All roads lead to a stronger dollar

All roads lead to a stronger dollar. That's the view of Stephen Jen, co-founder of the hedge fund SLJ macro Partners, who spent 13 years at Morgan Stanley where he helped develop a theory known as the "dollar smile". He's predicting gains versus emerging-market currencies in particular, whether or not the US Federal Reserve succeeds in raising interest rates without sparking market turbulence. "What we have now is a very strange situation where the US economy continues to grow but there's elevated risk of a financial selloff, and it's actually the most positive environment for the dollar", London-based Jen said last week. "The dollar should be supported in multiple scenario". Investors who bought the currency to speculate that the Fed would tighten policy are seeing gains even as markets push back bets on when rates will rise. The dollar has surged against the currencies of commodity producers and developing nations since the Aug 11 devaluation of China's yuan fuelled concern that growth in the world's second-largest economy was slowing. Analysts predict the dollar will appreciate against more than half of its 16 most-traded peers by year-end. Meanwhile, hedge funds are betting that the greenback will gain against emerging-market currencies, said Sam Diedrich of Pacific Alternative Asset Management Co, which oversees $9.5 billion in hedge-fund investment. "There are a lot of reasons to think that US dollar strength will continue for quite some time, particularly against emering markets", he said. The "dollar smile" theory is based on a chart that predicts gains when the US economy is growing strongly or in a deep slump. While the dollar weakened in 2004 when the Fed started its last cycle of rate increases, it climbed 8.7% against major peers the following year as the central bank lifted its benchmark by 2 percentage points. It ssurged again in 2008, with the Bloomberg Dollar Spot Index gaining 8.9%, as the global financial crisis drove demand for safe-haven assets. The index is up 7.1% this year. The US now has the lowest jobless rate in seven years but that doesn't mean the Fed will lift its rate this coming Thursday, as equity and currency market turmoil is also affecting sentiment. The probability of a rate increase this this week dropped to 28% late last week, based pn surveys of analysts, form 54% a month earlier. "The market will only delay a Fed-hike expectation rather than take it off the table," said Mitul Kotecha of Barclats in Singapore. "We don't see much respite for Asian currencies, not only are there pressures form China but at the same time there's continued outflow of capital and slowing economic growth.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถนนทุกสายที่ทำให้ดอลลาร์แข็งแกร่ง นั่นคือมุมมองของ Stephen เฉินโต ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน hedge SLJ แมคู่ ที่ใช้เวลา 13 ปีที่มอร์แกนสแตนลีย์ซึ่งเขาช่วยพัฒนาทฤษฎีที่เรียกว่า "ยิ้มดอลลาร์" เขาจะคาดการณ์กำไรเมื่อเทียบกับสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะ ว่าสหรัฐสำเร็จในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยโดยไม่มีประกายไฟความปั่นป่วนของตลาดหรือไม่ "สิ่งที่เรามีตอนนี้คือ สถานการณ์ที่แปลกมากที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโตแต่มีได้ยกระดับความเสี่ยงของ selloff การเงิน และเป็นจริงสภาพแวดล้อมมากที่สุดบวกสำหรับดอลลาร์" เฉินโตตามลอนดอนกล่าวว่า สัปดาห์ที่แล้ว "ดอลลาร์ ควรได้รับการสนับสนุนในหลายสถานการณ์" นักลงทุนที่ซื้อสกุลเงินที่คาดการณ์ว่า เฟดจะกระชับนโยบาย จะเห็นกำไรแม้เป็นตลาดผลักดันกลับเดิมพันอัตราจะเพิ่มขึ้นเมื่อ ดอลลาร์ ได้จากการเพิ่มขึ้นเทียบกับสกุลเงินของผู้ผลิตสินค้า และประเทศกำลังพัฒนาเนื่องจากกังวลเติมพลัง devaluation 11 aug หยวนของจีนที่เติบโตในเศรษฐกิจสองที่ใหญ่ที่สุดของโลกชะลอตัว นักวิเคราะห์ทำนายว่า ดอลลาร์จะชื่นชอบกับเพื่อนซื้อขายมากที่สุดของ 16 มากกว่าครึ่งหนึ่ง โดยสิ้นปี กองทุนในขณะเดียวกัน เป็นเดิมพันว่า ธนาบัตรจะได้รับเทียบกับสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ กล่าวว่า สาม Diedrich ของแปซิฟิกทางสินทรัพย์จัดการ Co ซึ่งดูแล 9.5 พันล้านเหรียญในการลงทุนของกองทุน hedge "มีเหตุผลคิดที่ดอลลาร์สหรัฐแรงมากยังคงค่อนข้างบางเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาด emering" เขากล่าวว่า ทฤษฎี "ยิ้มดอลลาร์" ยึดตามแผนภูมิที่ทำนายกำไรเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการเติบโตขอ หรือตกต่ำลึก ในขณะที่ดอลลาร์ลดลงในปี 2004 เมื่อเฟดเริ่มวงจรสุดท้ายอัตราเพิ่ม มันปีนขึ้น 8.7% เทียบกับเพื่อนที่สำคัญปีต่อเป็นธนาคารกลางยกมาตรฐานของจุดเปอร์เซ็นต์ 2 มัน ssurged อีกครั้งในปี 2551 และมีจุดดัชนีดอลลาร์อาร์ซีได้ 8.9 นอก% เป็นวิกฤตความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยสวรรค์ที่ขับรถ เป็นดัชนีขึ้น 7.1% ในปีนี้ สหรัฐอเมริกาขณะนี้มีอัตราการว่างงานต่ำสุดในเจ็ดปี แต่ไม่ได้หมายความ เฟดจะยกของอัตรานี้มาพฤหัสบดี เป็นความวุ่นวายตลาดหุ้นและสกุลเงินยังมีผลต่อความเชื่อมั่น น่าเพิ่มอัตรานี้สัปดาห์นี้ลดลง 28% ปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดย pn สำรวจนักวิเคราะห์ แบบฟอร์ม 54% เดือนก่อนหน้านี้ "ตลาดจะเท่าความยกขึ้นเฟดล่าช้า มากกว่าจะออกตาราง กล่าวว่า Mitul Kotecha ของ Barclats ในสิงคโปร์ "เราไม่เห็นมากเลยสำหรับสกุลเงินเอเชีย ไม่เพียงแต่ จะมีแรงกดดันแบบจีน แต่ขณะเดียวกันมีมีต่อกระแสของทุนและการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถนนทุกเส้นนำไปสู่​​เงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่ง นั่นเป็นมุมมองของสตีเฟ่นเจนร่วมก่อตั้งของกองทุนป้องกันความเสี่ยง SLJ แมโครพาร์ทเนอร์ที่ใช้เวลา 13 ปีที่มอร์แกนสแตนลีย์ที่เขาช่วยพัฒนาทฤษฎีที่เรียกว่า "ดอลล่ารอยยิ้ม" เขาคาดการณ์กำไรเมื่อเทียบกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เฟดสหรัฐประสบความสำเร็จในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยโดยไม่เกิดประกายไฟปั่นป่วนตลาด "สิ่งที่เรามีตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่แปลกมากที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเติบโต แต่มีความเสี่ยงสูงของเทขายทางการเงินและเป็นจริงสภาพแวดล้อมในเชิงบวกมากที่สุดสำหรับเงินดอลลาร์" เจนอยู่ในกรุงลอนดอนกล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา "เงินดอลลาร์ที่ควรได้รับการสนับสนุนในสถานการณ์หลาย" นักลงทุนที่ซื้อสกุลเงินที่จะคาดการณ์ว่าเฟดจะกระชับนโยบายจะเห็นกำไรแม้ในขณะที่ตลาดผลักดันกลับเดิมพันจะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตรา ค่าเงินดอลลาร์ได้ปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินของผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์และการพัฒนาประเทศตั้งแต่ 11 สิงหาคมลดค่าเงินหยวนของจีนผลักดันความกังวลว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่เป็นอันดับสองได้รับการชะลอตัว นักวิเคราะห์คาดการณ์ค่าเงินดอลลาร์จะชื่นชมกับมากกว่าครึ่งหนึ่งของ 16 เพื่อนซื้อขายมากที่สุดโดยในช่วงปลายปี ในขณะที่กองทุนป้องกันความเสี่ยงเป็นเดิมพันว่าดอลลาร์จะได้รับเทียบกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่แซม Diedrich แปซิฟิก บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเอ็มเอไอร่วมซึ่งดูแล 9500000000 $ ในการลงทุนกองทุนป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว "มีหลายเหตุผลที่จะคิดว่าความแรงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจะยังคงสำหรับค่อนข้างบางเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ emering ตลาดคือ" เขากล่าวว่า เงินดอลลาร์ "รอยยิ้ม" ทฤษฎีอยู่บนพื้นฐานของแผนภูมิที่คาดการณ์กำไรเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโตอย่างมากหรือตกต่ำลึก ในขณะที่เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในปี 2004 เมื่อเฟดเริ่มต้นรอบสุดท้ายของการเพิ่มขึ้นของอัตราก็ปีนขึ้น 8.7% เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมงานที่สำคัญในปีต่อไปในขณะที่ธนาคารกลางยกมาตรฐานของตนโดย 2 คะแนนร้อยละ มัน ssurged อีกครั้งในปี 2008 กับดัชนีดอลลาร์สปอตบลูมเบิร์กดึงดูด 8.9% เนื่องจากวิกฤตการเงินโลกขับรถความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยสวรรค์ ดัชนีขึ้น 7.1% ในปีนี้ สหรัฐขณะนี้มีอัตราการว่างงานต่ำสุดในรอบเจ็ดปี แต่ไม่ได้หมายความว่าเฟดจะยกอัตราพฤหัสบดีนี้มาเป็นผู้ถือหุ้นและความวุ่นวายในตลาดสกุลเงินนอกจากนี้ยังมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ความน่าจะเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นนี้ในสัปดาห์นี้ลดลงถึง 28% ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตามการสำรวจของนักวิเคราะห์ PN รูปแบบ 54% ในเดือนก่อนหน้า "ตลาดจะชะลอความคาดหวังที่เฟดธุดงค์มากกว่าจะเอามันออกโต๊ะ" Mitul Kotecha ของ Barclats ในสิงคโปร์กล่าวว่า "เราไม่เห็นการพักผ่อนมากสำหรับสกุลเงินในเอเชียไม่เพียง แต่จะมีแรงกดดันจากประเทศจีน แต่ในขณะเดียวกันยังคงมีการไหลออกของเงินทุนและการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถนนทุกสายมุ่งสู่ดอลลาร์แข็งแกร่ง นั่นเป็นมุมมองของ สตีเฟน เจน ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน slj แมค้า ใครใช้เวลา 13 ปีที่ Morgan Stanley ซึ่งเขาได้พัฒนาทฤษฎีที่เรียกว่า " ดอลลาร์ยิ้ม " เขาทำนายกำไรเมื่อเทียบกับสกุลเงินตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะ ไม่ว่าสหรัฐประสบความสำเร็จในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยโดยจุดประกายความวุ่นวายของตลาด" สิ่งที่เรามีตอนนี้คือแปลกมาก ในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโต แต่ยังมีความเสี่ยงสูงของ selloff ทางการเงิน และมันก็จริง สภาพแวดล้อมในเชิงบวกมากที่สุดสำหรับเงินดอลลาร์ " ลอนดอนตามเจนกล่าวว่าสัปดาห์สุดท้าย . ค่าเงินดอลลาร์ควรได้รับการสนับสนุนในสถานการณ์ " หลายนักลงทุนที่ซื้อสกุลเงินที่จะคาดการณ์ว่า เฟดจะกระชับนโยบายเห็นกำไรแม้ในขณะที่ตลาดดันกลับเดิมพันเมื่อราคาจะขึ้น ดอลลาร์ได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินของผู้ผลิตสินค้าและพัฒนาประเทศตั้งแต่ 11 ส.ค. ลดค่าหยวนของจีนเพิ่มขึ้นความกังวลว่าการเติบโตของเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกกำลังชะลอตัวนักวิเคราะห์คาดการณ์ดอลลาร์จะขอบคุณต่อมากกว่าครึ่งหนึ่งของ 16 ส่วนใหญ่ที่ซื้อขายเพื่อน โดยสิ้นปี ขณะเดียวกัน กองทุนป้องกันความเสี่ยงเป็นเดิมพันว่าดอลลาร์จะได้รับเทียบกับสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ กล่าวว่า แซม ในย่านแปซิฟิกทางเลือกบริหารสินทรัพย์ จำกัด ซึ่งดูแล $ 9.5 พันล้านบาทในการลงทุนในกองทุนป้องกันความเสี่ยง" มีหลายเหตุผลที่จะคิดว่าดอลลาร์จะยังคงความแข็งแรงสำหรับค่อนข้างบางเวลา โดยเฉพาะกับ emering ตลาด " เขา กล่าว " รอยยิ้ม " ดอลลาร์ทฤษฎีจะขึ้นอยู่กับแผนภูมิที่คาดการณ์กำไรเมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเติบโตอย่างมาก หรือตกต่ำในลึก ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงใน 2004 เมื่อเฟดเริ่มต้นรอบสุดท้ายของการเพิ่มขึ้นของอัตรา มันปีน 87 % กับเพื่อนสาขาปีต่อไปนี้เป็นธนาคารกลางยกมาตรฐานของมัน โดย 2 คะแนนร้อยละ . มัน ssurged อีกครั้งในปี 2008 กับบลูมเบิร์กดอลลาร์จุดดัชนีสู่ 8.9% เป็นวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย . ดัชนีจะขึ้น 7.1% ในปีนี้ส่วนเราตอนนี้ มีอัตราว่างงานต่ำสุดในเจ็ดปี แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดีนี้มาเป็นทุน และตลาดการเงิน ความวุ่นวายยังมีผลต่อความเชื่อมั่น ความน่าจะเป็นของอัตราการเพิ่มขึ้นนี้ในสัปดาห์นี้ลดลงถึง 28% จากช่วงปลายสัปดาห์การสำรวจนักวิเคราะห์ , แบบฟอร์ม 54 เดือนก่อนหน้านี้" ตลาดจะล่าช้าไปมากกว่าที่ได้รับความคาดหวังถอดโต๊ะ กล่าวว่า kotecha mitul ของ barclats ในสิงคโปร์” เราไม่พบ respite มากสำหรับสกุลเงินเอเชีย , ไม่เพียง แต่จะมีแรงกดดันจากจีน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงไหลออกของเงินทุน และชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจ .