6. Findings6.1 Gender differences i

6. Findings

6.1 Gender differences in attitudes toward teamwork

Table II [Figure omitted. See Article Image.] t -test, performed for the study population, indicates participants' agreement with most of the statements. Team members often face problems that affect collaboration and team function, with most participants agreeing that the goals of the team are not clearly defined. There is a lack of equality among team members in the decision-making process. Moreover, participants expressed their neutral feelings about shared values and common goals of the team. However, they report that they are more or less satisfied with their jobs in the mental health hospital. We found significant gender differences through analysis of t-tests for attitudes toward communication and decision making. Females (mean = 3, SD = 1.33) agreed that there were often changes in their duties while males (mean = 3.48, SD = 1.121) were more likely to disagree ( t = 2.096, p = 0, 04). Females (mean = 2.98 SD = 1.013) also demonstrated a significantly higher discrepancy to the statement that team meetings lack structure and team members were not punctual, compared to males (mean = 3.41, SD = 0.988, t = 2.184, p = 0.031). In terms of decision making, females (mean = 2.57, SD = 1.003) reported feeling more free than males (mean = 3.03, SD = 1.000) to express problems they face as part of the team (t = 2.340, p = 0.021). No significant differences were found in the other items.

Analysis of individual items for the subgroup of doctors indicated that female doctors (mean = 1.71, SD = 0.756) were more likely to agree strongly that there is equality in participation of all team members in the decision-making process while male doctors (mean = 2.64, SD = 0.809) expressed their neutral feelings ( t = 2.415, p = 0.28). There was also a significant gender difference in attitudes toward team culture with results demonstrating significant effects on one of the two items. Specifically, female doctors (mean = 1.71, SD = 0.756) agreed more strongly that there is mutual trust and respect among team members than did male doctors (mean = 2.45, SD = 0.522, t = 2.468, p = 0.02). No significant effects were found for the other items, indicating that doctors perceive teamwork in similar ways. However, mean scores (Table II [Figure omitted. See Article Image.]) show that females have more positive feelings than males about teamwork.

T -tests calculated for male and female nurses showed significant differences in several items on the roles and goals of the team, decision making and job satisfaction. Female nurses (mean = 2.80, SD = 1.335) were more likely to disagree with the statement that their colleagues were not aware of the contribution and practices of the nursing profession than were male nurses (mean = 2.26, SD = 0.872, t = 2.081, p = 0.04). Females (mean = 2.97, SD = 1.103) were more likely to agree that team meetings lacked structure and punctuality than were males (mean = 3.58, SD = 0.838, t = 2.607, p = 0.01). Females (mean = 2.59, SD = 1.014) had more positive attitudes about expressing problems in the team, with males nurses (mean = 3.53, SD = 0.905) disagreeing (t = 3.663, p = 0). There were significant gender differences in nurses' attitudes toward job satisfaction. In particular, females (mean = 2.59, SD = 1.014) showed the strongest agreement regarding recognition by the team leader compared to males (mean = 3.42, SD = 1.121, t = 2,775, p = 0.01). Female nurses reported being more satisfied with their jobs (mean = 2.44, SD = 1.030) than male nurses (mean = 3.37, SD = 1.212), who were more likely to disagree (t = 3.342, p = 0.01).

6.2 Predictors of job satisfaction

The stepwise modeling for job satisfaction yields a clear result, shown in Table III [Figure omitted. See Article Image.]. Taking job satisfaction as dependant variable we performed stepwise regression analysis to elicit significantly associated variables concerning gender in the medical and nursing profession. No statistically significant results were found on the medical profession. Some variables appeared to be strong predictors but these results were not supported graphically, indicating the need for larger samples before drawing conclusions. The regression analysis revealed that gender and decision making are the main predictors for job satisfaction score. Male nurse reported lower job satisfaction associated with lower participation in decision-making process.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

6. พบ6.1 เพศความแตกต่างของทัศนคติต่อการทำงานเป็นทีมตาราง II [รูปละกัน ดูรูปภาพบทความ] t-ทดสอบ ดำเนินการสำหรับประชากรศึกษา บ่งชี้ว่า ข้อตกลงของผู้เข้าร่วม ด้วยส่วนใหญ่ของงบ สมาชิกในทีมมักจะเผชิญกับปัญหาที่มีผลต่อฟังก์ชันการทำงานร่วมกันและทีมงาน กับผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เห็นว่า เป้าหมายของทีมอย่างชัดเจนไว้ มีการขาดของความเท่าเทียมกันระหว่างสมาชิกในทีมในกระบวนการตัดสินใจ นอกจากนี้ ร่วมแสดงความรู้สึกความเป็นกลางเกี่ยวกับค่าร่วมและเป้าหมายร่วมกันของทีม อย่างไรก็ตาม พวกเขารายงานว่า พวกเขามีมากน้อยพอใจกับงานในโรงพยาบาลสุขภาพจิต เราพบความแตกต่างเพศสำคัญผ่านการวิเคราะห์ t-ทดสอบทัศนคติต่อการสื่อสารและการตัดสินใจ หญิง (หมายถึง = 3, SD = 1.33) ตกลงว่า มีมักจะเปลี่ยนแปลงในหน้าที่ของตนในขณะที่เพศชาย (หมายถึง = 3.48, SD = 1.121) มีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วย (t = 2.096, p = 0, 04) หญิง (หมายถึง = 2.98 SD = 1.013) ยัง แสดงให้เห็นว่าความขัดแย้งอย่างมีนัยสำคัญจะรายงานที่ประชุมทีมขาดโครงสร้าง และสมาชิกในทีมไม่ช้า เมื่อเทียบกับเพศชาย (หมายถึง = 3.41, SD = 0.988, t = 2.184, p = 0.031) ในแง่ของการตัดสินใจ หญิง (หมายถึง = 2.57, SD = 1.003) รายงานความรู้สึกอิสระมากขึ้นกว่าเพศชาย (หมายถึง = 3.03, SD = 1.000) เพื่อแสดงปัญหาที่พวกเขาเผชิญกับเป็นส่วนหนึ่งของทีม (t = 2.340, p = 0.021) ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญไม่พบในรายการอื่น ๆวิเคราะห์สินค้าแต่ละรายการในกลุ่มย่อยของแพทย์ระบุว่า หญิงแพทย์ (หมายถึง = 1.71, SD = 0.756) มีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า มีความเสมอภาคในการมีส่วนร่วมของสมาชิกในทีมทั้งหมดในกระบวนการตัดสินใจในขณะที่แพทย์ชาย (หมายถึง = 2.64, SD = 0.809) แสดงความรู้สึกความเป็นกลาง (t = 2.415, p = 0.28) นอกจากนี้ยังมีต่างเพศสำคัญเจตคติวัฒนธรรมทีมด้วยผลลัพธ์ที่เห็นผลอย่างมีนัยสำคัญของการ โดยเฉพาะ หญิงแพทย์ (หมายถึง = 1.71, SD = 0.756) ตกลงอย่างรุนแรงว่ามีความน่าเชื่อถือซึ่งกันและกันและเคารพในหมู่สมาชิกมากกว่าแพทย์ชายไม่ได้ (หมายถึง = 2.45, SD = 0.522, t = 2.468, p = 0.02) พบไม่มีผลสำคัญสำหรับสินค้าอื่น แสดงว่า แพทย์สังเกตทีมคล้าย อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยคะแนน (ตาราง II [รูปละกัน ดูบทความภาพ]) แสดงว่า ฉันมีความรู้สึกบวกขึ้นกว่าชายเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีมT-ทดสอบที่คำนวณได้สำหรับชาย และหญิงพยาบาลแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในหลายรายการบทบาทและเป้าหมายของทีม การตัดสินใจ และความพึงพอใจในงาน พยาบาลหญิง (หมายถึง = 2.80, SD = 1.335) มีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วยกับคำสั่งที่ไม่ทราบสัดส่วนการปฏิบัติของวิชาชีพพยาบาลกว่าถูกพยาบาลชายเพื่อนร่วม (หมายถึง = 2.26, SD = 0.872, t = 2.081, p = 0.04) หญิง (หมายถึง = 2.97, SD = 1.103) มีแนวโน้มที่จะยอมรับว่า ทีมประชุมขาดโครงสร้างและ punctuality กว่าถูกชาย (หมายถึง = 3.58, SD = 0.838, t = 2.607, p = 0.01) การ หญิง (หมายถึง = 2.59, SD = 1.014) มีทัศนคติในเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแสดงปัญหาในทีม มีพยาบาลชาย (หมายถึง = 3.53, SD = 0.905) disagreeing (t = 3.663, p = 0) มีความแตกต่างของเพศอย่างมีนัยสำคัญในเจตคติความพึงพอใจในงานของพยาบาล ในเฉพาะ หญิง (หมายถึง = 2.59, SD = 1.014) แสดงให้เห็นว่ารัดกุมที่สุดข้อตกลงเกี่ยวกับการรับรู้ โดยเปรียบเทียบกับชายผู้นำทีม (หมายถึง = 3.42, SD = 1.121, t = 2,775, p = 0.01) หญิงพยาบาลรายงานเป็นที่พึงพอใจมากกับงานของพวกเขา (หมายถึง = 2.44, SD = 1.030) กว่าพยาบาลชาย (หมายถึง = 3.37, SD = 1.212), ที่มีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วย (t = 3.342, p = 0.01)6.2 predictors ของงานความพึงพอใจโมเดล stepwise สำหรับงานความพึงพอใจก่อให้เกิดผลชัดเจน แสดงในตาราง III [รูปละกัน ดูรูปภาพบทความ] มีความพึงพอใจในงานเป็นตัวแปรขึ้นอยู่ที่เราทำการวิเคราะห์การถดถอย stepwise เพื่อให้ได้รับอย่างมีนัยสำคัญเชื่อมโยงตัวแปรเกี่ยวกับเพศในการแพทย์ และพยาบาลวิชาชีพ พบผลลัพธ์ไม่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในการแพทย์ บางตัวแปรปรากฏ ว่าแข็งแกร่ง predictors แต่ผลลัพธ์เหล่านี้ไม่สนับสนุนภาพ ระบุต้องการตัวอย่างขนาดใหญ่ก่อนวาดบทสรุป การวิเคราะห์ถดถอยเปิดเผยเพศและตัดสินใจ predictors หลักสำหรับงานคะแนนความพึงพอใจ พยาบาลชายรายงานพึงพอใจต่ำกว่างานเกี่ยวข้องกับด้านล่างมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

6 . ค่า

6.1 ความแตกต่างในทัศนคติในการทำงานเป็นทีม

[ รูปตาราง 2 ละเว้นได้ ดูภาพบทความ ] ทดสอบการปฏิบัติสำหรับประชากรที่ศึกษา พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมมีข้อตกลงกับที่สุดของข้อความ สมาชิกของทีมมักจะเผชิญปัญหาที่มีผลต่อความร่วมมือการทำงานและทีมงาน กับผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ยอมรับว่า เป้าหมายของทีมท้องถิ่นมีการขาดของความเสมอภาคในหมู่สมาชิกของทีมในกระบวนการการตัดสินใจ นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมแสดงตนเป็นกลาง ความรู้สึกเกี่ยวกับค่าที่ใช้ร่วมกันและเป้าหมายร่วมกันของทีม อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าพวกเขาจะมากหรือน้อย พอใจกับงานของพวกเขาในโรงพยาบาลสุขภาพจิตเราพบความแตกต่างระหว่างเพศอย่างมีนัยสำคัญโดยการวิเคราะห์แบบ สำหรับทัศนคติที่มีต่อการสื่อสาร และการตัดสินใจ เพศหญิง ( ค่าเฉลี่ย = 3 , SD = 1.33 ) เห็นพ้องกันว่ามีการเปลี่ยนแปลงในหน้าที่บ่อยๆ ขณะที่ผู้ชาย ( ค่าเฉลี่ย = 3.48 , SD = 1 , 095 ) มีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วย ( t = 2.096 , p = 0 , 4 ) เพศหญิง ( ค่าเฉลี่ย = 2.98 SD = 1013 ) ยังแสดงให้เห็นความขัดแย้งที่สูงกว่างบที่สมาชิกทีมขาดประชุมโครงสร้างและทีมงานไม่ตรงเวลามากกว่าเพศชาย ( ค่าเฉลี่ย = 3.41 , SD = 0.988 ดังนั้น t = 378 , P = 0.031 ) ในแง่ของการตัดสินใจหญิง ( ค่าเฉลี่ย = 2.57 , SD = 1.003 ) รายงานความรู้สึกอิสระมากกว่าเพศชาย ( ค่าเฉลี่ย = 3.03 , SD = 1.000 ) เพื่อแสดงปัญหาที่พวกเขาเผชิญเป็นส่วนหนึ่งของทีม ( t = 2340 , p = 0.021 ) ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในรายการอื่น ๆ .

การวิเคราะห์ของแต่ละรายการย่อยของแพทย์ พบว่า หมอผู้หญิง ( ค่าเฉลี่ย = 1.71 , SD = 0.756 ) มีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยอย่างยิ่งว่า มีความเท่าเทียมกันในการมีส่วนร่วมของสมาชิกทั้งหมดของทีมในกระบวนการการตัดสินใจ ในขณะที่แพทย์ชาย ( ค่าเฉลี่ย = 2.64 , SD = 0809 ) แสดงความรู้สึกของตนเป็นกลาง ( t = 2.862 , p = 0.28 ) นอกจากนี้ ยังพบเพศในทัศนคติต่อวัฒนธรรมทีมกับผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กับหนึ่งใน 2 รายการ โดย แพทย์หญิง ( ค่าเฉลี่ย = 1.71 , SD = 0.756 ) ตกลงมากขึ้นอย่างยิ่งว่ามีความไว้วางใจซึ่งกันและกันและการเคารพในหมู่สมาชิกของทีมมากกว่าแพทย์ชาย ( ค่าเฉลี่ย = 2.49 , SD = 0.522 ,T = 2.468 , p = 0.02 ) พบว่าไม่มีผลสำหรับรายการอื่น ๆแสดงให้เห็นว่าแพทย์รับรู้การทำงานเป็นทีมในลักษณะที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ย ( ตารางที่ 2 [ รูปละเว้นได้ ดูภาพบทความ ] ) แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงมีความรู้สึกที่เป็นบวกมากกว่าผู้ชาย

เกี่ยวกับการทํางานเป็นทีมการทดสอบค่าทีสำหรับชายและหญิงพยาบาล พบความแตกต่างหลายรายการในบทบาทและเป้าหมายของทีม ตัดสินใจ และความพึงพอใจในงาน พยาบาลหญิง ( ค่าเฉลี่ย = 2.80 , SD = 1.335 ) มีแนวโน้มที่จะเห็นด้วยกับแถลงการณ์ที่เพื่อนร่วมงานของพวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงประโยชน์และการปฏิบัติของวิชาชีพการพยาบาล มากกว่าเป็นผู้พยาบาล ( ค่าเฉลี่ย = 2.49 , SD = 0872 , t = 2.081 , p = 0.04 ) เพศหญิง ( ค่าเฉลี่ย = 2.97 , SD = 1.103 ) มีแนวโน้มที่จะยอมรับว่า การประชุมทีมขาดโครงสร้าง และการตรงต่อเวลากว่าเพศชาย ( ค่าเฉลี่ย = 3.58 , SD = 0.838 , t = 1.146 , p = 0.01 ) เพศหญิง ( ค่าเฉลี่ย = 2.59 , SD = 1.014 ) มีทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการแสดงปัญหาในทีม กับผู้ชายพยาบาล ( ค่าเฉลี่ย = 3.53 , SD = 0.905 ) ไม่เห็นด้วย ( t = 3.663 , p = 0 )มีความสัมพันธ์ทางเพศ ความแตกต่างของพยาบาล ทัศนคติความพึงพอใจ โดยเฉพาะผู้หญิง ( ค่าเฉลี่ย = 2.59 , SD = 1.014 ) พบข้อตกลงที่เกี่ยวกับการรับรู้โดยหัวหน้าทีมมากกว่าเพศชาย ( ค่าเฉลี่ย = 3.42 , SD = 1 , 095 , t = บางแห่ง , p = 0.01 ) พยาบาลหญิงรายงานการพอใจกับงานของตนเอง ( ค่าเฉลี่ย = 2.44 , SD = 1.030 ) มากกว่าเพศชาย ( ค่าเฉลี่ย = 3.37 , พยาบาลSD = 1.212 ) ซึ่งมีแนวโน้มที่จะไม่เห็นด้วย ( t = 3.342 , p = 0.01 )

6.2 ทำนายความพึงพอใจในงาน

แบบ Stepwise เพื่อความพึงพอใจผลผลิตผลที่ชัดเจน แสดงในตารางที่ 3 [ รูปละเว้นได้ ดูภาพบทความ ]การเปรียบเทียบความพึงพอใจในงานพึ่งพาเราแสดงการวิเคราะห์ Stepwise Regression เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ของตัวแปรด้าน เพศ ในการแพทย์และการพยาบาล ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติพบว่าในวิชาชีพแพทย์ ตัวแปรบางอย่างที่ดูเหมือนจะเข้มแข็ง แต่ทำนายผลนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนกราฟิก ,ระบุต้องการตัวอย่างขนาดใหญ่ก่อนที่จะวาดข้อสรุป การวิเคราะห์การถดถอยพบว่าเพศและการตัดสินใจเป็นปัจจัยหลักของคะแนนความพึงพอใจในงาน บุรุษพยาบาลรายงานลดความพึงพอใจในงานที่เกี่ยวข้องกับการลดลงในกระบวนการการตัดสินใจ