ประวัติของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (History of The Statue of Liberty)
เธอเป็นสัญลักษณ์แห่งเสรีภาพ และยังเป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่มีคนรู้จักมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาด้วย ขอต้อนรับสู่ WatchMojo.com และวันนี้เราจะมาพูดถึงอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (The Statue of Liberty) กันค่ะ
“เรามีผู้พิทักษ์ไว้ซึ่งเปลวไฟแห่งเสรีภาพ ในคืนนี้เราขอเทิดทูนขึ้นไว้ให้โลกได้เห็น เป็นเหมือไฟนำทางแห่งความหวัง และเป็นแสงส่องสว่างให้ประเทศ”
เทพีเสรีภาพซึ่งตั้งอยู่กลางอ่าวนิวยอร์ก ได้แบบมาจากเทพเจ้าแห่งเสรีภาพของชาวโรมัน อนุสาวรีย์นี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Liberty Enlightening the World” และมีพิธีส่งมอบอย่างยิ่งใหญ่เมื่อปี ค.ศ. 1886
นักประติมากรรมชาวฝรั่งเศส เฟรดเดอริก บาร์โธลดิ (Frederic Bartholdi) เป็นผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ เพื่อเป็นของขวัญจากชาวฝรั่งเศสให้สหรัฐอเมริกา อาจารย์ด้านกฎหมายชื่อ เอดูอาร์ด เรอเน เดอ ลาบูเลย์ เป็นผู้ออกความคิดให้ชาวฝรั่งเศสและชาวอเมริกันสร้างอนุสาวรีย์ร่วมกัน
แต่เดิมอนุสาวรีย์นี้มีจุดประสงค์เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวาระประเทศสหรัฐอเมริกาครบรอบหนึ่งร้อยปี และเพื่อเฉลิมฉลองการที่ประเทศฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาต่างก็เป็นประเทศที่มีเสรีภาพและและประชาธิปไตยเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม มีเพียงแค่ส่วนมือและคบเพลิงของเทพีเสรีภาพเท่านั้นที่เสร็จทันปี ค.ศ. 1876 และได้จัดแสดงไว้ในนิทรรศการร้อยปีสหรัฐอเมริกา
“เทพีเสรีภาพ” (Lady Liberty) เป็นอนุสาวรีย์รูปร่างเป็นหญิงสาวสวมเสื้อคลุม มือขวาถือคบเพลิง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนแสงสว่างแห่งเหตุผล ส่วนมือซ้ายถือหนังสือกฎหมายที่มีวันที่การลงนาม คำประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา (The Declaration of Independence) จารึกไว้
เมื่อวัดจากเท้าของรูปปั้นไปจนถึงปลายคบเพลิง เทพีเสรีภาพมีความสูง 151 ฟุต อย่างไรก็ตามหากวัดตั้งแต่ฐานขึ้นไป ความสูงจะเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว ผิวนอกของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพทำมาจากทองแดง โดยมีโครงสร้างรับน้ำหนักเป็นโครงเหล็ก เดิมทีสีด้านนอกก็เป็นสีทองแดง แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ในช่วงปี 1900 ผิวด้านนอกของอนุสาวรีย์ก็เริ่มเปลี่ยนสี สุดท้ายแล้วทางการก็ตัดสินใจคงสีสนิมเขียว (patina) ไว้เช่นนั้น เทพีเสรีภาพจึงมีสีเขียวอ่อนอย่างที่เราเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน
โครงสร้างภายในของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพได้รับการออกแบบโดย อเล็กซานเดอร์ กุสตาฟ ไอเฟล (Alexandre-Gustave Eiffel) ชายคนเดียวกับที่ออกแบบหอไอเฟล (Eiffel Tower) ในฝรั่งเศส ด้วยการร่วมมือกันของแรงงานชาวอเมริกันและชาวฝรั่งเศส ส่วนต่างๆของอนุสาวรีย์นี้จะถูกสร้างขึ้นในประเทศฝรั่งเศส และส่งไปยังสหรัฐอเมริกาทางเรือ
ในช่วงหลายปีก่อนที่อนุสาวรีย์จะถูกสร้างขึ้น มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ว่าศิลปินที่เป็นชาวอเมริกันควรเป็นผู้ออกแบบเทพีเสรีภาพ ประเด็นเรื่องนี้และการที่สหรัฐอเมริกาต้องใช้เวลานานในการระดมทุนเพื่อสร้างฐานของอนุสาวรีย์ ทำให้โครงการสร้างยืดเยื้อออกไปหลายปี อย่างไรก็ตาม ในที่สุดฝรั่งเศสก็ได้นำเสนอเทพีเสรีภาพในปี ค.ศ. 1884 ถูกส่งลงเรือมายังสหรัฐฯในปีถัดมา และได้เปิดตัวต่อสาธารณชนในที่สุด เมื่อปี ค.ศ. 1886
ประชาชนที่อพยพย้ายถิ่นฐานมาสู่สหรัฐอเมริกาทางเรือมากมายหลายคนในสมัยนั้น จะได้รับการต้อนรับจากเทพีเสรีภาพเมื่อเดินทางมาถึง นี่ทำให้อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา บทกลอนที่อยู่บริเวณฐานของอนุสาวรีย์ สลักข้อความอันโด่งดังไว้ว่า “นำความเหน็ดเหนื่อย ความยากจน ความแออัดท่ามกลางฝูงชนจนอยากสูดดมอิสรภาพของท่าน มาให้ฉัน” (Give me your tired, your poor, your huddled masses yearning to breathe free) เพื่อคอยต้อนรับผู้อพยพสู่โลกใหม่
เดิมทีนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปถึงส่วนมงกุฎของเทพีเสรีภาพเพื่อชมวิวของอ่าวที่อยู่ด้านล่างได้ และสามารถปีนผ่านช่องแคบๆเพื่อขึ้นไปยังส่วนคบเพลิงได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามส่วนคบเพลิงปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชมมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ได้มีการบูรณะอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพครั้งใหญ่ เพื่อเตรียมเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีเมื่อปี ค.ศ. 1986 โครงเหล็กทั้งหมดของเทพีเสรีภาพได้ถูกเปลี่ยนใหม่ ทำให้อนุสาวรีย์แข็งแรงขึ้น นอกจากนี้แผ่นผิวนอกบางชิ้นก็ถูกเปลี่ยนใหม่ด้วย
หลังเหตุการณ์การโจมตีนครนิวยอร์กของกลุ่มผู้ก่อการร้ายในปี 2001 อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพและเกาะลิเบอร์ตี้ได้ถูกปิด เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย หลังจากนั้นทางการได้ทยอยเปิดเกาะลิเบอร์ตี้ ส่วนฐานของอนุสาวรีย์ และสุดท้ายก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในส่วนเทพีเสรีภาพได้ในปี 2009
เนื่องจากเทพีเสรีภาพถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของสหรัฐอเมริกา เธอจึงถูกนำเสนอในสื่อสมัยใหม่และของที่ระลึกมากมาย เทพีเสรีภาพไม่ได้แสดงถึงการคุกคาม และไม่ได้เป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจ คนส่วนใหญ่มองว่าเทพีเสรีภาพเป็นดวงประทีปแห่งความหวัง
เทพีเสรีภาพได้อยู่เป็นประจักษ์พยานประวัติศาสตร์มานานกว่าหนึ่งศตวรรษ และได้กลายมาเป็นตัวแทนของอุดมการณ์การเทิดทูนเสรีภาพของสหรัฐอเมริกา