The story of how Schultz & Co. tran

The story of how Schultz & Co. transformed a pedestrian commodity into an upscale consumer accessory has a fairy-tale quality. Starbucks grew from 17 coffee shops in Seattle 15 years ago to
over 16,000 outlets in 50 countries. Sales have climbed an average
of 20 percent annually since the company went public, peaking at
$10.4 billion in 2008 before falling to $9.8 billion in 2009. Profits
bounded ahead an average of 30 percent per year through 2007
peaking at $673, then dropping to $582 billion and $494 billion in
2008 and 2009, respectively. The firm closed 475 stores in the U.S.
in 2009 to reduce costs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรื่องของวิธี Schultz และบริษัทแก่นชุดเชิญผู้บริโภคหรูอุปกรณ์มีคุณภาพ fairy-tale สตาร์บัคส์เติบโตจากร้านกาแฟ 17 ในซีแอตเทิลเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมาเพื่อร้าน 16000 กว่า 50 ประเทศ ขายได้ปีนขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20 ปีตั้งแต่บริษัทไปสาธารณะ จุดที่10.4 พันล้านเหรียญในปี 2008 ก่อนที่จะตกถึง 9.8 พันล้านเหรียญในปี 2009 ผลกำไรล้อมรอบล่วงหน้าเฉลี่ยร้อยละ 30 ต่อปีผ่าน 2007จุดที่ $673 ปล่อยแล้ว 582 ล้าน $ และ $494 ล้านใน2008 และ 2009 ตามลำดับ บริษัทปิดร้าน 475 ในสหรัฐอเมริกาในปี 2552 เพื่อลดต้นทุน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรื่องราวของวิธีการชูลท์ซ & Co กลายเป็นสินค้าที่คนเดินเท้าเป็นอุปกรณ์ที่ผู้บริโภคหรูมีคุณภาพเทพนิยาย สตาร์บัเพิ่มขึ้นจาก 17 ร้านกาแฟในซีแอตเติ 15
ปีที่ผ่านมากว่า16,000 สาขาใน 50 ประเทศทั่วโลก ขายได้ปีนขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 20 ต่อปีเนื่องจาก บริษัท ฯ ไปในที่สาธารณะจุดที่ 10400000000 $ ในปี 2008 ก่อนที่จะล้มลงไป $ 9800000000 ในปี 2009 กำไรกระโดดไปข้างหน้าเฉลี่ยร้อยละ30 ต่อปีผ่าน 2007 จุดที่ $ 673 แล้วหล่นลงไป $ 582,000,000,000 และ $ 494,000,000,000 ในปี2008 และ 2009 ตามลำดับ บริษัท ปิด 475 ร้านค้าในสหรัฐอเมริกาในปี2009 เพื่อลดค่าใช้จ่าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรื่องราวของชูลท์ซ& . เปลี่ยนชุดเดินเท้าเป็นอุปกรณ์ผู้บริโภค upscale ได้นิยายคุณภาพ ร้านกาแฟสตาร์บัคส์เพิ่มขึ้นจาก 17 ในซีแอตเทิลเมื่อ 15 ปีที่แล้ว

กว่า 16 , 000 สาขาใน 50 ประเทศทั่วโลก ขายปีนเฉลี่ย
20 เปอร์เซ็นต์ทุกปีตั้งแต่ บริษัท ไปสาธารณะ , peaking ที่
$ 10.4 พันล้านในปี 2008 ก่อนที่จะตกลงที่จะ $ 9.8 พันล้านบาท กำไร
กระโจนไปข้างหน้า เฉลี่ยประมาณร้อยละ 30 ต่อปี โดยปี 2550
peaking ที่ $ 673 , แล้วลดลงไป $ 613 พันล้านและ $ 494 ล้านใน
2008 และ 2009 ตามลำดับ บริษัทปิด แต่ร้านค้าในสหรัฐอเมริกา

) เพื่อลดต้นทุน