The same process occurs within the

The same process occurs within the aquatic ecosystem. Phosphorus is not highly soluble, binding tightly to molecules in soil, therefore it mostly reaches waters by traveling with runoff soil particles. Phosphates also enter waterways through fertilizer runoff, sewage seepage, natural mineral deposits, and wastes from other industrial processes. These phosphates tend to settle on ocean floors and lake bottoms. As sediments are stirred up, phosphates may reenter the phosphorus cycle, but they are more commonly made available to aquatic organisms by being exposed through erosion. Water plants take up the waterborne phosphate which then travels up through successive stages of the aquatic food chain.

While obviously beneficial for many biological processes, in surface waters an excessive concentration of phosphorus is considered a pollutant. Phosphate stimulates the growth of plankton and plants, favoring weedy species over others. Excess growth of these plants tend to consume large amounts of dissolved oxygen, potentially suffocating fish and other marine animals, while also blocking available sunlight to bottom dwelling species. This is known as eutrophication.

Humans can alter the phosphorus cycle in many ways, including in the cutting of tropical rain forests and through the use of agricultural fertilizers. Rainforest ecosystems are supported primarily through the recycling of nutrients, with little or no nutrient reserves in their soils. As the forest is cut and/or burned, nutrients originally stored in plants and rocks are quickly washed away by heavy rains, causing the land to become unproductive. Agricultural runoff provides much of the phosphate found in waterways. Crops often cannot absorb all of the fertilizer in the soils, causing excess fertilizer runoff and increasing phosphate levels in rivers and other bodies of water. At one time the use of laundry detergents contributed to significant concentrations of phosphates in rivers, lakes, and streams, but most detergents no longer include phosphorus as an ingredient.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระบวนการเดียวกันที่เกิดขึ้นภายในระบบนิเวศทางน้ำ ฟอสฟอรัสไม่ละลายสูง การผูกแน่นกับโมเลกุลในดิน ดังนั้น มันเป็นส่วนใหญ่ถึงน้ำ โดยเดินทางด้วยอนุภาคดินไหลบ่า ฟอสเฟตยังป้อนการบ้านผ่านปุ๋ยไหลบ่า seepage สิ่งโสโครก ฝากแร่ธรรมชาติ และขยะจากกระบวนการอุตสาหกรรมอื่น ๆ ฟอสเฟตเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะ ชำระในพื้นมหาสมุทรและพื้นห้อง เป็นตะกอนจะสะเทือน ฟอสเฟตอาจใส่วัฏจักรฟอสฟอรัส แต่พวกเขามากกว่าปกติจะมีเพื่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ โดยการสัมผัสผ่านการกัดเซาะ พืชน้ำใช้ค่าฟอสเฟตน้ำการเดินทางแล้วที่ผ่านขั้นตอนต่อ ๆ มาของห่วงโซ่อาหารสัตว์น้ำในขณะที่เห็นได้ชัดเป็นประโยชน์สำหรับกระบวนการทางชีวภาพมาก ในน้ำผิว เข้มข้นฟอสฟอรัสที่มากเกินไปถือเป็นมลพิษ ฟอสเฟตช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแพลงก์ตอนและพืช นความพันธุ์วัชพืชเหนือผู้อื่น ส่วนเกินการเติบโตของพืชเหล่านี้มักจะ ใช้ออกซิเจนละลาย อาจ suffocating ปลาและสัตว์ทะเลอื่น ๆ ในขณะที่ยัง บล็อกแสงแดดใช้กับพันธุ์ที่อยู่อาศัยด้านล่างจำนวนมาก การนี้เรียกว่าเคมนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงวัฏจักรฟอสฟอรัสใน รวมถึงตัด ของป่าฝนเขตร้อน และโดย ใช้ปุ๋ยเกษตร ระบบนิเวศป่าฝนที่ได้รับการสนับสนุนเป็นหลักผ่านการรีไซเคิลของสารอาหาร มีสำรอง หรือไม่มีธาตุอาหารในดินเนื้อปูนของพวกเขา เป็นป่าจะตัด หรือเขียน สารอาหารที่แต่เดิม เก็บไว้ในพืชและก้อนหินเป็นอย่างรวดเร็วน้ำ โดยเกิดฝนตกหนัก สาเหตุของแผ่นดินจะกลายเป็นก่อ ไหลบ่าเกษตรให้มากของฟอสเฟตที่พบในใจกลาง พืชมักจะไม่สามารถดูดซับปุ๋ยในดินเนื้อปูน ทำปุ๋ยส่วนเกินที่ไหลบ่า และเพิ่มระดับฟอสเฟตในแม่น้ำและหน่วยงานอื่น ๆ ของน้ำทั้งหมด ทีใช้ผงซักฟอกซักรีดส่วนสำคัญความเข้มข้นของฟอสเฟต ในแม่น้ำ ทะเลสาบ กระแส แต่ผงซักฟอกส่วนใหญ่ไม่มีฟอสฟอรัสที่เป็นส่วนผสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระบวนการเดียวกันนี้เกิดขึ้นภายในระบบนิเวศทางน้ำ ฟอสฟอรัสจะไม่ละลายมาก ผูกแน่นของดิน ดังนั้น ส่วนใหญ่มันถึงน้ำ โดยเดินทางด้วยอนุภาคดินน้ำท่า ฟอสเฟตยังใส่น้ำผ่านดิน ปุ๋ยขี้รั่ว , เงินฝากแร่ธรรมชาติ และของเสียจากกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมอื่น ๆฟอสเฟตเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะตกลงบนพื้นมหาสมุทรและทะเลสาบเหนือ เป็นตะกอนที่ถูกยุยง , ฟอสเฟตอาจกลับเข้าสู่วัฏจักรฟอสฟอรัส แต่พวกเขามีมากกว่าปกติ ทำให้มีสัตว์น้ำ โดยมีการเปิดเผยผ่านกัดเซาะ ไม้น้ำเอาชุดกีฬาฟอสเฟตซึ่งแล้วเดินทางขึ้นผ่านขั้นตอนต่อเนื่องของห่วงโซ่อาหารของสัตว์น้ำ .

ในขณะที่เห็นได้ชัดว่าประโยชน์ต่อกระบวนการทางชีวภาพมากมาย ในน้ำมีความเข้มข้นของฟอสฟอรัสมากเกินไปผิวจะถือว่าเป็นมลพิษ . ฟอสเฟต ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแพลงก์ตอนพืชและวัชพืชชนิด , นิยมกว่าคนอื่น ๆ การเจริญเติบโตส่วนเกินของพืชเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะใช้จำนวนมากของปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ ปลาและสัตว์ทะเลอื่น ๆที่อาจทำให้หายใจไม่ออก ,ในขณะที่ยังสามารถบล็อกแสงแดดด้านล่างที่อยู่อาศัยชนิด นี้เรียกว่าปรากฏการณ์ยูโทรฟิเคชั่น

มนุษย์สามารถเปลี่ยนแปลงวัฏจักรฟอสฟอรัสในหลายวิธี รวมทั้งในการตัดของป่าฝนเขตร้อนและผ่านการใช้ปุ๋ยการเกษตร ระบบนิเวศป่าฝนที่ได้รับการสนับสนุนเป็นหลักผ่านการรีไซเคิลของสารอาหารที่มีน้อยหรือไม่มีอาหารสำรองในดินของพวกเขาเป็นป่าที่ถูกตัดและ / หรือเผารังเดิมที่เก็บไว้ในพืชและหินจะหายไปอย่างรวดเร็วจากฝนตกหนัก ทำให้ดินเป็น ยอมรับ ไหลบ่าการเกษตรให้มากของฟอสเฟตที่พบในแหล่งน้ำ . พืชมักจะไม่สามารถดูดซับทั้งหมดของปุ๋ยในดินปุ๋ยฟอสเฟตทำให้น้ำท่าส่วนเกิน และเพิ่มระดับในแม่น้ำและหน่วยงานอื่น ๆของน้ำ ในเวลาหนึ่งใช้ซักฟอก ส่วนความเข้มข้นระดับฟอสเฟตในแม่น้ำ ทะเลสาบ และลำธาร แต่ผงซักฟอกส่วนใหญ่ไม่รวม ฟอสฟอรัส เป็นส่วนประกอบ