Active learning is centered on stud

Active learning is centered on students and encourages them to participate in various classroom activities, with the teacher as a facilitator. Students are expected to develop multiple 21st-century skills through an active learning process, including digital and scientific literacies. Numerous studies demonstrate that students lack digital and scientific literacy, necessitating the empowerment and improvement of both skills through active learning based on TPACK (Technological, Pedagogical, and Content Knowledge) (Tütünis et al, 2022). The objective of this study was to investigate the effect of TPACK-based active learning on students' digital literacy and scientific literacy in Genetics. PBL (Problem-based Learning), RQA (Reading, Questioning, and Answering), and a mix of PBL and RQA are all examples of active learning approaches. TPACK-based active learning was used in the Genetics course because students perceive genetics as challenging. A pretest-posttest three-treatment design was adopted, with each learning model being applied to a group of students. This study uses parametric inferential statistical methods, using ANCOVA. Data on students' digital literacy and scientific literacy were obtained using pretest and post-tests. The results indicated no statistically significant difference between the three learning models. The students' digital literacy and scientific literacy both experienced an increase due to implementing the three learning models. The implications of this research are the three active learning models based on TPACK can promote students' digital and scientific literacies. Other educators can adopt the experience of teaching Genetics with PBL, RQA, and PBL-RQA to promote digital literacy and scientific literacy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติมุ่งเน้นไปที่นักเรียนและสนับสนุนให้พวกเขามีส่วนร่วมในกิจกรรมในชั้นเรียนต่างๆ โดยมีครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก นักเรียนได้รับการคาดหวังให้พัฒนาทักษะต่างๆ ในศตวรรษที่ 21 ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติ รวมถึงความรู้ด้านดิจิทัลและวิทยาศาสตร์ การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่านักเรียนขาดความรู้ด้านดิจิทัลและวิทยาศาสตร์ จำเป็นต้องมีการเสริมศักยภาพและการพัฒนาทักษะทั้งสองผ่านการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติโดยอิงจาก TPACK (ความรู้ด้านเทคโนโลยี การสอน และเนื้อหา) (Tütünis et al, 2022) การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบผลของการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติโดยใช้ TPACK ต่อความรู้ด้านดิจิทัลและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในพันธุศาสตร์ของนักเรียน PBL (การเรียนรู้จากปัญหา), RQA (การอ่าน การตั้งคำถาม และการตอบ) และการผสมผสานระหว่าง PBL และ RQA ล้วนเป็นตัวอย่างของแนวทางการเรียนรู้เชิงรุก การเรียนรู้เชิงรุกที่ใช้ TPACK ถูกนำมาใช้ในหลักสูตรพันธุศาสตร์ เนื่องจากนักเรียนรับรู้ว่าพันธุศาสตร์เป็นสิ่งที่ท้าทาย มีการนำการออกแบบการรักษาสามแบบก่อน-หลังการทดสอบมาใช้ โดยแต่ละรูปแบบการเรียนรู้จะถูกนำไปใช้กับกลุ่มนักเรียน การศึกษานี้ใช้วิธีการทางสถิติเชิงอนุมานแบบพาราเมตริก โดยใช้ ANCOVA ข้อมูลเกี่ยวกับความรู้ด้านดิจิทัลและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนได้รับจากการทดสอบก่อนและหลัง ผลลัพธ์บ่งชี้ว่าไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างโมเดลการเรียนรู้ทั้งสามแบบ ความรู้ด้านดิจิทัลและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนทั้งสองมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นเนื่องจากการนำโมเดลการเรียนรู้ทั้งสามไปใช้ ความหมายของการวิจัยนี้คือโมเดลการเรียนรู้เชิงรุกสามโมเดลที่ใช้ TPACK สามารถส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลและวิทยาศาสตร์ของนักเรียน นักการศึกษาคนอื่นๆ สามารถรับประสบการณ์การสอนพันธุศาสตร์ด้วย PBL, RQA และ PBL-RQA เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัลและความรู้ทางวิทยาศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Active Learning มุ่งเน้นให้นักเรียนเป็นศูนย์กลาง ส่งเสริมให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในห้องเรียนต่างๆ โดยมีครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก นักเรียนต้องการพัฒนาทักษะที่หลากหลายของศตวรรษที่ 21 รวมถึงความรู้ด้านดิจิทัลและวิทยาศาสตร์ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่กระตือรือร้น การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่านักเรียนขาดความรู้ด้านดิจิทัลและวิทยาศาสตร์และจำเป็นต้องเพิ่มและพัฒนาทักษะทั้งสองผ่านการเรียนรู้เชิงรุกบนพื้นฐานของ TPACK (Tütünis et al. 2022) วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการตรวจสอบผลกระทบของการเรียนรู้เชิงรุกตาม TPACK ต่อความรู้ทางพันธุกรรมดิจิทัลและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียน การผสมผสานระหว่าง PBL (การเรียนรู้ตามคำถาม) RQA (การอ่านการถามคำถามและการตอบ) และ PBL และ RQA เป็นตัวอย่างของวิธีการเรียนรู้เชิงรุก มีการใช้ Active Learning ตาม TPACK เป็นหลักสูตรพันธุศาสตร์ เพราะนักเรียนมองว่าพันธุศาสตร์เป็นเรื่องที่ท้าทาย สามตัวเลือกการรักษาก่อนและหลังการทดสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเรียนรู้เชิงรุกเน้นนักเรียนและกระตุ้นให้พวกเขามีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆในห้องเรียนและครูเป็นผู้สนับสนุน นักเรียนควรพัฒนาทักษะต่างๆในศตวรรษที่21ผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ใช้งานรวมถึงการรู้หนังสือทางดิจิตอลและวิทยาศาสตร์ การศึกษาจํานวนมากแสดงให้เห็นว่านักเรียนขาดการรู้หนังสือทางดิจิตอลและวิทยาศาสตร์และจําเป็นต้องเพิ่มและปรับปรุงทักษะทั้งสองนี้ผ่านการเรียนรู้ที่ใช้งานอยู่บนพื้นฐานของTPACK (เทคโนโลยีการสอนและความรู้ด้านเนื้อหา) ( Tobiis et al .,2022 ) วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้คือการตรวจสอบผลกระทบของการเรียนรู้ที่ใช้งานอยู่บนพื้นฐานของTPACKต่อความรู้ความเข้าใจทางดิจิตอลของนักเรียนและการรู้หนังสือทางพันธุศาสตร์ PBL (การเรียนรู้ตามปัญหา),RQA (การอ่านคําถามและคําตอบ)และส่วนผสมของPBLและRQAเป็นตัวอย่างของวิธีการเรียนรู้ที่ใช้งานอยู่ การเรียนรู้ที่ใช้งานอยู่บนพื้นฐานของTPACKใช้ในหลักสูตรพันธุศาสตร์เนื่องจากนักเรียนคิดว่าพันธุกรรมเป็นสิ่งที่ท้าทาย ใช้การออกแบบการประมวลผลก่อนการทดสอบหลังการทดสอบแต่ละโหมดการเรียนรู้จะใช้กับกลุ่มนักเรียน การศึกษานี้ใช้วิธีการทางสถิติในการอนุมานพารามิเตอร์โดยใช้ANCOVA ข้อมูลเกี่ยวกับการรู้หนังสือดิจิตอลของนักเรียนและการรู้หนังสือทางวิทยาศาสตร์ได้จากการทดสอบก่อนและหลังการทดสอบ ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติระหว่างโหมดการเรียนรู้ทั้งสาม อันเป็นผลมาจากการใช้โหมดการเรียนรู้3แบบการรู้หนังสือดิจิตอลและการรู้หนังสือทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนดีขึ้น แรงบันดาลใจจากการศึกษานี้คือสามโหมดการเรียนรู้ที่ใช้งานอยู่บนพื้นฐานของTPACKสามารถปรับปรุงความสําเร็จทางดิจิตอลและวิทยาศาสตร์ของนักเรียน นักการศึกษาคนอื่นๆสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ของPBL,RQAและPBL-RQA universityในด้านพันธุศาสตร์เพื่อส่งเสริมการรู้หนังสือดิจิตอลและการรู้หนังสือทางวิทยาศาสตร์