Upstream activities are the most st

Upstream activities are the most strategic activities performed within the purchasing function. These activities demand several advanced
skills. First, these activities require that purchasing departments coordinate well with other departments to understand the needs related to
their company’s competitive positioning. Second, to engage in these activitiespurchasing departmentsneed to know thevalue capturedbythe
purchasing department for each purchase in order to design a purchasing strategy for each category. Third, purchasing managers need to understand and analyze the suppliers’ market to develop connections
with them. Note that downstream activities involve to operational
tasks that relate to the supply of goods and services. Such activities do
not quite capture value or contribute to organizational competitiveness.
In the literature, upstream activities are commonly referred to as
“purchasing”, and downstream, “procurement.”
H1.1 states that more mature purchasing organizations spend more
time on strategic activities than on operational activities. Purchasing
maturity implies that the amount of time spent on operational activities
in the purchasing department will decrease and that more time and effort can be devoted to strategic activities,which require greaterskill and
more complex methodologies. Thus, with higher purchasing maturity, a
companycanreceive increasedvaluein theformof sustainable cost savings. Table A.2 shows the average time required for each activity reported by the responding companies. The results confirm H1.1: A higher
level of purchasing maturity is associated with more time is spent on
upstream activities, and vice versa.
To test H1.1, two OLS regressions were run: the first used “maturity”
as a continuous variable, and the second used “maturity level” as a categorical variable with four levels (level 1, baseline). In both equations,
maturity was the dependent variable. Two versions of each equation
were used: one without industry fixed effects (models 1 and 3) and a
second with industry fixed effects (models 2 and 4). Table A.3 shows
the results for all the equations and tests. The results support H1.1:
higher purchasing maturity is associated with a higher proportion of
time spent on strategic activities.
In the equations with “maturity” as a continuous variable (models 1
and 2), a one-unit increase in the maturity index is associated with an
11% (10% in the models with industry fixed effects) increase in the
time allocated to strategic activities. In with equations with “maturity
level” as a categorical variable (models 3 and 4), the results show that
compared with companies classified in level 1, companies classified in
levels 2, 3, and 4 spend an average of 6%, 25%, and 41%, respectively,
more time on strategic activities (6%, 24%, and 40%, respectively, in the
models with industry fixed effects).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กิจกรรมเชิงกลยุทธ์สุดที่ดำเนินการภายในฟังก์ชันซื้อกิจกรรมขั้นต้นน้ำได้ กิจกรรมเหล่านี้ต้องหลายขั้นสูงทักษะการ ครั้งแรก กิจกรรมเหล่านี้ต้องให้แผนกจัดซื้อประสานงานกับแผนกอื่น ๆ เพื่อให้เข้าใจความต้องการที่เกี่ยวข้องกับของบริษัทของตำแหน่งการแข่งขัน สอง การมีส่วนร่วมใน departmentsneed activitiespurchasing เหล่านี้รู้ thevalue capturedbytheแผนกจัดซื้อสำหรับการซื้อแต่ละการออกแบบกลยุทธ์การจัดซื้อสำหรับแต่ละประเภท ที่สาม ได้ซื้อผู้จัดการต้องทำความเข้าใจ และวิเคราะห์ตลาดของซัพพลายเออร์พัฒนาเชื่อมต่อกับพวกเขา โปรดทราบว่า กิจกรรมปลายน้ำเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานงานที่เกี่ยวข้องกับอุปทานของสินค้าและบริการ ทำกิจกรรมดังกล่าวไม่เก็บค่า หรือนำไปสู่การแข่งขันขององค์กรในวรรณคดี กิจกรรมขั้นต้นน้ำโดยทั่วไปอย่างเป็น"ซื้อ" และปลาย น้ำ "จัดซื้อ"H1.1 ระบุว่า องค์กรมากกว่าผู้ใหญ่ซื้อใช้เวลากิจกรรมเชิงกลยุทธ์มากกว่ากิจกรรมดำเนินงาน การจัดซื้อครบกำหนดหมายถึงว่า จำนวนเวลาที่ใช้ในกิจกรรมดำเนินงานในการซื้อแผนกจะลดลง และให้เวลาและความพยายามมากขึ้นสามารถเพื่อรองรับกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ ที่ต้องการ greaterskill และวิธีการซับซ้อน ดังนั้น ด้วยครบกำหนดซื้อสูง การcompanycanreceive increasedvaluein theformof ยั่งยืนประหยัดต้นทุน ตาราง A.2 แสดงเวลาเฉลี่ยที่ต้องใช้สำหรับแต่ละกิจกรรมที่รายงาน โดยบริษัทตอบสนอง ผลการยืนยัน H1.1: มากซื้อครบกำหนดในระดับที่สัมพันธ์กับมากกว่าเวลาที่ใช้ในกิจกรรมขั้นต้นน้ำ และในทางกลับกันการทดสอบ H1.1, regressions OLS ที่สองถูกเรียกใช้: ครั้งแรกที่ใช้ "ครบกำหนด"เป็นตัวแปรต่อเนื่อง และที่สองใช้ "ครบกำหนดระดับ" ตัวแปรแน่ชัดมี 4 ระดับ (ระดับ 1 พื้นฐาน) ในสมการทั้งสองครบกำหนดไม่ขึ้นอยู่กับตัวแปร รุ่นที่สองของแต่ละสมการใช้: ไม่คงลักษณะพิเศษ (รุ่น 1 และ 3) อุตสาหกรรมและสอง กับอุตสาหกรรมคงผล (โมเดล 2 และ 4) ตารางแสดง A.3ผลลัพธ์สำหรับสมการและทดสอบทั้งหมด ผลการสนับสนุน H1.1:ซื้อครบกำหนดสูงจะสัมพันธ์กับสัดส่วนที่สูงของเวลาที่ใช้ในกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ในสมการด้วย "กำหนด" เป็นตัวแปรต่อเนื่อง (รูปแบบ 1และ 2), การเพิ่มขึ้นหนึ่งหน่วยในดัชนีครบกำหนดเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้น 11% (10% ในรูปแบบที่มีลักษณะอุตสาหกรรมที่คงเวลาที่ปันส่วนไปยังกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ ด้วยสมการด้วย "วันครบกำหนดระดับ"เป็นตัวแปรที่แน่ชัด (รุ่นที่ 3 และ 4), ผลลัพธ์แสดงว่าเมื่อเทียบกับบริษัทที่จัดในระดับ 1 บริษัทจัดในระดับ 2, 3 และ 4 ใช้เวลาเฉลี่ย 6%, 25% และ 41% ตามลำดับเวลามีกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ (6%, 24% และ 40% ตามลำดับ ในการรุ่นที่ มีอุตสาหกรรมคงผล)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กิจกรรมขั้นต้นเป็นกิจกรรมเชิงกลยุทธ์มากที่สุดดำเนินการภายในฟังก์ชั่นการจัดซื้อ Upstream activities are the most strategic activities performed within the purchasing function. These activities demand several advanced
กิจกรรมเหล่านี้มีความต้องการขั้นสูงหลายทักษะ skills. First, these activities require that purchasing departments coordinate well with other departments to understand the needs related to
their company’s competitive positioning. Second, to engage in these activitiespurchasing departmentsneed to know thevalue capturedbythe
purchasing department for each purchase in order to design a purchasing strategy for each category. Third, purchasing managers need to understand and analyze the suppliers’ market to develop connections
with them. Note that downstream activities involve to operational
tasks that relate to the supply of goods and services. Such activities do
not quite capture value or contribute to organizational competitiveness.
In the literature, upstream activities are commonly referred to as
“purchasing”, and downstream, “procurement.”
H1.1 states that more mature purchasing organizations spend more
time on strategic activities than on operational activities. Purchasing
maturity implies that the amount of time spent on operational activities
in the purchasing department will decrease and that more time and effort can be devoted to strategic activities,which require greaterskill and
more complex methodologies. Thus, with higher purchasing maturity, a
companycanreceive increasedvaluein theformof sustainable cost savings. Table A.2 shows the average time required for each activity reported by the responding companies. The results confirm H1.1: A higher
level of purchasing maturity is associated with more time is spent on
upstream activities, and vice versa.
To test H1.1, two OLS regressions were run: the first used “maturity”
as a continuous variable, and the second used “maturity level” as a categorical variable with four levels (level 1, baseline). In both equations,
maturity was the dependent variable. Two versions of each equation
were used: one without industry fixed effects (models 1 and 3) and a
second with industry fixed effects (models 2 and 4). Table A.3 shows
the results for all the equations and tests. The results support H1.1:
higher purchasing maturity is associated with a higher proportion of
time spent on strategic activities.
In the equations with “maturity” as a continuous variable (models 1
and 2), a one-unit increase in the maturity index is associated with an
11% (10% in the models with industry fixed effects) increase in the
time allocated to strategic activities. In with equations with “maturity
level” as a categorical variable (models 3 and 4), the results show that
compared with companies classified in level 1, companies classified in
levels 2, 3, and 4 spend an average of 6%, 25%, and 41%, respectively,
more time on strategic activities (6%, 24%, and 40%, respectively, in the
models with industry fixed effects).

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กิจกรรม โดยกิจกรรมส่วนใหญ่กลยุทธ์ในหน้าที่จัดซื้อ กิจกรรมเหล่านี้ความต้องการทักษะขั้นสูง
หลาย แรก กิจกรรมเหล่านี้ ต้องให้ฝ่ายจัดซื้อ ประสานงานกับแผนกอื่นๆเพื่อเข้าใจความต้องการที่เกี่ยวข้องกับ
ตำแหน่งแข่งขัน บริษัท ของพวกเขา . ประการที่สองการมีส่วนร่วมใน เหล่านี้ activitiespurchasing departmentsneed รู้ค่า capturedbythe
แผนกจัดซื้อแต่ละซื้อเพื่อที่จะออกแบบกลยุทธ์การจัดซื้อในแต่ละประเภท ประการที่สาม การจัดซื้อผู้จัดการต้องการที่จะเข้าใจและวิเคราะห์ตลาดซัพพลายเออร์เพื่อพัฒนาการเชื่อมต่อ
กับพวกเขา หมายเหตุ กิจกรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน
งานที่เกี่ยวข้องกับอุปทานของสินค้าและบริการ กิจกรรมดังกล่าวทำ
ไม่ค่อยจับค่า หรือมีส่วนร่วมในการแข่งขันขององค์การ
ในวรรณคดี กิจกรรมโดยทั่วไปเรียกว่า
" ซื้อ " และเกิด " จัดซื้อจัดจ้าง "
h1.1 ระบุว่า ผู้ใหญ่ซื้อองค์กรใช้เวลา
กิจกรรมเชิงกลยุทธ์มากกว่ากิจกรรมการดำเนินงานซื้อ
วุฒิภาวะหมายถึง ปริมาณของเวลาที่ใช้ในกิจกรรมการดำเนินงาน
ในแผนกจัดซื้อจะลดลง และที่เวลาและความพยายามที่สามารถรองรับกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ ซึ่งต้องการ greaterskill
และวิธีการที่ซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้น ด้วยวุฒิภาวะการซื้อที่สูงขึ้น ,
companycanreceive increasedvaluein theformof ยั่งยืนการประหยัดต้นทุน ตาราง2 แสดงให้เห็นว่ามีเวลาที่ต้องใช้สำหรับแต่ละกิจกรรมที่รายงานโดยการตอบสนองของ บริษัท ผลยืนยัน h1.1 : ระดับที่สูง
ซื้อวุฒิภาวะจะเกี่ยวข้องกับเวลามากขึ้นคือการใช้จ่ายใน
กิจกรรมต้นน้ำและในทางกลับกัน
ทดสอบ h1.1 สองวิธีสมการถดถอยได้วิ่ง : ครั้งแรกที่ใช้ " วุฒิภาวะ "
เป็นตัวแปรต่อเนื่องและสองใช้ " วุฒิภาวะระดับ " เป็นเด็ดขาด ตัวแปรที่มี 4 ระดับ ( ระดับพื้นฐาน ) ทั้งสองสมการ
วุฒิภาวะคือตัวแปรตาม รุ่นที่สองของแต่ละสมการ
ใช้ : ไม่มีอุตสาหกรรมถาวรผล ( รุ่น 1 และ 3 ) และอุตสาหกรรมการแก้ไขผล (
2 รุ่น 2 และ 4 ) ตารางแสดงผลทั้งหมด A.3
สมการและการทดสอบ ผลการสนับสนุน h1.1 :
จำนวนการซื้อสูงมีความสัมพันธ์กับสัดส่วนที่สูงของ

ใช้เวลาปฏิบัติกิจกรรมเชิงกลยุทธ์ ในสมการด้วย " วุฒิภาวะ " ตัวแปรต่อเนื่อง ( รุ่น 1
2 ) , หนึ่งหน่วยเพิ่มในดัชนีความเกี่ยวข้องกับ
11 % ( 10 % ในรุ่นที่มีการแก้ไขผลกระทบอุตสาหกรรม ) เพิ่มขึ้น ใน
จัดสรรเวลากิจกรรมเชิงกลยุทธ์ ในสมการด้วยวุฒิภาวะ
"ระดับ " เป็นตัวแปรอย่างแท้จริง ( รุ่น 3 และ 4 ) ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่า
เมื่อเทียบกับบริษัทจัดอยู่ในระดับ 1 , บริษัท แบ่ง
ระดับ 2 , 3 , และ 4 ใช้เวลาเฉลี่ย 6 25% , และ 41 ตามลำดับ
เวลากิจกรรมเชิงกลยุทธ์ ( 6 ) 24 % และ 40% ตามลำดับ ในรุ่นที่มีอุตสาหกรรม
Fixed Effects )