการสื่อสารกับความเสื่อมของใบหน้าเพื่อใบหน้าปฏิสัมพันธ์จะมีผลทำให้ความสามารถในการจัดการกับความขัดแย้งในชีวิตจริง วัยรุ่นที่มีความสัมพันธ์ออนไลน์ ปิด พวกเขามีปริมาณสูงของความขัดแย้งและรู้สึกหวาดกลัว หรือมีปัญหา ที่สำคัญไม่เข้าถึงและสื่อสารกับพ่อแม่ของพวกเขา ไม่มีประสิทธิภาพ ทักษะการแก้ปัญหา สามารถเป็นอันตรายต่อความปลอดภัย และนำไปสู่ความรุนแรง ชุดทำ การศึกษาที่เผยแพร่โดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกันเป็นหนึ่งในงานวิจัยแรกเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้อินเทอร์เน็ตและการมีส่วนร่วมกับสังคมและสุขภาวะทางจิต ศึกษาของครอบครัว จำนวน 93 , 256 คน ใน 12 18 เดือนแรกของการออนไลน์ ผลการวิจัยพบว่าเมื่อใช้อินเทอร์เน็ตได้รับผลกระทบในการลดลงของสังคม ความรู้สึกเหงา และอาการของโรคซึมเศร้า คือเพิ่ม ที่สูงกว่าการใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลง การสื่อสารระหว่างสมาชิกในครอบครัว แผนกกุมารเวชวารสารเตือนวัยรุ่นที่มากเกินไป ใช้เวลาใน Facebook ที่พวกเขาอาจประสบจาก Facebook ภาวะซึมเศร้า ซินโดรม นักวิชาการจากสถาบันกุมารเวชศาสตร์อเมริกันยืนยันว่าถูกปฏิเสธบน Facebook สามารถเป็นอันตรายมากกว่าถูกละเว้น โดยตนจริง เพื่อนๆ คนไหน อาจจะตามด้วยการเจ็บป่วยทางจิตและจะฆ่าตัวตาย . นอกจากนี้ การศึกษานำโดย โจแอน ดาวิล่า ที่มหาวิทยาลัยห้วยหิน พบว่า การส่งข้อความ อีเมล์ และเว็บไซต์เครือข่ายสังคมสามารถส่งผลกระทบในเชิงลบต่อวัยรุ่นหมกมุ่นกับเรื่องบางเรื่อง มากกว่า การแก้ไขความขัดแย้ง สิ่งหนึ่งที่เราพบว่ามีบุคคลที่มีความเสี่ยงมากกว่าการปฏิสัมพันธ์เชิงลบในเครือข่ายสังคมและจึงรู้สึกหดหู่ เศร้า