and immediate supply of glucose to

and immediate supply of glucose to provide energy, for example, to raise the body
temperature and cause fever to fight infection. However, as insulin secretion is reduced at this time and glucose
stores are mobilised, patients who are critically ill are at high risk of developing hyperglycaemia (Viana et al,
2014). In a patient who is critically ill, hyperglycaemia is a particular problem as it may lead to impaired wound
healing, fluid and electrolyte imbalance, and impaired immune function.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

และอุปทานได้ทันทีของกลูโคสให้พลังงาน ตัวอย่างเช่น ยกตัวไข้อุณหภูมิและทำให้เกิดการต่อสู้การติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม เป็นอินซูลิน หลั่งลดลงในขณะนี้และกลูโคสมีระดมร้านค้า ผู้ป่วยวิกฤตที่มีความเสี่ยงสูงของการพัฒนา hyperglycaemia (เวีย et al2014) ในผู้ป่วยที่รับป่วย hyperglycaemia เป็นปัญหาเฉพาะเพราะอาจนำไปสู่แผลบกพร่องการรักษา ความไม่สมดุลของของเหลวและอิเล็กโทรไลต์ และฟังก์ชันภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และอุปทานของน้ำตาลกลูโคสในทันทีเพื่อให้พลังงานเช่นจะยกร่างกาย
อุณหภูมิและทำให้เกิดอาการไข้ที่จะต่อสู้กับการติดเชื้อ อย่างไรก็ตามในขณะที่หลั่งอินซูลินจะลดลงในเวลานี้และระดับน้ำตาลใน
ร้านค้าที่มีการระดมผู้ป่วยที่ป่วยหนักที่มีความเสี่ยงสูงในการพัฒนา hyperglycaemia (เวียนา, et al,
2014) ในผู้ป่วยที่เป็นป่วยหนักที่ hyperglycaemia เป็นปัญหาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่มันอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางแผล
รักษาของเหลวและอิเล็กไม่สมดุลและการทำงานของภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และอุปทานทันทีกลูโคสที่ให้พลังงาน เช่น เลี้ยงร่างกายเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อไข้อุณหภูมิและเหตุ อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นการหลั่งอินซูลินลดลงในเวลานี้ และกลูโคสร้าน mobilised ผู้ป่วยที่ป่วยวิกฤตมีความเสี่ยงสูงในการพัฒนา hyperglycaemia ( Viana et al ,2014 ) ในผู้ป่วยที่มีภาวะเจ็บป่วยวิกฤต hyperglycaemia , เป็นปัญหาเฉพาะ เช่น อาจทำให้แผลที่บกพร่องการรักษา , ของเหลวและอิเล็กโทรไลต์ไม่สมดุล และภูมิคุ้มกันบกพร่อง