Tikal (/tiˈkäl/) (Tik’al in modern

Tikal (/tiˈkäl/) (Tik’al in modern Mayan orthography) is one of the largest archaeological sites and urban centres of the pre-Columbian Maya civilization. It is located in the archaeological region of the Petén Basin in what is now northern Guatemala. Situated in the department of El Petén, the site is part of Guatemala's Tikal National Park and in 1979 it was declared a UNESCO World Heritage Site.[2]

Tikal was the capital of a conquest state that became one of the most powerful kingdoms of the ancient Maya.[3] Though monumental architecture at the site dates back as far as the 4th century BC, Tikal reached its apogee during the Classic Period, ca. 200 to 900 AD. During this time, the city dominated much of the Maya region politically, economically, and militarily, while interacting with areas throughout Mesoamerica such as the great metropolis of Teotihuacan in the distant Valley of Mexico. There is evidence that Tikal was conquered by Teotihuacan in the 4th century AD.[4] Following the end of the Late Classic Period, no new major monuments were built at Tikal and there is evidence that elite palaces were burned. These events were coupled with a gradual population decline, culminating with the site’s abandonment by the end of the 10th century.

Tikal is the best understood of any of the large lowland Maya cities, with a long dynastic ruler list, the discovery of the tombs of many of the rulers on this list and the investigation of their monuments, temples and palaces.[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Tikal (tiˈkäl /) (Tik'al ในสมัยมายา orthography) เป็นหนึ่งในของที่ใหญ่ที่สุดทางโบราณคดีและเมืองศูนย์กลางของอารยธรรมมายา Columbian ก่อน ตั้งอยู่ในภูมิภาคโบราณคดีของลุ่มแม่น้ำ Petén ในกัวเตมาลาเหนือ แห่งภาควิชา El Petén เว็บไซต์เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติของกัวเตมาลา Tikal และในปีค.ศ. 1979 ก็ได้ประกาศการชิมรส[2]

Tikal เป็นเมืองหลวงของรัฐชนะที่กลายเป็นหนึ่งของอาณาจักรมายาโบราณมีประสิทธิภาพมากที่สุด[3] แม้ว่า สถาปัตยกรรมอนุสาวรีย์ในวันไซต์กลับเท่าก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 4, Tikal แล้ว apogee ของช่วงคลาสสิก ca 200 ถึง 900 AD ในช่วงเวลานี้ เมืองครอบงำมากภาคมายาทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และ การท ในขณะที่โต้ตอบกับพื้นที่ทั่วเมโสอเมริกาเช่นเมโทรโพลิดีของ Teotihuacan ในหุบเขาห่างไกลของประเทศเม็กซิโก มีหลักฐานว่า Tikal ถูกเอาชนะ โดย Teotihuacan โดยใน AD ศตวรรษที่ 4[4] ต่อไปนี้จุดสิ้นสุดของสายคลาสสิก สร้างอนุสาวรีย์ใหญ่ไม่ใหม่ที่ Tikal และมีหลักฐานว่า พระราชวังป้อมได้เขียน เหตุการณ์เหล่านี้ถูกควบคู่กับลดลงประชากรสมดุล แถบ abandonment ของเว็บไซต์ โดยที่ 10 ศตวรรษ

Tikal จะเข้าใจดีสุดของราบมายาเมืองใหญ่ ไม้บรรทัดยาว dynastic รายการ การค้นพบสุสานของพระรายการนี้มากมายและการสอบสวน ของอนุสรณ์สถาน วัดวาอารามพระราชวัง[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Tikal (/ Tikal /) (Tik'al ในการสะกดการันต์ที่ทันสมัยมายัน) เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่ใหญ่ที่สุดและเมืองของอารยธรรม pre-หอมมายา มันตั้งอยู่ในภูมิภาคโบราณคดีPeténลุ่มน้ำในตอนนี้ทางภาคเหนือของประเทศกัวเตมาลา ตั้งอยู่ในแผนกของเอลPeténเว็บไซต์ที่เป็นส่วนหนึ่งของกัวเตมาลา Tikal อุทยานแห่งชาติและในปี 1979 ได้มีการประกาศให้เป็นมรดกโลก. [2] Tikal เป็นเมืองหลวงของรัฐชัยชนะที่กลายเป็นหนึ่งในสหราชอาณาจักรที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของ มายาโบราณ. [3] แม้ว่าอนุสาวรีย์สถาปัตยกรรมที่เว็บไซต์วันที่กลับเท่าที่ศตวรรษที่ 4, Tikal ถึงสุดยอดในช่วงยุคคลาสสิก, แคลิฟอร์เนีย 200-900 AD ในช่วงเวลานี้เมืองที่โดดเด่นมากของภูมิภาคมายาทางการเมืองเศรษฐกิจและทางทหารในขณะที่การมีปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่ตลอดทั้งเมโสเช่นเมืองที่ดีของแคนในที่ห่างไกลหุบเขาเม็กซิโก มีหลักฐานว่า Tikal ก็เอาชนะแคนในศตวรรษที่ 4 เป็น. [4] หลังจากการสิ้นสุดของยุคคลาสสิกในช่วงปลายไม่มีอนุสรณ์สถานที่สำคัญใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นใน Tikal และมีหลักฐานที่แสดงว่ายอดพระราชวังถูกไฟไหม้ เหตุการณ์เหล่านี้ได้รับการควบคู่ไปกับการลดลงของประชากรค่อยๆปิดท้ายด้วยการละทิ้งของเว็บไซต์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 10 Tikal ที่ดีที่สุดคือความเข้าใจใด ๆ ของที่ลุ่มขนาดใหญ่ที่เมืองมายาที่มีรายชื่อผู้ปกครองที่มีความยาวราชวงศ์การค้นพบหลุมฝังศพของ จำนวนมากของผู้ปกครองในรายการนี้และการสอบสวนของอนุเสาวรีย์วัดและพระราชวัง. [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตีกัล ( / Ti ˈ K และ L / ) ( tik'al ในอักขรวิธีมายาสมัยใหม่ ) เป็นหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดเว็บไซต์โบราณคดีและศูนย์กลางเมืองของอารยธรรมก่อน Columbian . ตั้งอยู่ในภูมิภาคทางโบราณคดีของสัตว์เลี้ยงé n อ่างในสิ่งที่ตอนนี้ภาคเหนือของกัวเตมาลา ตั้งอยู่ในแผนกของ El สัตว์เลี้ยงé nเว็บไซต์เป็นส่วนหนึ่งของกัวเตมาลาของ Tikal National Park และในปี 1979 มันถูกประกาศให้เป็นมรดกโลก [ 2 ]

ติคัลเป็นเมืองหลวงของรัฐชนะที่กลายเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของชนเผ่ามายาโบราณ [ 3 ] แม้อนุสาวรีย์สถาปัตยกรรมที่เว็บไซต์วันที่กลับเท่าที่ 4 ศตวรรษก่อนคริสต์ศักราช , Tikal ถึงสุดยอดในช่วงระยะเวลาคลาสสิกประมาณ 200 900 AD ในช่วงเวลานี้เมืองที่โดดเด่นมากของมายาภูมิภาคทางการเมือง , ทางเศรษฐกิจและทางทหารในขณะที่การโต้ตอบกับพื้นที่ตลอดเมโส เช่นมหามหานคร Teotihuac á n ในหุบเขาที่ห่างไกลของเม็กซิโก มีหลักฐานว่า Tikal ถูกพิชิตโดย Teotihuac á n ในศตวรรษที่ 4 . [ 4 ] หลังสิ้นสุดระยะเวลาคลาสสิกสายไม่มีอนุสาวรีย์หลักใหม่ถูกสร้างขึ้นใน Tikal และมีหลักฐานว่าพระราชวังยอดถูกเผา เหตุการณ์เหล่านี้อยู่คู่กับประชากรลดลงทีละน้อย , culminating กับเว็บไซต์ของการละทิ้งโดยจุดสิ้นสุดของศตวรรษที่ 10 .

ติคัลเป็นดีที่สุดเข้าใจใด ๆของใหญ่ที่ลุ่มมายาเมืองที่มีรายชื่อผู้ปกครองของราชวงศ์ที่ยาวนานการค้นพบสุสานของจำนวนมากของผู้ปกครอง ในรายการนี้ และการสอบสวนของอนุสาวรีย์ของ วัด และพระราชวัง [ 5 ]