In 1957 the American J.J. Burns sho

In 1957 the American J.J. Burns showed that the reason some mammals were susceptible to scurvy was the inability of their liver to produce the active enzyme L-gulonolactone oxidase, which is the last of the chain of four enzymes which synthesize vitamin C. American biochemist Irwin Stone was the first to exploit vitamin C for its food preservative properties. He later developed the theory that humans possess a mutated form of the L-gulonolactone oxidase coding gene.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทั้ง ไหม้ j.j. ในอเมริกันพบว่า เหตุผลที่เลี้ยงลูกด้วยนมบางมีความไวต่อการโรคลักปิดลักเปิดคือ ไม่ตับการผลิต oxidase ใช้เอนไซม์ L gulonolactone ซึ่งเป็นสุดท้ายของลูกโซ่ของเอนไซม์สี่ซึ่งสังเคราะห์วิตามิน C. อเมริกัน biochemist เชอร์หิน คนแรกใช้วิตามินซีในอาหารคุณสมบัติ preservative เขาได้พัฒนาทฤษฎีที่ว่า มนุษย์มี oxidase L-gulonolactone รหัสยีนรูปแบบกลายในภายหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1957 ชาวอเมริกันเจเจเบิร์นส์แสดงให้เห็นว่าเหตุผลบางอย่างที่เลี้ยงลูกด้วยนมมีความเสี่ยงที่จะเป็นเลือดออกตามไรฟันไม่สามารถของตับในการผลิตเอนไซม์ที่ใช้งานเดส L-gulonolactone ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของห่วงโซ่ของสี่เอนไซม์ที่สังเคราะห์วิตามินซีเออร์วินชีวเคมีชาวอเมริกัน หินเป็นครั้งแรกที่จะใช้ประโยชน์จากวิตามินซีสำหรับคุณสมบัติของสารกันบูดอาหาร หลังจากนั้นเขาก็พัฒนาทฤษฎีที่ว่ามนุษย์มีรูปแบบการกลายพันธุ์ของเอนไซม์ L-gulonolactone เข้ารหัสยีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1957 ส เจเจ ชาวอเมริกันพบว่า เหตุผลที่บางคนมีความไวต่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เลือดออกตามไรฟัน คือการไร้ความสามารถของตับเพื่อผลิตเอนไซม์ที่ใช้งาน l-gulonolactone oxidase ซึ่งเป็นสุดท้ายของห่วงโซ่ของเอนไซม์ที่สังเคราะห์วิตามิน C 4 นักชีวเคมีชาวอเมริกัน เออร์วิน หินเป็นครั้งแรกเพื่อใช้ประโยชน์จากวิตามินของอาหารสารกันบูด คุณสมบัติหลังจากนั้นเขาได้พัฒนาทฤษฎีว่ามนุษย์มีรูปแบบของยีนที่กลายพันธุ์ l-gulonolactone โดยการเข้ารหัส