กาลครั้งหนึ่งมีสิงโตตัวหนุ่มตัวหนึ่

กาลครั้งหนึ่งมีสิงโตตัวหนุ่มตัวหนึ่งตกหลุมรักสาวน้อยรูปงามคนหนึ่ง มันจึงเข้าไปพบกับพ่อแม่ของหญิงสาวผู้นั้นและขอให้พ่อแม่ของสาวน้อยยกลูกสาวให้แต่งงานกับมัน

สองสามีภรรยาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่สิงโตตัวนั้นพูด และไม่ปรารถนาที่จะยกลูกสาวของตนให้กับสิงโตตัวนี้ แต่พวกเขาก็เกรงว่าจะทำให้เจ้าป่าอย่างสิงโตโกรธ

ในที่สุด พ่อของหญิงสาวจึงพูดว่า “พวกเรายินดีที่จะยกลูกสาวของเราให้แต่งงานกับท่าน แต่พวกเรากลัวว่าท่านจะทำร้ายเธอ” ฉะนั้นหากท่านยอมตัดกรงเล็บ และถอนฟันของท่านออก พวกเราถึงจะยอมยกลูกสาวของเราให้กับท่าน

สิงโตซึ่งหลงรักสาวน้อยผู้นี้มากจึงยอมตัดกรงเล็บและถอนฟันซี่ใหญ่ของมันออก แล้วกลับมาหาพ่อแม่ของหญิงสาวอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาหัวเราะกับรูปลักษณ์ของสิงโตที่ไม่มีฟันและกรงเล็บ และไล่ตีสิงโตออกจากบ้าน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ความรักทำให้ตาบอด สามารถควบคุมและจัดการกับทุกสิ่งได้”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในที่สุดพ่อของหญิงสาวจึงพูดว่า “พวกเรายินดีที่จะยกลูกสาวของเราให้แต่งงานกับท่าน แต่พวกเรากลัวว่าท่านจะทำร้ายเธอ "ฉะนั้นหากท่านยอมตัดกรงเล็บและถอนฟันของท่านออก พวกเราถึงจะยอมยกลูกสาวของเราให้กับท่าน

สิงโตซึ่งหลงรักสาวน้อยผู้นี้มากจึงยอมตัดกรงเล็บและถอนฟันซี่ใหญ่ของมันออก แล้วกลับมาหาพ่อแม่ของหญิงสาวอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาหัวเราะกับรูปลักษณ์ของสิงโตที่ไม่มีฟันและกรงเล็บ และไล่ตีสิงโตออกจากบ้าน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
"ความรักทำให้ตาบอด สามารถควบคุมและจัดการกับทุกสิ่งได้”

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กาลครั้งหนึ่งมีสิงโตตัวหนุ่มตัวหนึ่งตกหลุมมันจึงเข้าไปพบกับพ่อแม่ของหญิงสาวผู้นั้นแล
สองสามีภรรยาไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่สิงโตตัวน และไม่ปรารถนาที่จะยกลูกสาวของตนให้กับสิงโตแต่พวกเขาก็เกรงว่าจะทำให้เจ้าป่าอย่างสิงโตในที่สุดพ่อของหญิงสาวจึงพูดว่า“พวกเรายินดีที่จะยกลูกสาวของเราให้แต่งงานกแต่พวกเรากลัวว่าท่านจะทำร้ายเธอ"ฉะนั้นหากท่านยอมตัดกรงเล็บและถอนฟันของท่านออก พวกเราถึงจะยอมยกลูกสาวของเราให้กับท่าน

สิงโตซึ่งหลงรักสาวน้อยผู้นี้มากจึงยอมตัดกรแล้วกลับมาหาพ่อแม่ของหญิงสาวอีกครั้งหนึ่งพวกเขาหัวเราะกับรูปลักษณ์ของสิงโตที่ไม่มีฟ และไล่ตีสิงโตออกจากบ้าน

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ตามมาตรฐาน"ความรักทำให้ตาบอดสามารถควบคุมและจัดการกับทุกสิ่งได้"