Tables 4, 5, and 6 showed the accur

Tables 4, 5, and 6 showed the accuracy of each item for the inner-school achievement test, the descriptive data analysis, and the results of the t-test. It was indicated statistically that the subjects using the combinatorial approach instruction scored significantly higher than those taught using the traditional approach on multiplicative identities content achievement
(p < 0.001) (total items). Especially, the accuracy of the unfamiliar problems revealed that the experimental group students performed significantly better than control group students. Because nobody in the control class could get the correct answer for the ninth item “〖(a+b)〗^3= ?”, while the accuracy of the experimental class was 43.8%, the first author interviewed the students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตาราง 4, 5 และ 6 แสดงให้เห็นความถูกต้องของสินค้าแต่ละรายการสำหรับการทดสอบผลสัมฤทธิ์ภายในโรงเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลอธิบาย และผลลัพธ์ของการทดสอบ t มันเปิดเผยทางสถิติว่า เรื่องใช้คำแนะนำวิธีการปัญหาคะแนนอย่างมีนัยสำคัญสูงกว่าผู้สอนใช้วิธีดั้งเดิมบนสำเร็จเนื้อหาข้อมูลเชิงการคูณ
(p < 0001) (จำนวนสินค้า) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความถูกต้องของปัญหาไม่คุ้นเคยเปิดเผยว่า นักเรียนกลุ่มทดลองทำมากดีกว่านักเรียนกลุ่มควบคุม เพราะไม่มีใครในห้องควบคุมสามารถได้รับคำตอบที่ถูกต้องสำหรับสินค้า 9 "〖 (แบบ b) 〗
3 =? ", ขณะ 43.8% ความแม่นยำของคลาสการทดลอง ผู้เขียนแรกสัมภาษณ์นักเรียน.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตารางที่ 4, 5, และ 6 แสดงให้เห็นความถูกต้องของแต่ละรายการสำหรับการทดสอบภายในโรงเรียนสำเร็จการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนาและผลของ t-test มันก็แสดงให้เห็นว่าอาสาสมัครทางสถิติโดยใช้การเรียนการสอนวิธีการ combinatorial คะแนนสูงกว่าผู้ที่สอนโดยใช้วิธีการแบบดั้งเดิมที่ตัวคูณผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่างมีนัยสำคัญเนื้อหา
(p <0.001) (รายการที่รวม) โดยเฉพาะอย่างยิ่งความถูกต้องของปัญหาไม่คุ้นเคยเปิดเผยว่านักเรียนกลุ่มทดลองดำเนินการอย่างมีนัยสำคัญที่ดีกว่านักเรียนกลุ่มควบคุม เพราะไม่มีใครในชั้นเรียนของการควบคุมจะได้รับการตอบที่ถูกต้องสำหรับรายการที่เก้า "〖 (a + b) 〗 ^ 3 =?" ในขณะที่ความถูกต้องของการเรียนการทดลองเป็น 43.8% ของผู้เขียนครั้งแรกสัมภาษณ์นักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตารางที่ 4 , 5 และ 6 แสดงความถูกต้องของสินค้าแต่ละรายการ เพื่อ ภายใน โรงเรียน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และผลลัพธ์ของการทดสอบ พบว่ากลุ่มตัวอย่าง ใช้สถิติการสอนการทำคะแนนสูงกว่าการใช้วิธีการแบบดั้งเดิมในการคูณข้อมูลเนื้อหาวิชา
( p < 0001 ) ( รายการทั้งหมด ) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความถูกต้องของปัญหาที่ไม่คุ้นเคย พบว่า กลุ่มนักเรียนปฏิบัติดีกว่านักเรียนกลุ่มควบคุม เพราะไม่มีใครในห้องควบคุมจะได้รับคำตอบที่ถูกต้องสำหรับรายการ " 9 〖 ( B ) 〗
3 = ? " ในขณะที่ความถูกต้องของคลาสจำนวน 43.8 เปอร์เซ็นต์ ผู้เขียนแรกสัมภาษณ์นักศึกษา