This experiment was to investigate

This experiment was to investigate the effects of dynamic segmentation of interval nutrient supply
phase feeding on the growth performance, carcass characteristics, immune organs indexes and intestinal
morphology of broilers. A total of 320 one-day-old broilers were randomly assigned into 4
feeding treatments, which included 4 interval nutrient supply phases as follows. Treatment A: a
nutrient supply standard was used for every 14 d. Treatment B: a nutrient supply standard was used for
every 7 d. Treatment C: a nutrient supply standard was used for every 3.5 d except that one nutrient
supply standard was used for d 1 to 7. Treatment D: a nutrient supply standard was used for every 3.5 d
including d 1 to 7. Each treatment was represented by 8 replicates with 10 broilers per replicate. The
trial lasted for 42 days. Throughout the 42 d trial period, treatment A showed significantly higher
average daily gain than treatments B and C (P < 0.05). The feed:gain ratio of treatment A was significantly
lower than those of treatments C and D (P < 0.05). On d 28 and 42, body weight of broilers in
treatment A was much higher than those of treatments B and C (P < 0.05). The slaughter rate of
treatment A was significantly higher than that of treatment B (P < 0.05). Eviscerated percentage of
treatment A was significantly higher than those of treatment B and D (P < 0.05). There were no significant
differences among 4 treatments in immune organs indexes (P > 0.05). The crypt depth of
duodenum was significantly greater in treatments A and B than in treatment C on day 42 (P < 0.05).
Meanwhile, the ratio of villus height to crypt depth (V:C ratio) of treatment D was significantly higher
than that of treatment A (P < 0.05). No significant differences were found between treatments C and D
in growth performance, carcass performance, immune organs indexes and intestinal structure
(P > 0.05). In conclusion, this study revealed that the growth and carcass performance of broilers is the
best for 14 days segmentation phase feeding, and 3.5 days segmentation interval phase feeding can
promote small intestinal development of broilers. Dynamic segmentation of dietary supply fails to
affect the immune function of broilers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทดลองนี้เป็นการศึกษาผลของการแบ่งส่วนแบบไดนามิกของช่วงจัดหาสารอาหารระยะที่ให้อาหารในการเจริญเติบโต ลักษณะซาก ดัชนีอวัยวะภูมิคุ้มกัน และลำไส้สัณฐานวิทยาของไก่เนื้อ จำนวนไก่เนื้ออายุ 1 วัน 320 ถูกกำหนดแบบสุ่มเป็น 4ซึ่งอาหารทรีทเมนท์ รวมขั้นตอนการจัดหาสารอาหารช่วง 4 ดังนี้ ตอบ:การรักษาความใช้มาตรฐานสารอาหารซัพพลายสำหรับทุก 14 d. b:รักษามาตรฐานจัดหาสารอาหารมาใช้ทุก 7 d. c:รักษามาตรฐานจัดหาสารอาหารที่ใช้สำหรับทุก d 3.5 ยกเว้นสารที่หนึ่งมีใช้มาตรฐานซัพพลายสำหรับ d 1 ถึง 7 รักษามาตรฐานการจัดหาสารอาหารที่ใช้สำหรับทุก 3.5 d d:รวมถึง d 1 ถึง 7 รักษาแต่ละถูกแสดง โดยจำลอง 8 กับ 10 ไก่เนื้อต่อ replicate การทดลองนาน 42 วัน ตลอดระยะเวลาทดลองใช้ 42 d รักษา A แสดงให้เห็นนัยสำคัญเฉลี่ยต่อวันกำไรกว่าทรีทเมนต์ B และ C (P < 0.05) อัตราส่วนของการรักษา A ฟีด: กำไรอย่างมีนัยสำคัญต่ำกว่าของ C และ D (P < 0.05) บน d 28 และ 42 น้ำหนักของไก่เนื้อในตัวรักษา A ก็สูงกว่าของ B และ C (P < 0.05) อัตราการฆ่ารักษา A ก็สูงกว่าของรักษา B (P < 0.05) Eviscerated เปอร์เซ็นต์ของรักษา A ได้สูงกว่าการรักษา B และ D (P < 0.05) ก็ไม่สำคัญแตกต่างระหว่างการรักษา 4 ในดัชนีอวัยวะภูมิคุ้มกัน (P > 0.05) ความลึก cryptลำไส้ได้มากในการรักษา A และ B มากกว่าใน C วัน 42 (P < 0.05)ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนของความสูง villus crypt ลึก (อัตรา V:C) การรักษา D มีนัยสำคัญกว่าการรักษา A (P < 0.05) พบความแตกต่างไม่มีนัยสำคัญระหว่างรักษา C และ Dเจริญเติบโต ประสิทธิภาพการทำงานของซาก ดัชนีอวัยวะภูมิคุ้มกัน และโครงสร้างที่ลำไส้(P > 0.05) ในบทสรุป ศึกษานี้เปิดเผยว่า การเติบโตและซากของไก่เนื้อเป็นการดีที่สุดสำหรับ 14 วันแบ่งระยะให้นม และ 3.5 วันแบ่งช่วงระยะให้อาหารสามารถส่งเสริมพัฒนาไก่เนื้อลำไส้เล็ก แบ่งกลุ่มจัดหาอาหารแบบไดนามิกล้มเหลวมีผลต่อการทำงานของภูมิคุ้มกันของไก่เนื้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของการแบ่งส่วนแบบไดนามิกของช่วงเวลาการจัดหาสารอาหาร
ให้อาหารเฟสต่อการเจริญเติบโตและลักษณะซากดัชนีอวัยวะภูมิคุ้มกันและลำไส้
สัณฐานวิทยาของไก่เนื้อ รวมเป็น 320 ไก่เนื้อหนึ่งวันเก่าถูกสุ่มเป็น 4
การรักษาการให้อาหารซึ่งรวมถึง 4 ขั้นตอนการจัดหาสารอาหารในช่วงเวลาดังต่อไปนี้ การรักษา: เป็น
มาตรฐานการจัดหาสารอาหารที่ใช้สำหรับทุกๆ 14 D รักษา B: มาตรฐานการจัดหาสารอาหารที่ใช้สำหรับ
ทุก 7 วัน รักษา C: มาตรฐานการจัดหาสารอาหารที่ใช้สำหรับทุก 3.5 D ยกเว้นว่าหนึ่งในสารอาหาร
มาตรฐานอุปทานที่ใช้สำหรับ D 1 ถึง 7 รักษา D: มาตรฐานการจัดหาสารอาหารที่ใช้สำหรับทุก 3.5 D
รวมทั้ง D 1 ถึง 7 การรักษาแต่ละครั้งเป็นตัวแทน 8 ซ้ำกับ 10 ไก่เนื้อต่อการทำซ้ำ
ทดลองกินเวลานานถึง 42 วัน ตลอดระยะเวลาการทดลอง 42 D, การรักษาที่แสดงให้เห็นอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้น
กำไรเฉลี่ยต่อวันกว่าการรักษา B และ C (P <0.05) ฟีดอัตราส่วนกำไรจากการรักษาอย่างมีนัยสำคัญ
ต่ำกว่าการรักษา C และ D (P <0.05) ต่อ D 28 และ 42, น้ำหนักตัวของไก่เนื้อใน
การรักษาสูงกว่าผู้รักษา B และ C (P <0.05) อัตราการฆ่า
การรักษาสูงกว่าการรักษา B อย่างมีนัยสำคัญ (P <0.05) ร้อยละเว้นแต่ละวันของ
การรักษาสูงกว่าการรักษา B และ D (P <0.05) อย่างมีนัยสำคัญ ไม่มีนัยสำคัญ
ความแตกต่างระหว่างการรักษา 4 ดัชนีอวัยวะภูมิคุ้มกัน (p> 0.05) ความลึกฝังศพใต้ถุนโบสถ์ของ
ลำไส้เล็กส่วนต้นอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในการรักษา A และ B กว่าในการรักษา C ในวันที่ 42 (P <0.05).
ในขณะที่อัตราส่วนของความสูง villus เพื่อฝังศพใต้ถุนโบสถ์ลึก (V: อัตราส่วน C) ของการรักษา D อย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้น
ไปกว่านั้น ของการรักษา (P <0.05) ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการรักษา C และ D
ในการเจริญเติบโตประสิทธิภาพซากดัชนีอวัยวะภูมิคุ้มกันและโครงสร้างลำไส้
(p> 0.05) ผลการศึกษาพบว่าการเจริญเติบโตและซากประสิทธิภาพการทำงานของไก่เนื้อเป็น
ที่ดีที่สุดเป็นเวลา 14 วันการแบ่งส่วนการให้อาหารเฟสและ 3.5 วันแบ่งส่วนการให้อาหารช่วงเฟสสามารถ
ส่งเสริมการพัฒนาลำไส้เล็กของไก่เนื้อ การแบ่งส่วนแบบไดนามิกของอุปทานอาหารล้มเหลวที่จะ
ส่งผลกระทบต่อการทำงานของภูมิคุ้มกันของไก่เนื้อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทดลองนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการจัดหาช่วงแบบไดนามิกของธาตุอาหารขั้นตอนการให้อาหารต่อสมรรถนะการเจริญเติบโตคุณภาพซาก อวัยวะของดัชนีและไส้สัณฐานวิทยาของไก่เนื้อ ทั้งหมด 320 วันนึงเก่าไก่สุ่มแบ่งออกเป็น 4การให้การรักษา ซึ่งประกอบด้วย 4 ช่วงสารอาหารจัดหาขั้นตอนดังนี้ การรักษา :มาตรฐานจัดหาสารอาหารใช้ทุก ๆ 14 . การรักษา B : จัดหาสารอาหารที่ใช้มาตรฐาน7 . รักษา C : จัดหาสารอาหารมาตรฐานถูกใช้ทุก 3.5 D ยกเว้นหนึ่งสารอาหารมาตรฐานให้ใช้ D 1 7 การรักษา D : จัดหาสารอาหารมาตรฐานถูกใช้ทุก 3.5 Dรวมทั้ง D 1 7 การรักษาแต่ละครั้งได้แสดงโดย 8 กับ 10 ตัว ต่อแบบจําลอง ที่ทดลอง เป็นเวลา 42 วัน 42 D ตลอดระยะเวลาทดลองใช้รักษาลดลงเฉลี่ยรายวันได้มากกว่าการรักษา B และ C อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) อาหาร : ได้รับอัตราส่วนการรักษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติต่ำกว่าทรีทเมนต์ C และ D อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) ใน D 28 และ 42 , น้ำหนักตัวของไก่เนื้อในรักษาได้มากขึ้นกว่าการรักษา B และ C อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) ฆ่าอัตรารักษาสูงกว่าการรักษา B ( p < 0.05 ) ร้อยละของการชำแหละรักษาได้สูงขึ้นกว่าการรักษา B และ D อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P < 0.05 ) มีไม่แตกต่างกันความแตกต่างระหว่างการรักษาอวัยวะที่ภูมิคุ้มกัน 4 ดัชนีอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P > 0.05 ) หลุม ความลึกของลำไส้เล็กส่วนต้นอย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในการรักษา A และ B มากกว่า C ในการรักษาในวันที่ 42 ( P < 0.05 )ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนของความสูงของวิลลัสเพื่อความลึกของหลุม ( V : C ratio ) สูงกว่าการรักษาดีมากกว่าการรักษา ( p < 0.05 ) ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการรักษา C และ Dในประสิทธิภาพการเจริญเติบโต , คุณภาพซาก อวัยวะและโครงสร้างของดัชนีในอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( P > 0.05 ) ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการเจริญเติบโตและคุณภาพซากของไก่เนื้อ คือที่ดีที่สุดสำหรับ 14 วัน ) และระยะการแบ่งช่วงระยะการให้ได้ 3.5 วันส่งเสริมการพัฒนาในลำไส้เล็กของไก่เนื้อ แบบไดนามิกของการจัดหาอาหารล้มเหลวส่งผลกระทบต่อภูมิคุ้มกันของไก่เนื้อ