many interactions between plants an

many interactions between plants and other organisms occur in this interface (Bais et al., 2006). By releasing a
recombinant isolate of M. anisopliae to the soil of an experimental cabbage field in MD, USA, Hu and St. Leger (2002) were able to demonstrate that the released isolate persisted better in the soil immediately surrounding the cabbage roots as compared to the bulk soil. Factors in the rhizosphere therefore seemed to promote the persistence and biological activity of M. anisopliae (Hu and St. Leger, 2002). Wang et al. (2005) further documented that M. anisopliae expressed similar genes when growing in exudates from bean roots and on a nutrient rich medium while
different genes were expressed by the fungus when growing on insect cuticle and in insect hemolymph. This indicated
that M. anisopliae has developed different adaptations to function as a pathogen and to grow saprophytically in
the rhizosphere (Wang et al., 2005). The implication for biological control with M. anisopliae exploring the rhizosphere
competence was investigated by Bruck (2005). Inoculated conidia of M. anisopliae persisted significantly better
(up to one year) in the rhizosphere of Picea abies compared to the bulk soil (Bruck, 2005). Survival outside the host
may thus be critical for the ability of M. anisopliae to control insect pests in the soil (Roberts and St. Leger, 2004;
Bruck, 2005). Whether the rhizosphere of plants generally provide a ‘‘refuge’’ (where the fungus can survive outside
insect hosts) for M. anisopliae in the soil remains to be investigated. Perhaps associations with plants are important
in the life cycle of both B. bassiana and M. anisopliae in temperate regions

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลายปฏิสัมพันธ์ระหว่างพืชและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในอินเทอร์เฟซนี้ (Bais et al. 2006) โดยการปล่อยตัวrecombinant แยกของ M. anisopliae กับดินของการทดลองกะหล่ำปลีใน MD สหรัฐอเมริกา Hu และเซนต์ Leger (2002) ได้แสดงให้เห็นว่า isolate ออกมาดีกว่าที่มีอยู่ในดินรอบ ๆ รากกะหล่ำปลีเมื่อเทียบกับดินจำนวนมากทันที ปัจจัยในไรโซสเฟียร์ดูเหมือนจะ ส่งเสริมกิจกรรมที่มีอยู่และชีวภาพของ M. anisopliae (Hu และเซนต์ Leger, 2002) ดังนั้น วัง et al. (2005) การได้รับการบันทึกว่า M. anisopliae แสดงยีนที่คล้ายกันเมื่อเติบโตใน exudates จากรากถั่ว และ บนสื่ออุดมไปด้วยสารอาหารในขณะที่ยีนต่าง ๆ ถูกแสดง โดยเชื้อราเมื่อโตหนังแมลง และแมลง hemolymph นี้ระบุM. anisopliae ที่ได้มีพัฒนาดัดแปลงแตกต่างกัน การทำงานเป็นตัวเชื้อโรค และ จะเติบโต saprophytically ในไรโซสเฟียร์ (Wang et al. 2005) ความหมายการควบคุมกับ M. anisopliae ที่สำรวจในไรโซสเฟียร์ความสามารถรับการตรวจสอบ โดย Bruck (2005) Conidia inoculated ของ M. anisopliae ยังคงอยู่อย่างมีนัยสำคัญดีกว่า(ถึงหนึ่งปี) ในไรโซสเฟียร์ของ Picea abies เมื่อเทียบกับดินจำนวนมาก (Bruck, 2005) อยู่รอดนอกโฮสต์ดังนั้นอาจจะสำคัญสำหรับความสามารถของ M. anisopliae เพื่อควบคุมแมลงศัตรูพืชในดิน (โรเบิร์ตและเซนต์ Leger, 2004Bruck, 2005) ว่าไรโซสเฟียร์ของพืชโดยทั่วไปให้เป็น ''หลบ '' (ที่เชื้อราสามารถอยู่รอดภายนอกแมลงโฮสต์) สำหรับ M. anisopliae ในดินซากจะถูกตรวจสอบ บางทีความสัมพันธ์กับพืชมีความสำคัญในวงจรชีวิตของ B. bassiana และ M. anisopliae ในเขตอบอุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพืชและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในอินเตอร์เฟซนี้ (Bais et al., 2006) โดยการปล่อย
แยก recombinant เอ็ม anisopliae ดินของสนามกะหล่ำปลีทดลอง MD, USA อู่และเซนต์ Leger (2002) ก็สามารถที่จะแสดงให้เห็นว่าการแยกการปล่อยตัวออกมายืนกรานที่ดีขึ้นในดินโดยรอบในทันทีรากกะหล่ำปลีเมื่อเทียบ ไปยังดินจำนวนมาก ปัจจัยที่บริเวณรากจึงดูเหมือนจะส่งเสริมความคงทนและฤทธิ์ทางชีวภาพของ M. anisopliae (Hu และเซนต์ Leger, 2002) วัง et al, (2005) เอกสารเพิ่มเติมว่า M. anisopliae แสดงออกของยีนที่คล้ายกันเมื่อการเติบโตในสารที่หลั่งจากรากถั่วและในสื่อที่อุดมไปด้วยสารอาหารในขณะที่
ยีนที่แตกต่างกันมีการแสดงออกจากเชื้อราเมื่อเจริญเติบโตบนหนังกำพร้าแมลงและแมลงในเลือด นี้แสดงให้เห็น
ว่าเอ็ม anisopliae ได้มีการพัฒนาที่แตกต่างกันการปรับตัวในการทำงานเป็นเชื้อโรคที่จะเติบโตและ saprophytically ใน
บริเวณราก (ที่วัง et al., 2005) ความหมายสำหรับการควบคุมทางชีวภาพกับ M. anisopliae สำรวจบริเวณราก
ความสามารถได้รับการตรวจสอบโดยบรัค (2005) สปอร์เชื้อเอ็ม anisopliae ยังคงดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
(ไม่เกินหนึ่งปี) ในบริเวณราก abies Picea เมื่อเทียบกับดินจำนวนมาก (Bruck 2005) การอยู่รอดนอกเจ้าภาพ
จึงอาจจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสามารถของ M. anisopliae ในการควบคุมแมลงศัตรูพืชในดิน (โรเบิร์ตและเซนต์ Leger 2004;
Bruck 2005) ไม่ว่าจะเป็นบริเวณรากของพืชโดยทั่วไปให้ '' ลี้ภัย '' (ที่เชื้อราสามารถอยู่รอดนอก
เจ้าภาพแมลง) สำหรับ M. anisopliae ในดินยังคงที่จะตรวจสอบ บางทีสมาคมกับพืชที่มีความสำคัญ
ในวงจรชีวิตของทั้งสอง B. bassiana และ M. anisopliae ในเขตอบอุ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปฏิสัมพันธ์ระหว่างพืชและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆอีกมากมายที่เกิดขึ้นในอินเตอร์เฟซนี้ ( Bais et al . , 2006 ) โดยการปล่อยสามารถแยกเชื้อรา M . ในดินของแปลงทดลองกะหล่ำปลีในแมรี่แลนด์สหรัฐอเมริกา Hu และเซนต์ Leger ( 2545 ) ได้แสดงให้เห็นว่า ตัวแยกหายดีในดินรอบรากทันที่ เมื่อเทียบกับดินขนาดใหญ่ ปัจจัยในรากจึงดูเหมือนจะส่งเสริมการคงอยู่และฤทธิ์ทางชีวภาพของ M . anisopliae ( Hu และเซนต์ Leger , 2002 ) Wang et al . ( 2548 ) เพิ่มเติม เอกสารที่ ม. anisopliae แสดงออกยีนที่คล้ายคลึงกันเมื่อปลูกในสารที่หลั่งจากรากถั่วที่อุดมไปด้วยสารอาหารและขนาดกลาง ขณะที่ยีนที่ต่างกัน แสดงโดย เชื้อรา แมลง และเมื่อเติบโตบนผิวหนัง เลือดของแมลง นี้ระบุเมตรที่แตกต่างกันเชื้อราได้พัฒนาดัดแปลงการทำงานเป็นเชื้อโรคและเติบโตโดยกินสิ่งที่เน่าเปื่อยในราก ( Wang et al . , 2005 ) นัยเพื่อการควบคุมทางชีววิทยากับ M . anisopliae สำรวจรากสามารถถูกตรวจสอบโดยบรั๊ค ( 2005 ) เชื้อ M . anisopliae เดียหายดีขึ้น( ถึงหนึ่งปี ) ในรากของ picea abies เมื่อเทียบกับดินขนาดใหญ่ ( บรั๊ค , 2005 ) การอยู่รอดนอกโฮสต์ดังนั้นจึงอาจจะสำคัญสำหรับความสามารถของ M . anisopliae ในการควบคุมแมลงศัตรูพืชในดิน ( โรเบิร์ตและเซนต์ Leger , 2004 ;บรั๊ค , 2005 ) ว่า รากของพืชโดยทั่วไปให้ " "refuge " " ( ซึ่งเชื้อราสามารถอยู่รอดได้นอกM . anisopliae ) แมลงเจ้าบ้านในดินยังคงต้องสอบสวน บางทีสมาคมกับพืชเป็นสำคัญในวงจรชีวิตของทั้ง B . bassiana และ M . anisopliae ในภูมิภาคอบอุ่น