The purpose of this study was to as

The purpose of this study was to assess the effectiveness of Brain-Based Learning (BBL) method in chemical safety training. The study compared results of learning between traditional classroom style and BBL, using the test of chemical safety knowledge issued by Occupational Safety and Health Bureau, Thailand (OSH Thailand) to evaluate the learning effectiveness. This experimental design research involved volunteer sampling of 60 learners from chemical industries located in the central part of Thailand. All samples were randomly taken and allocated into two groups; an experimental group (BBL method) and a control group (traditional classroom). Each group consisted of 30 learners. The results indicated that the BBL approach was more effective than the traditional classroom approach on chemical safety learning in workplace. BBL not only increased the learning achievement of safety knowledge on chemical users but also provided both trainers and learners’ better understanding from each other aspects.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ ประเมินประสิทธิภาพของวิธีใช้สมองเรียนรู้ (มหาชน) ในการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยสารเคมี การศึกษาเปรียบเทียบผลการเรียนรู้แบบห้องเรียนแบบดั้งเดิมและอัตโนมัติ โดยใช้การทดสอบความรู้ด้านความปลอดภัยสารเคมีที่ออก โดยสำนักงานสุขภาพ ไทย (ออชไทย) เพื่อประเมินประสิทธิภาพการเรียนรู้และความปลอดภัยอาชีว งานวิจัยการออกแบบการทดลองนี้เกี่ยวข้องกับการสุ่มตัวอย่างอาสาสมัครของนักเรียน 60 จากอุตสาหกรรมเคมีที่อยู่ในภาคกลางของประเทศไทย ตัวอย่างทั้งหมดถูกสุ่มมา และจัดสรรเป็น 2 กลุ่ม (วิธีมหาชน) กับกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม (แบบเรียน) แต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักเรียน 30 ผลระบุว่า วิธีอัตโนมัติมีประสิทธิภาพกว่าวิธีการเรียนแบบเรียนในที่ทำงานเพื่อความปลอดภัยสารเคมี สหรัฐฯ ไม่เพียง เพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนความรู้ด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับผู้ใช้สารเคมี แต่ยัง มีผู้ฝึกสอนและผู้เรียนเข้าใจจากกันด้านการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินประสิทธิภาพของสมองตามการเรียนรู้ (BBL) วิธีการในการฝึกอบรมความปลอดภัยของสารเคมี การศึกษาเปรียบเทียบผลของการเรียนรู้ระหว่างรูปแบบห้องเรียนแบบดั้งเดิมและ BBL, การใช้การทดสอบความรู้ด้านความปลอดภัยสารเคมีที่ออกโดยความปลอดภัยและอาชีวสำนักสุขภาพประเทศไทย (OSH ประเทศไทย) ในการประเมินประสิทธิภาพการเรียนรู้ นี้การออกแบบการทดลองการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเก็บตัวอย่างอาสาสมัคร 60 ผู้เรียนจากอุตสาหกรรมเคมีที่ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย ตัวอย่างทั้งหมดถูกถ่ายโดยการสุ่มและการจัดสรรออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มทดลอง (วิธีการต่อบาร์เรล) และกลุ่มควบคุม (ห้องเรียนแบบดั้งเดิม) แต่ละกลุ่มประกอบด้วย 30 ผู้เรียน ผลที่ได้ชี้ให้เห็นว่าวิธีการที่ BBL มีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการเรียนแบบดั้งเดิมในการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยของสารเคมีในที่ทำงาน BBL เพิ่มขึ้นไม่เพียง แต่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของความรู้ด้านความปลอดภัยในการใช้สารเคมี แต่ยังให้ทั้งผู้ฝึกสอนและผู้เรียนเข้าใจที่ดีขึ้นจากแต่ละด้านอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ประสิทธิผลของการเรียนรู้โดยใช้สมอง ( BBL ) ในการอบรมความปลอดภัยทางเคมี การศึกษาเปรียบเทียบผลของการเรียนรู้ระหว่างรูปแบบชั้นเรียนแบบดั้งเดิม และยังมีแบบทดสอบความปลอดภัยของเคมีความรู้ที่ออกโดยสำนักงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ประเทศไทย ( Osh ) ประเทศไทย เพื่อประเมินประสิทธิผลการเรียนรู้นี้ทดลองวิจัยเกี่ยวข้องกับอาสาสมัครจำนวน 60 ผู้เรียนจากเคมีอุตสาหกรรมตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศไทย ตัวอย่างทั้งหมดจะถูกสุ่มเลือกและจัดสรรออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มทดลอง ( วิธีที่ 1 ) และกลุ่มควบคุม ( ห้องเรียนแบบดั้งเดิม ) กลุ่มละ 30 ผู้เรียนผลการวิจัยพบว่า วิธีการทีมีประสิทธิภาพมากกว่าวิธีการดั้งเดิมในการเรียนรู้ในห้องเรียนเคมีปลอดภัยในสถานที่ทำงาน BBL ไม่เพียง แต่เพิ่มความความปลอดภัยของความรู้ในการเรียนรู้ แต่ยังให้ผู้ใช้สารเคมีทั้งวิทยากรและผู้เรียนมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน
)