Tea is an all-natural and environme

Tea is an all-natural and environmentally sound product from a renewable source. The tea plant is naturally resistant to most insects; oxidation of the tea leaf is a natural process; and, many tea packers use recycled paper for packaging.



Health Qualities:



Tea is a refreshing beverage that contains no sodium, fat, carbonation, or sugar. It is virtually calorie-free. Tea helps maintain proper fluid balance and may contribute to overall good health.



Tea contains flavonoids, naturally occurring compounds that are believed to have antioxidant properties. Tea flavonoids often provide bioactive compounds that help to neutralize free radicals, which scientists believe, over time, damage elements in the body, such as genetic material and lipids, and contribute to chronic disease.



Every day, new findings from the international scientific community lend credibility to tea’s healthy properties. Recent research has explored the potential health attributes of tea through studies in humans, animal models and through in vitro laboratory research. For the most part, studies conducted on green and black tea, which are both from the Camellia sinensis plant, have yielded similar results. Recent research suggests that tea and tea flavonoids may play important roles in various areas of health and may operate through a number of different mechanisms still being explored.



As research continues, here are some exciting recent findings:



Heart Health:

Human population studies have found that people who regularly consume three or more cups of Black Tea per day have a reduced risk of heart disease and stroke.11-15 The current body of research suggests that drinking tea can offer significant heart health benefits ranging from reducing heart attack risk to lowering Low Density Lipoprotein (LDL) cholesterol, or “bad” cholesterol, with benefits seen with just one cup and upwards of six cups a day. A Harvard study found that those who drank a cup or more of black tea per day had a 44% reduced risk of heart attack.[1] In a large population based study, adults who drank just over two cups of green tea per day reduced their risk of death from cardiovascular disease by 22-23%.[2] A US Department of Agriculture study found that participants who drank five cups of black tea per day along with a diet moderately low in fat and cholesterol reduced their LDL cholesterol by about 11% after three weeks.[3] Additionally, a study published in the December 2013 issue of the American Journal of Clinical Nutrition found that black tea reduced blood pressure, and among hypertensive subjects, it helped counteract the negative effects of a high-fat meal on blood pressure and arterial blood flow.42



Certain Cancers:

More than 3,000 published research studies exist that evaluate the role tea—whether white, green, oolong or black—and tea compounds, such as epigallocatechin gallate (EGCG), may play in cancers of various sites. Benefits to gastrointestinal health reaped by tea-drinking seem to be cumulative and dependant upon the amount of tea consumed per day as well as the number of tea-drinking years. One study found that women who consumed the equivalent of 2.5 cups of tea per day had a 60% reduction in rectal cancer risk, compared with women who drank less than 1.2 cups of tea daily.[4] An additional study found tea drinkers to have an approximate 42% reduced risk of colon cancer compared to non-tea drinkers. Men who drank more than 1.5 cups of tea per day were found to have a 70% lower colon cancer risk.[5] One study showed that participants who drank iced black tea and citrus peel had a 42% reduced risk of skin cancer[6] and hot black tea consumption was associated with a significantly lower risk of the most common form of skin cancer, squamous cell carcinoma.[7] A study published in the February 2015 issue of the Journal of Molecular Nutrition and Food Research found that the main antioxidant in green tea, epigallocatechin-3-gallate (EGCG), helps kill cancer cells through the destruction of the cells’ mitochondria.43

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชาเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติทั้งหมดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน โรงงานชาเป็นธรรมชาติทนต่อแมลงมากที่สุด; ออกซิเดชันของใบชาเป็นกระบวนการธรรมชาติ และแบ่งบรรจุชาจำนวนมากใช้กระดาษรีไซเคิลสำหรับบรรจุภัณฑ์.



ประสิทธิสุขภาพ:



ชาเป็นเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นที่มีโซเดียมไม่มีไขมันอัดลมหรือน้ำตาล มันเป็นความจริงแคลอรี่ฟรี ชาช่วยรักษาสมดุลของของเหลวที่เหมาะสมและอาจนำไปสู่สุขภาพที่ดีโดยรวม.



ชามี flavonoids, สารประกอบธรรมชาติที่เกิดขึ้นที่เชื่อว่ามีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ flavonoids ชามักจะให้สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปองค์ประกอบความเสียหายในร่างกายเช่นสารพันธุกรรมและไขมันและนำไปสู่โรคเรื้อรัง.



ทุกวันการค้นพบใหม่จากชุมชนวิทยาศาสตร์ระดับนานาชาติให้ยืม ความน่าเชื่อถือให้คุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพของชา งานวิจัยล่าสุดมีการสำรวจคุณลักษณะสุขภาพที่อาจเกิดของชาผ่านการศึกษาในมนุษย์สัตว์และผ่านในหลอดทดลองวิจัยในห้องปฏิบัติการ ส่วนใหญ่การศึกษาดำเนินการเกี่ยวกับชาเขียวและสีดำซึ่งมีทั้งจากโรงงานต้นชาได้ให้ผลที่คล้ายกัน งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าชาและชา flavonoids อาจมีบทบาทสำคัญในพื้นที่ต่างๆของสุขภาพและอาจดำเนินการผ่านจำนวนของกลไกที่แตกต่างกันยังคงมีการสำรวจ.



เป็นงานวิจัยอย่างต่อเนื่องนี่คือบางส่วนผลการวิจัยล่าสุดที่น่าสนใจ:



สุขภาพหัวใจ:

การศึกษาประชากรมนุษย์ได้พบว่า คนที่มีการกินสามหรือมากกว่าถ้วยชาดำต่อวันมีการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและ stroke.11-15 ร่างกายปัจจุบันของการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการดื่มชาสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่การลดความเสี่ยงหัวใจวายที่จะลดต่ำ density lipoprotein (LDL) หรือคอเลสเตอรอล "เลว" ที่มีประโยชน์ที่เห็นมีเพียงหนึ่งถ้วยขึ้นไปหกถ้วยต่อวัน ฮาร์วาร์การศึกษาพบว่าผู้ที่ดื่มถ้วยหรือมากกว่าชาดำต่อวันได้ 44% ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ. [1] ในการศึกษาตามประชากรขนาดใหญ่ผู้ใหญ่ที่ดื่มเพียงสองถ้วยของชาเขียวต่อวันลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดโดย 22-23%. [2] กรมของการศึกษาเกษตรของสหรัฐพบว่าผู้เข้าร่วมที่ดื่มห้าถ้วยชาดำต่อวันพร้อมกับการกินอาหารไขมันต่ำปานกลางในไขมันและคอเลสเตอรอลลดคอเลสเตอรอลของพวกเขาโดยประมาณ 11% หลังจากสามสัปดาห์ที่ผ่านมา. [3] นอกจากนี้ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในฉบับเดือนธันวาคม 2013 วารสารอเมริกันคลินิกโภชนาการพบว่าชาดำลดความดันโลหิตและหมู่วิชาความดันโลหิตสูงจะช่วยรับมือกับผลกระทบเชิงลบของการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงความดันโลหิตและการไหลของเลือดแดง 42



โรคมะเร็งบางชนิด:

มากกว่า 3,000 ศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์อยู่ที่การประเมินบทบาทของชาไม่ว่าจะเป็นสีขาว, สีเขียว, ชาอูหลงหรือสีดำและชาสารประกอบเช่น epigallocatechin gallate (EGCG) อาจจะเล่นในโรคมะเร็งของเว็บไซต์ต่างๆ ประโยชน์ต่อสุขภาพของระบบทางเดินอาหารเก็บเกี่ยวโดยการดื่มชาดูเหมือนจะเป็นที่สะสมและขึ้นอยู่กับจำนวนของชาที่บริโภคต่อวันเช่นเดียวกับจำนวนของการดื่มชาปีที่ผ่านมา ผลการศึกษาพบว่าผู้หญิงที่บริโภคเทียบเท่า 2.5 ถ้วยชาต่อวันมีการลดลง 60% ในความเสี่ยงโรคมะเร็งทวารหนักเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ดื่มน้อยกว่า 1.2 ถ้วยชาในชีวิตประจำวัน. [4] การศึกษาเพิ่มเติมพบว่าการดื่มชาจะมีประมาณ 42% ลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อเทียบกับนักดื่มที่ไม่ใช่ชา คนที่ดื่มมากกว่า 1.5 ถ้วยชาต่อวันพบว่ามีความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ที่ต่ำกว่า 70%. [5] หนึ่งการศึกษาพบว่าผู้เข้าร่วมที่ดื่มชาดำเย็นและส้มเปลือกได้ 42% ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนัง [6] และร้อนการบริโภคชาดำมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญที่ลดลงของรูปแบบที่พบมากที่สุดของมะเร็งผิวหนัง squamous เซลล์ [7] การศึกษาตีพิมพ์ในฉบับกุมภาพันธ์ 2015 ของวารสารโภชนาการโมเลกุลและงานวิจัยด้านอาหารพบว่าสารต้านอนุมูลอิสระหลักในชาเขียว epigallocatechin-3-gallate (EGCG) ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งผ่านการทำลายของเซลล์ mitochondria.43 ฯ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชาเป็นผลิตภัณฑ์ทั้งหมดธรรมชาติและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากแหล่งพลังงานทดแทน พืชชาเป็นธรรมชาติป้องกันแมลงมากที่สุด ชนิดของใบชา เป็นกระบวนการทางธรรมชาติ และ เป็นชาที่ใช้กระดาษรีไซเคิลสำหรับบรรจุภัณฑ์คุณภาพสุขภาพชาเป็นเครื่องดื่มสดชื่นที่ไม่ประกอบด้วย โซเดียม คาร์บอเนต หรือ ไขมัน น้ำตาล มันคือความจริงแคลอรี่ฟรี ชาช่วยรักษาสมดุลของของเหลวที่เหมาะสมและอาจนำไปสู่สุขภาพที่ดีโดยรวมชามี flavonoids , เวไนยที่เชื่อว่ามีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ flavonoids ชามักจะให้สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ช่วงเวลา ความเสียหายธาตุในร่างกาย เช่น พันธุกรรม และไขมัน และนำไปสู่การเป็นโรคเรื้อรังทุก ๆวัน ผลการวิจัยใหม่จากชุมชนทางวิทยาศาสตร์นานาชาติ ให้ยืมเงิน คุณสมบัติสุขภาพชา . การวิจัยล่าสุดได้สำรวจศักยภาพของสุขภาพของชาผ่านการศึกษาในมนุษย์และสัตว์ผ่านในรูปแบบปฏิบัติการวิจัยปฏิบัติการ สำหรับส่วนใหญ่ , การศึกษาในสีเขียวและชาดำ ซึ่งมีทั้งจากต้นชาปลูกได้ผลผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน งานวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นว่าชาเขียวและ flavonoids ชาอาจมีบทบาทสำคัญในพื้นที่ต่างๆของสุขภาพและอาจจะดำเนินการผ่านทางหมายเลขของกลไกที่แตกต่างกันยังคงถูกสํารวจการวิจัยต่อไป ที่นี่จะพบล่าสุดที่น่าตื่นเต้นบาง :สุขภาพของหัวใจ :การศึกษาประชากรมนุษย์ได้พบว่า ผู้ที่หมั่นกินสามหรือมากกว่าถ้วยของชาดำต่อวันจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและ stroke.11-15 ร่างกายในปัจจุบันการวิจัยแสดงให้เห็นว่าการดื่มชาสามารถให้ประโยชน์ต่อสุขภาพที่สำคัญหัวใจตั้งแต่การลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เพื่อลดความหนาแน่นต่ำ ( LDL ) ไขมันหรือคอเลสเตอรอลที่ " เลวร้าย " กับผลประโยชน์ที่เห็นเพียงหนึ่งถ้วยขึ้นไปหกถ้วยต่อวัน ฮาร์วาร์ดพบว่าผู้ดื่มถ้วยต่อวันหรือมากกว่าชาดำมี 44 % ลดความเสี่ยงของหัวใจวาย . [ 1 ] ในประชากรขนาดใหญ่การศึกษาตามผู้ใหญ่ที่ดื่มไปแค่สองถ้วยของชาเขียวต่อวันลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดโดยสังคม [ 2 ] % สหรัฐอเมริกากรม การศึกษา การเกษตร พบว่า ผู้ที่ดื่มชาดำวันละ 5 ถ้วย พร้อมกับอาหารปานกลางต่ำในไขมันและคอเลสเตอรอลลดคอเลสเตอรอลประมาณ 11% หลังจากสามสัปดาห์ [ 3 ] นอกจากนี้ การศึกษาที่ตีพิมพ์ในธันวาคม 2013 ฉบับที่ของวารสารคลินิกโภชนาการพบว่าชาดำ ลดความดันโลหิต และในหมู่คนความดันโลหิตสูง มันช่วยลดผลกระทบเชิงลบของไขมันสูงอาหาร ต่อความดันโลหิตและเลือด flow.42มะเร็งบางชนิด :มากกว่า 3000 เผยแพร่งานวิจัยอยู่ที่ประเมินบทบาทชาว่า ขาว เขียว ชาอู่หลง หรือชาดำ และสารประกอบ เช่น gallate ( EGCG ) อาจจะเล่นในมะเร็งของเว็บไซต์ต่าง ๆ ประโยชน์ทางสุขภาพที่เกิดจากการดื่มชา ดูเหมือนจะสะสม และขึ้นอยู่กับปริมาณของชาบริโภคต่อวันเป็นจำนวนปี ดื่มชา การศึกษาหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่บริโภคเท่ากับ 2.5 ถ้วยของชาต่อวันได้ลด 60% ในความเสี่ยงมะเร็งทวารหนัก เมื่อเทียบกับคนที่ดื่มน้อยกว่า 1.2 ถ้วยชาทุกวัน [ 4 ] การศึกษาเพิ่มเติมพบดื่มชา มีประมาณ 42 % ลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่ เมื่อเทียบกับที่ไม่ใช่นักดื่มชา . ผู้ชายที่ดื่มมากกว่า 1.5 ถ้วยของชาต่อวัน พบว่ามีร้อยละ 70 ลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ [ 5 ] การศึกษาหนึ่งพบว่า ผู้ที่ดื่มชาดำเย็น เปลือกส้ม มี 42 % และลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งผิวหนัง [ 6 ] และการบริโภคชาดำร้อน มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ลดลงของ รูปแบบที่พบมากที่สุดของโรคมะเร็งผิวหนัง , โรคมะเร็งเซลล์ squamous . [ 7 ] การศึกษาตีพิมพ์ในฉบับกุมภาพันธ์ 2015 ในวารสารโภชนาการทางอาหาร และการวิจัยพบว่า สารสำคัญในชาเขียว epigallocatechin-3-gallate ( EGCG ) , ช่วยฆ่าเซลล์มะเร็ง โดยการทำลายเซลล์ ' mitochondria.43