Gates was born in Seattle, Washingt

Gates was born in Seattle, Washington on October 28, 1955. He is the son of William H. Gates, Sr.[b] and Mary Maxwell Gates. Gates' ancestral origin includes English, German, and Irish, Scots-Irish.[14][15] His father was a prominent lawyer, and his mother served on the board of directors for First Interstate BancSystem and the United Way. Gates's maternal grandfather was JW Maxwell, a national bank president. Gates has one elder sister, Kristi (Kristianne), and one younger sister, Libby. He was the fourth of his name in his family, but was known as William Gates III or "Trey" because his father had the "II" suffix.[16] Early on in his life, Gates's parents had a law career in mind for him.[17] When Gates was young, his family regularly attended a Protestant Congregational church.[18][19][20] The family encouraged competition; one visitor reported that "it didn't matter whether it was hearts or pickleball or swimming to the dock ... there was always a reward for winning and there was always a penalty for losing".[21]

At 13, he enrolled in the Lakeside School, a private preparatory school.[22] When he was in the eighth grade, the Mothers Club at the school used proceeds from Lakeside School's rummage sale to buy a Teletype Model 33 ASR terminal and a block of computer time on a General Electric (GE) computer for the school's students.[23] Gates took an interest in programming the GE system in BASIC, and was excused from math classes to pursue his interest. He wrote his first computer program on this machine: an implementation of tic-tac-toe that allowed users to play games against the computer. Gates was fascinated by the machine and how it would always execute software code perfectly. When he reflected back on that moment, he said, "There was just something neat about the machine."[24] After the Mothers Club donation was exhausted, he and other students sought time on systems including DEC PDP minicomputers. One of these systems was a PDP-10 belonging to Computer Center Corporation (CCC), which banned four Lakeside students – Gates, Paul Allen, Ric Weiland, and Kent Evans – for the summer after it caught them exploiting bugs in the operating system to obtain free computer time.[25][26]

At the end of the ban, the four students offered to find bugs in CCC's software in exchange for computer time. Rather than use the system via Teletype, Gates went to CCC's offices and studied source code for various programs that ran on the system, including programs in Fortran, Lisp, and machine language. The arrangement with CCC continued until 1970, when the company went out of business. The following year, Information Sciences, Inc. hired the four Lakeside students to write a payroll program in Cobol, providing them computer time and royalties. After his administrators became aware of his programming abilities, Gates wrote the school's computer program to schedule students in classes. He modified the code so that he was placed in classes with "a disproportionate number of interesting girls."[27] He later stated that "it was hard to tear myself away from a machine at which I could so unambiguously demonstrate success."[24] At age 17, Gates formed a venture with Allen, called Traf-O-Data, to make traffic counters based on the Intel 8008 processor.[28] In early 1973, Bill Gates served as a congressional page in the U.S. House of Representatives.[29]

Gates graduated from Lakeside School in 1973, and was a National Merit Scholar.[30] He scored 1590 out of 1600 on the SAT[31] and enrolled at Harvard College in the autumn of 1973.[32] While at Harvard, he met Steve Ballmer, who would later succeed Gates as CEO of Microsoft.[33]
The Poker Room in Currier House at Harvard College, where Gates and Allen founded Microsoft

In his sophomore year, Gates devised an algorithm for pancake sorting as a solution to one of a series of unsolved problems[34] presented in a combinatorics class by Harry Lewis, one of his professors. Gates's solution held the record as the fastest version for over thirty years;[34][35] its successor is faster by only one percent.[34] His solution was later formalized in a published paper in collaboration with Harvard computer scientist Christos Papadimitriou.[36]

Gates did not have a definite study plan while a student at Harvard[37] and spent a lot of time using the school's computers. Gates remained in contact with Paul Allen, and he joined him at Honeywell during the summer of 1974.[38] The following year saw the release of the MITS Altair 8800 based on the Intel 8080 CPU, and Gates and Allen saw this as the opportunity to start their own computer software company.[39] Gates dropped out of Harvard at this time. He had talked this decision over with his parents, who were supportive of him after seeing how much Gates wanted to start a company.[37]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประตูเกิดในซีแอตเทิล วอชิงตันบน 28 ตุลาคม 1955 เขาเป็นบุตรของ William H. ประตู Sr. [b] และประตูแมกซ์เวลล์มารีย์ เกตส์โบราณกำเนิดรวมถึงอังกฤษ เยอรมัน และ ไอริช สก็อตไอริช [14] [15] บิดาคือ ทนายความโดดเด่น และแม่ของเขาทำหน้าที่ในคณะกรรมการสำหรับ BancSystem แรกอินเตอร์สเตตและวิธีสห ประตูของก๋งโรงแรมเจดับบลิวแมกซ์เวลล์ ประธานธนาคารแห่งชาติ ประตูมีพี่หนึ่ง Kristi (Kristianne), และน้องหนึ่ง รับ เขาถูกสี่ชื่อของเขาในครอบครัวของเขา แต่ถูกเรียกว่า William III ประตูหรือ "trey อยู่" เนื่องจากพ่อของเขามีส่วนต่อท้าย "II" [16] ตั้งแต่ในในชีวิต ประตูของพ่อแม่มีอาชีพกฎหมายในใจเขา [17] เมื่อประตูสาว ครอบครัวร่วม Protestant Congregational คริสตจักรอย่างสม่ำเสมอ [18] [19] [20] การแข่งขันสนับสนุนครอบครัว ผู้เข้าชมหนึ่งรายงานว่า "มันไม่สำคัญว่าหัวใจหรือ pickleball หรือว่ายน้ำไปท่าเรือ...จะมีรางวัลสำหรับชนะ และเสมอมีโทษสำหรับแพ้" [21]ที่ 13 เขาลงทะเบียนเรียนเลคไซด์ โรงเรียนเตรียมส่วนตัว [22] เมื่อเขาอยู่ในเกรดแปด คลับแม่ที่โรงเรียนใช้ดำเนินจากโรงเรียนเลคไซด์ rummage ขายซื้อเทอร์มินัล Teletype รุ่น 33 ASR และบล็อกเวลาคอมพิวเตอร์เครื่องไฟฟ้าทั่วไป (GE) สำหรับนักเรียนของโรงเรียน [23] ประตูเอาความสนใจในการเขียนโปรแกรมระบบ GE ใน BASIC และรับสอนคณิตศาสตร์ไล่ความสนใจ เขาเขียนโปรแกรมแรกของเขาบนเครื่องนี้: การดำเนินงานของโอเอกซ์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมกับคอมพิวเตอร์ ประตูที่หลงใหลเครื่องและวิธีมันจะเสมอดำเนินการรหัสซอฟต์แวร์อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อเขาสะท้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น เขากล่าวว่า "มีเพียงบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับเครื่อง" [24] หลังจากถูกหมดบริจาคแม่คลับ เขาและนักศึกษาอื่น ๆ ขอเวลาในระบบรวมทั้งร่วมประชุม PDP ธันวาคม minicomputers ระบบเหล่านี้มีการร่วมประชุม PDP-10 อยู่กับคอมพิวเตอร์ศูนย์คอร์ปอเรชั่น (ซีซีซี), ซึ่งห้ามนักเรียนเลคไซด์สี่ประตู อัลเลน Paul, Ric Weiland และอี วานส์ Kent – สำหรับฤดูร้อนหลังจากนั้นจับบัก exploiting พวกเขาในระบบปฏิบัติการเพื่อขอรับเวลาคอมพิวเตอร์ฟรี [25] [26]ท้ายบ้าน นักเรียนสี่นำเสนอเพื่อหาข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ของซีซีซีเพื่อแลกกับเวลาของคอมพิวเตอร์ แทนที่ใช้ระบบผ่าน Teletype ประตูไปที่สำนักงานของซีซีซี และรหัสแหล่งที่มาสำหรับโปรแกรมต่าง ๆ ที่รันบนระบบ รวมถึงโปรแกรมภาษาฟอร์แทรน ภาษาลิสป์ ภาษาเครื่อง และ ศึกษา จัดการกับซีซีซีอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 1970 เมื่อบริษัทออกจากธุรกิจ ปีต่อมา ข้อมูลวิทยาศาสตร์ Inc. จ้างนักเรียนเลคไซด์สี่เขียนโปรแกรมค่าจ้างในภาษาโคบอล ให้พวกเขาเวลาคอมพิวเตอร์และค่าภาคหลวง หลังจากที่ผู้ดูแลของเขาเริ่มตระหนักถึงความสามารถในการเขียนโปรแกรมของเขา ประตูเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนเพื่อกำหนดเวลาเรียนในชั้นเรียน เขาปรับเปลี่ยนรหัสที่เขาถูกวางในชั้นเรียน ด้วย "การนำหมายเลขของผู้หญิงที่น่าสนใจ" [27] เขาในภายหลังระบุว่า "มันยากที่จะฉีกตัวเองจากเครื่องที่ผมสามารถอย่างชัดเจนเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จ" [24] ประตูก่อตั้งบริษัทร่วมทุนกับอัลเลน เรียก Traf-O-ข้อมูล ทำเคาน์เตอร์จราจรตามตัวประมวลผล Intel 8008 ที่อายุ 17 [28] ในช่วง 1973 บิลเกตส์ทำหน้าที่เป็นหน้าตั้งในสหรัฐฯ ราษฎร [29]ประตูจบศึกษาจากโรงเรียนเลคไซด์ใน 1973 และ นักวิชาการเป็น บุญ แห่งชาตินั้น [30] เขาคะแนน 1590 จาก 1600 ในเสาร์ [31] และเข้าเรียนที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ดในฤดูใบไม้ร่วงของ 1973 [32] ในขณะที่ฮาร์วาร์ด เขาพบ Steve Ballmer ที่จะในภายหลังประสบความสำเร็จประตูเป็น CEO ของ Microsoft [33]ห้องโป๊กเกอร์ในบ้านรับส่งพัสดุที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่ประตูและอัลเลนก่อตั้ง Microsoftในปีของเขา sophomore ประตูคิดค้นอัลกอริทึมการสำหรับแพนเค้กที่เรียงลำดับเป็นโซลูชันหนึ่งของชุดยังไม่ได้แก้ไขปัญหา [34] นำเสนอในชั้นเรียนคณิตศาสตร์เชิงการจัด โดยแฮร์รี่ Lewis หนึ่งในอาจารย์ของเขา โซลูชันของประตูจัดระเบียนเป็นรุ่นที่เร็วที่สุด 30 ปี [34] [35] สืบได้เร็วเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ [34] ของเขาแก้ปัญหาได้ในภายหลังอย่างเป็นทางในเอกสารเผยแพร่ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ฮาร์วาร์ด Christos Papadimitriou [36]ประตูไม่มีการศึกษาแน่นอนวางแผนขณะเป็นนักศึกษาที่ฮาร์วาร์ด [37] และใช้เวลาในการใช้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียน ประตูยังคงติดต่อกับ Paul อัลเลน และร่วมงานกับเขาที่ Honeywell ในช่วงฤดูร้อนของ 1974 [38] ปีต่อมาเห็นของ 8800 Altair MITS ที่ใช้ Intel 8080 CPU และประตูและอัลเลนเห็นนี้เป็นโอกาสในการเริ่มบริษัทซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ของตนเอง [39] ประตูหลุดออกจากฮาร์วาร์ดในขณะนี้ เขามีพูดคุยนี้ตัดสินใจมากกว่ากับพ่อ ผู้สนับสนุนของเขาหลังจากที่เห็นจำนวนประตูต้องการเริ่มต้นบริษัทได้ [37]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกตส์เกิดในซีแอตเติลวอชิงตันในวันที่ 28 ตุลาคม 1955 เขาเป็นบุตรชายของวิลเลียมเอชเกตส์ซีเนียร์ [b] และแมรีแมกซ์เวลล์เกตส์ ต้นกำเนิดของเกตส์ 'บรรพบุรุษรวมถึงอังกฤษ, เยอรมัน, ไอร์แลนด์และสก็อตไอริช. [14] [15] พ่อของเขาเป็นทนายความที่โดดเด่นและแม่ของเขาทำหน้าที่ในคณะกรรมการของรัฐสำหรับ First BancSystem และสหรัฐ มารดาปู่เกตส์เป็นเจดับบลิวแมกซ์เวลประธานธนาคารแห่งชาติ เกตส์มีพี่สาวหนึ่งคริสตี (Kristianne) และน้องสาวลิบ เขาเป็นคนที่สี่ของชื่อของเขาในครอบครัวของเขา แต่เป็นที่รู้จักกันวิลเลียมเกตส์ที่สามหรือ "แต้ม" เพราะพ่อของเขามี "สอง" ต่อท้าย. [16] ในช่วงต้นของชีวิตของเขาพ่อแม่ของเกตส์ที่มีอาชีพกฎหมายในใจ . เขา [17] เมื่อเกตส์เป็นเด็กครอบครัวของเขาอย่างสม่ำเสมอเข้าร่วมคริสตจักรโปรเตสแตนต์มาชุมนุม [18] [19] [20] ในครอบครัวได้รับการสนับสนุนการแข่งขัน. หนึ่งในผู้เข้าชมรายงานว่า "มันไม่สำคัญไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือ Pickleball หรือว่ายน้ำไปที่ท่าเรือ ... มักจะมีรางวัลสำหรับผู้ชนะและมักจะมีการลงโทษสำหรับการสูญเสีย". [21] ที่ 13 เขาเข้าเรียนใน โรงเรียนเลคไซด์, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเอกชน. [22] เมื่อเขาอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่แปดแม่คลับที่โรงเรียนใช้เงินที่ได้จากการขายของกระจุกกระจิกของโรงเรียนเลคไซด์จะซื้อสถานีโทรพิมพ์รุ่น 33 ASR และบล็อกของเวลาคอมพิวเตอร์ทั่วไปได้ ไฟฟ้า (GE) คอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนของโรงเรียน. [23] เกตส์มีความสนใจในการเขียนโปรแกรมระบบจีอีในขั้นพื้นฐานและได้รับการยกเว้นจากการเรียนคณิตศาสตร์ที่จะไล่ตามความสนใจของเขา เขาเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ครั้งแรกของเขาในเครื่องนี้: การดำเนินงานของ TIC-TAC นิ้วเท้าที่ได้รับอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมกับคอมพิวเตอร์ เกตส์รู้สึกทึ่งกับเครื่องและวิธีการที่มันมักจะรันโค้ดซอฟต์แวร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อเขาสะท้อนกลับในขณะที่เขากล่าวว่า "มีบางอย่างก็เรียบร้อยเกี่ยวกับเครื่อง." [24] หลังจากที่บริจาคมารดาคลับได้หมดเขาและนักเรียนคนอื่น ๆ ขอเวลาในระบบรวมทั้งธันวาคม PDP minicomputers หนึ่งของระบบเหล่านี้เป็น PDP-10 ที่เป็นศูนย์คอมพิวเตอร์คอร์ปอเรชั่น (CCC) ซึ่งห้ามนักเรียนสี่เลคไซด์ - เกตส์, พอลอัลเลน, เฟรเดอไวแลนด์, และเคนท์อีแวนส์ - สำหรับฤดูร้อนหลังจากที่มันจับพวกเขาใช้ประโยชน์จากข้อบกพร่องในระบบปฏิบัติการ ได้รับเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ฟรี. [25] [26] ในตอนท้ายของบ้านทั้งสี่นักเรียนนำเสนอเพื่อหาข้อบกพร่องในซอฟต์แวร์ของ CCC ในการแลกเปลี่ยนสำหรับเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์ แทนที่จะใช้ระบบผ่านทางโทรพิมพ์ประตูไปสำนักงาน CCC และศึกษาซอร์สโค้ดของโปรแกรมต่างๆที่วิ่งในระบบรวมถึงโปรแกรมใน Fortran, เสียงกระเพื่อมและภาษาเครื่อง ตกลงกับซีซีซีต่อไปจนถึงปี 1970 เมื่อ บริษัท ออกไปจากธุรกิจ ในปีต่อไปสารสนเทศศาสตร์, Inc ได้รับการว่าจ้างสี่นักเรียนเลคไซด์ในการเขียนโปรแกรมเงินเดือนในภาษาโคบอลให้พวกเขาเวลาที่เครื่องคอมพิวเตอร์และค่าลิขสิทธิ์ หลังจากที่ผู้บริหารของเขาเริ่มตระหนักถึงความสามารถในการเขียนโปรแกรมของเขาเกตส์เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนที่จะกำหนดเวลานักเรียนในชั้นเรียน เขาปรับเปลี่ยนรหัสเพื่อที่เขาจะถูกวางไว้ในชั้นเรียนกับ "จำนวนสัดส่วนของสาว ๆ ที่น่าสนใจ." [27] หลังจากนั้นเขาก็ระบุว่า "มันเป็นเรื่องยากที่จะฉีกตัวเองออกจากเครื่องที่ฉันสามารถจึงไม่น่าสงสัยแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จ." [ 24] ตอนอายุ 17 ประตูที่เกิดขึ้นร่วมกับอัลเลนที่เรียกว่า Traf-O-ข้อมูลเพื่อให้เคาน์เตอร์จราจรบนพื้นฐานของอินเทล 8008 ประมวลผล. [28] ในช่วงต้นปี 1973 บิลเกตส์ทำหน้าที่เป็นหน้ารัฐสภาในสภาสหรัฐ สภาผู้แทนราษฎร. [29] เกตส์จบการศึกษาจากโรงเรียนเลคไซด์ในปี 1973 และเป็นนักวิชาการชาติบุญ. [30] เขายิง 1,590 จาก 1,600 ใน SAT [31] และเข้าเรียนที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ในฤดูใบไม้ร่วงปี 1973 [32] ในขณะที่ ที่ Harvard เขาได้พบกับ Steve Ballmer ซึ่งต่อมาจะประสบความสำเร็จเกตส์เป็นซีอีโอของไมโครซอฟท์. [33] ห้องโป๊กเกอร์ในคิวเรียเฮ้าส์ที่วิทยาลัยฮาร์วาร์ที่เกตส์และอัลเลนก่อตั้งไมโครซอฟท์ในปีที่สองของเขาเกตส์คิดค้นขั้นตอนวิธีการสำหรับการจัดเรียงแพนเค้กเป็นวิธีการแก้ปัญหาให้เป็นหนึ่งในชุดของปัญหายังไม่แก้ [34] นำเสนอในระดับ combinatorics โดยแฮร์รี่ลูอิสซึ่งเป็นหนึ่งในอาจารย์ของเขา วิธีการแก้ปัญหาของประตูยื่นบันทึกเป็นรุ่นที่เร็วที่สุดมานานกว่าสามสิบปีที่ผ่านมา [34] [35] ทายาทเร็วขึ้นเพียงร้อยละหนึ่ง [34] วิธีการแก้ปัญหาของเขาได้รับอย่างเป็นทางการต่อไปในบทความที่ตีพิมพ์ในการทำงานร่วมกันกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของฮาร์วาร์นักวิทยาศาสตร์ Christos Papadimitriou. [36] เกตส์ไม่ได้มีแผนการศึกษาที่ชัดเจนในขณะที่เรียนอยู่ที่ฮาร์วาร์ [37] และใช้เวลามากเวลาที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน เกตส์ยังคงอยู่ในการติดต่อกับ Paul Allen และเขาร่วมกับเขาที่ Honeywell ในช่วงฤดูร้อนของปี 1974 [38] ในปีต่อไปได้เห็นการเปิดตัวของ Altair MITS 8800 ขึ้นอยู่กับ Intel CPU 8080 และเกตส์และอัลเลนเห็นว่านี่เป็นโอกาสที่ จะเริ่มต้น บริษัท ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์ของตนเอง. [39] เกตส์ออกจากฮาร์วาร์ในเวลานี้ เขาได้พูดคุยการตัดสินใจครั้งนี้ไปกับพ่อแม่ของเขาที่กำลังสนับสนุนของเขาหลังจากที่ได้เห็นเท่าไหร่ที่เกตส์อยากจะเริ่มต้น บริษัท . [37]