แหล่งปลูก
1.1 สภาพพื้นที่
• ใกล้แหล่งน้ำ และสะดวกต่อการนำมาใช้
• การคมนาคมขนส่ง สะดวก สามารถนำผลผลิตออกสู่ตลาดได้รวดเร็ว
• ไม่อับลม
1.2 สภาพภูมิอากาศ
• มีฝนตกเฉลี่ย ไม่เกิน 1,200 มิลลิเมตรต่อปี
• ความชื้นสัมพัทธ์ เฉลี่ยตลอดปี 50 – 70 เปอร์เซ็นต์
• มีอุณหภูมิที่เหมาะสม เฉลี่ยตลอดปี 25 – 35°c
1.3 แหล่งน้ำ
• มีน้ำที่มีคุณภาพ ดี เหมาะสมกับกล้วยไม้
• มีน้ำเพียงพอสำหรับ ใช้ตลอดฤดูปลูก
1.4 แหล่งปลูกที่เหมาะสม เฉพาะสกุล
• สกุลหวาย เหมาะสมกับแหล่งปลูกภาคกลางโดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล
• สกุลออนซิเดียม ไม่ เหมาะกับพื้นที่ฝนตกชุก
• สกุล ม็อคคาร่า แวนด้า และอะแรนด้า ปลูกได้ำกับทุกภาค
2. พันธุ์
2.1 การเลือกพันธุ์ ควรเลือกพันธุ์ที่เป็นที่นิยมของตลาดโดยมีลักษณะของพันธุ์ ที่ดี ดังนี้
ต้น ปลูกเลี้ยงง่าย ต้านทานโรค ต้นเจริญเติบโตเร็ว ต้นไม่สูงเกินไป มี ปล้องสั้น
ใบไม่ใหญ่มาก ออกดอกเร็วและออกตลอดปี
ช่อดอก ช่อยาวและ ตรง ลักษณะช่อสวยงาม ดอกเรียงเป็นระเบียบไม่ถี่หรือห่างเกินไป
ดอก ขนาดเหมาะสม สีสดใส กลีบดอกบานทน ไม่เปราะหักง่าย รูปทรงสมดุล
ไม่บิดเบี้ยว สวยงาม ไม่ร่วงจากช่อก่อนตัด
2.2 พันธุ์ที่นิยมปลูก
สกุล หวาย
• ดอกสีขาว ขาว 4 เอ็น, ขาว 5 เอ็น, ขาวประวิทย์, ขาวสนาน
• ดอกสีชมพูเข้มปนขาว บอม 17, บอม 17 กลาย, บอมโจ, บอมโจแดง, บอมเอียสกุล, มีสทีน
• ดอกสีชมพูอ่อนขาว ซากุระ, แอนนา
• ดอกสอื่น ๆ ซาบิน (สีแดงเข้ม), แมรีแมค (สีเหลือง), บูรณะเจด (สีเขียวอ่อน)
สกุล ออนซิเดียม โกลเด้น ชาวเวอร์, โกเออร์ แรมเซย์
สกุลอะแรนด้า คริสติน, คริสตินเผือก, นอร่า
สกุลม็อคคาร่า เยลโล่ สตาร์, สายัณห์, พรรณี, คาลิปโซ่, จักก๊วน
สกุลแวนด้า วิรัตน์, รอธไชเดียน่า, สันทรายบลู, มนุวดี, โตเกียวบูล
3. การปลูก
3.1 เตรียมโรงเรือน
• ในสภาพพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มให้ทำคันดินล้อมโดยให้สูงกว่าระดับน้ำสูงสุด ในพื้นที่ โดยเฉลี่ยคันดินสูง 1.5 – 2.5 เมตร
ฐานกว้าง 7-10 เมตร ขึ้นกับสภาพพื้นที่
• ควรให้เหมาะสมกับชนิดกล้วยไม้ มีการพรางแสงตามความต้องการของกล้วยไม้ โรงเรือนจะต้องไม่มีร่มเงา
ควรได้รับแสงแดดตลอดวัน รายละเอียดแสดงในตารางที่ 1
ตารางที่ 1 รายเอียดของโรงเรือนของกล้วยไม้แต่ละสกุล
สกุล ความสูงโรงเรือน
(เมตร) การพรางแสง
(เปอร์เซ็นต์) วิธีการปลูก
หวาย 2.5 – 3.5 40 – 50 วางบนโต๊ะ
ออนซิเดียม 2.5 – 3.5 50 – 60 วางบนโต๊ะ
อะแรนด้า 3.0 – 4.0 40 – 50 วางบนโต๊ะ หรือปลูกบนแปลง
ม็อคคาร่า 3.0 – 4.0 40 – 50 วางบนโต๊ะ, ปลูกบนแปลง/แขวน
แวนด้า – ใบแบน
– ใบร่อง
– ใบกลม 3.0 – 4.0
3.0 – 4.0
– 50 – 60
20 – 30
0 แขวน, วางบนโต๊ะ
วางบนโต๊ะ, ปลูกบนแปลง
ปลูกบนแปลง
.
เตรียมโรงเรือน
• ใช้เสาคอนกรีตหรือเสาไม้ หรือเสาเหล็กตามความเหมาะสมของพื้นที่และความ รุนแรงของกระแสลม
หลังคาโรงเรือน
• ใช้ตาข่ายพรางแสงสีดำ โดยขึงให้ตึงติดกันทั้งผืน
• ในกรณีสวนขนาดกลางหรือใหญ่ หรือที่อากาศถ่ายเทไม่ดีให้เว้นระยะระว่าง ตาข่ายพรางแสงห่างกันประมาณ
15 ซม. หรือเหลื่อมกัน 50 ซม . ทุกระยะ 20-25 เมตรเพื่อระบายอากาศ
โต๊ะวางกล้วยไม้
• ต้องแข็งแรงเพียงพอกับการวางกล้วยไม้ และเครื่องปลูก
• ความกว้าง 1 เมตร สลับกับทางเดิน กว้าง 1 เมตร
• ความสูง 50-70 เซนติเมตร
• ความยาว 20-30 เมตร
พื้นโต๊ะ
• ใช้ไม้หรือคอนกรีต ตีตามแนวยาวเป็นขอบโต๊ะ
• ใช้ไม้หรือคอนกรีต วางเป็นคานขวางห่างกัน 50-75 เซนติเมตร
• ใช้ไม้ระแนงหรือสายโทรศัพท์ ขึงตามแนวยาวของ โต๊ะ จำนวน 4 คู่ เพื่อรองรับต้นกล้วยไม้และเครื่องปลูก
3.2 การเตรียมพันธุ์ ต้นพันธุ์ที่จะนำไปปลูก เลี้ยงเตรียมได้ 5 วิธีคือ
1. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
• นำลูกกล้วยไม้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ขนาดความ สูง 6-7 เซนติเมตร ไว้ในโรงเรือน กันฝนซึ่งพรางแสง 80%
7-10 วันก่อนออกจากขวด
• ใช้ลวดงอเป็นตะขอเกี่ยวส่วนโคนรากแล้วดึงออกจากขวด ด้วยความระมัด ระวัง หรือใช้ฆ้อนทุบก้นขวด
• ล้างวุ้นออกในน้ำสะอาด
• แยกต้นตามขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก เรียงในตะกร้าผึ่งในโรงเรือนกันฝนซึ่ง พรางแสง 80 เปอร์เซ็นต์ 1-2 สัปดาห์
• ย้ายลูกกล้วยไม้ลงปลูกใน กระถาง 1 นิ้ว โดยใช้ถ่านทุบหรือใยมะพร้าวหรือกาบมะพร้าวเป็นวัสดุ ปลูก ยกเว้นสกุล
แวนด้าไม่ต้องมีเครื่องปลูก
• วางไว้ในโรงเรือนอนุบาลกันฝนและพรางแสง 60-70 เปอร์เซ็นต์ 4-5 เดือนสำหรับสกุลวาย, สำหรับสกุลอื่น ๆ
10-18 เดือน จึงย้ายปลูกเพื่อตัดดอก
2. การ แยกลำ ใช้ในการขยายพันธุ์สกุลหวายและออนซิเดียม
• วิธีตัดแยกลำหน้า ควรทำขณะลำหน้ามีรากอ่อนเจริญออกมาพอสมควร ตัดแยก แบ่งให้กลุ่มลำหน้ามี 2-3 ลำ
7-10 วันก่อนออกจากขวด
• วิธีตัดแยกลำหลัง ตัดแบ่งให้กลุ่มลำหลังมี 1-2 ลำ ทำได้ 2 วิธี
1. ตัดชำไว้ในแปลงจนกว่าแตก หน่ออ่อน แล้วจึงแยกไปปลูก
2. ตัดแล้วนำไปปลูกได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องมีหน่อ
3. การ แยกตะเกียง ใช้สำหรับการขยายพันธุ์ในสกุลหวาย
• เป็นหน่อเล็ก ๆ แตกจากตาที่ส่วนบนของลำลูกกล้วยมีราก สามารถตัดแยกปลูกเป็นต้นได้
4. การตัดยอด ใช้ สำหรับการขยายพันธุ์ในสกุลอะแรนต้า ม็อคคาร่า และแวนด้า
• ตัดยอดให้มีความยาวพอประมาณ โดยมีรากสมบูรณ์ ติดมา 1-2 ราก
5. การ แยกหน่อแขนง ใช้สำหรับการขยายพันธุ์ในสกุลอะแรนต้า ม็อคคา ร่า และแวนด้า
• ตัดเมื่อหน่อแขนงมีรากสมบูรณ์ 1-2 ราก แล้วนำไปปลูก
3.3 การปลูก
1. สกุลหวาย
• ปลูกในกระบะกาบมะพร้าวอัด ขนาด 24 x 32 เซนติเมตร แต่ละกระบะจะปลูกหวายได้ 4 ต้น
(ประมาณ 12,000 – 15,000 ต้น/ไร่)
• ปลูกในกาบมะพร้าวพร้อมเปลือกแข็งที่วางหงาย โดยใช้ระยะปลูก 20 x 20 หรือ 20 x 25 ซม.
2. สกุล ออนซิเดียม
• ปลูกในกระถางขนาด 4 นิ้ว ใช้กาบมะพร้าวเป็นวัสดุปลูก ในพื้นที่มีฝนตก ชุกใช้ถ่านหรืออิฐแทนกาบมะพร้าว
3. สกุลอะแรนด้า ม็อคคาร่า และ แวนด้า
• ปลูกบนโต๊ะกล้วยไม้ที
แหล่งปลูก1.1 สภาพพื้นที่•ใกล้แหล่งน้ำและสะดวกต่อการนำมาใช้•การคมนาคมขนส่งสะดวกสามารถนำผลผลิตออกสู่ตลาดได้รวดเร็ว•ไม่อับลม1.2 สภาพภูมิอากาศ•มีฝนตกเฉลี่ยมิลลิเมตรต่อปีไม่เกิน 1,200•ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปี 50 – 70 เปอร์เซ็นต์•มีอุณหภูมิที่เหมาะสมเฉลี่ยตลอดปี 25 – 35° c1.3 แหล่งน้ำ•มีน้ำที่มีคุณภาพดีเหมาะสมกับกล้วยไม้•มีน้ำเพียงพอสำหรับใช้ตลอดฤดูปลูก1.4 แหล่งปลูกที่เหมาะสมเฉพาะสกุล•สกุลหวายเหมาะสมกับแหล่งปลูกภาคกลางโดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล •สกุลออนซิเดียมไม่เหมาะกับพื้นที่ฝนตกชุก•สกุลม็อคคาร่าแวนด้าและอะแรนด้าปลูกได้ำกับทุกภาค2. พันธุ์2.1 การเลือกพันธุ์ควรเลือกพันธุ์ที่เป็นที่นิยมของตลาดโดยมีลักษณะของพันธุ์ที่ดีดังนี้ต้นปลูกเลี้ยงง่ายต้านทานโรคต้นเจริญเติบโตเร็วต้นไม่สูงเกินไปมีปล้องสั้นใบไม่ใหญ่มากออกดอกเร็วและออกตลอดปีช่อดอกช่อยาวและตรงลักษณะช่อสวยงามดอกเรียงเป็นระเบียบไม่ถี่หรือห่างเกินไปดอกขนาดเหมาะสมสีสดใสกลีบดอกบานทนไม่เปราะหักง่ายรูปทรงสมดุลไม่บิดเบี้ยวสวยงามไม่ร่วงจากช่อก่อนตัด2.2 พันธุ์ที่นิยมปลูกสกุลหวาย•ดอกสีขาวขาว 4 เอ็น ขาว 5 เอ็น ขาวประวิทย์ ขาวสนาน•ดอกสีชมพูเข้มปนขาวบอม 17 บอม 17 กลาย บอมโจ บอมโจแดง บอมเอียสกุล มีสทีน•ดอกสีชมพูอ่อนขาวซากุระ แอนนา•ดอกสอื่นๆ ซาบิน (สีแดงเข้ม), แมรีแมค (สีเหลือง), บูรณะเจด (สีเขียวอ่อน)สกุลออนซิเดียมโกลเด้นชาวเวอร์ โกเออร์แรมเซย์สกุลอะแรนด้าคริสติน คริสตินเผือก นอร่าสกุลม็อคคาร่าเยลโล่สตาร์ สายัณห์ พรรณี คาลิปโซ่ จักก๊วน โตเกียวบูล สันทรายบลู รอธไชเดียน่า มนุวดี สกุลแวนด้าวิรัตน์3. การปลูก3.1 เตรียมโรงเรือน•ในสภาพพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มให้ทำคันดินล้อมโดยให้สูงกว่าระดับน้ำสูงสุดในพื้นที่โดยเฉลี่ยคันดินสูง 1.5 – 2.5 เมตรขึ้นกับสภาพพื้นที่ฐานกว้าง 7-10 เมตร•ควรให้เหมาะสมกับชนิดกล้วยไม้มีการพรางแสงตามความต้องการของกล้วยไม้โรงเรือนจะต้องไม่มีร่มเงาควรได้รับแสงแดดตลอดวันรายละเอียดแสดงในตารางที่ 1รายเอียดของโรงเรือนของกล้วยไม้แต่ละสกุลตารางที่ 1สกุลความสูงโรงเรือนการพรางแสง (เมตร)วิธีการปลูก (เปอร์เซ็นต์)วางบนโต๊ะหวาย 2.5 – 3.5 40 – 50วางบนโต๊ะ 50-60 ออนซิเดียม 2.5 – 3.5อะแรนด้า 3.0-4.0 40-50 วางบนโต๊ะหรือปลูกบนแปลงม็อคคาร่า 3.0-4.0 40-50 วางบนโต๊ะ ปลูกบนแปลง/แขวนแวนด้า – ใบแบน– ใบร่อง– ใบกลม 3.0 – 4.03.0-4.0– 50 – 6020 – 300 แขวน วางบนโต๊ะวางบนโต๊ะ ปลูกบนแปลงปลูกบนแปลง.เตรียมโรงเรือน•ใช้เสาคอนกรีตหรือเสาไม้หรือเสาเหล็กตามความเหมาะสมของพื้นที่และความรุนแรงของกระแสลมหลังคาโรงเรือน•ใช้ตาข่ายพรางแสงสีดำโดยขึงให้ตึงติดกันทั้งผืน•ในกรณีสวนขนาดกลางหรือใหญ่หรือที่อากาศถ่ายเทไม่ดีให้เว้นระยะระว่างตาข่ายพรางแสงห่างกันประมาณ90X120X60 15 ซม. หรือเหลื่อมกัน 50 90X120X60 ซม. ทุกระยะ 20-25 เมตรเพื่อระบายอากาศโต๊ะวางกล้วยไม้•ต้องแข็งแรงเพียงพอกับการวางกล้วยไม้และเครื่องปลูก•ความกว้าง 1 เมตรสลับกับทางเดินกว้าง 1 เมตร•ความสูง 50-70 เซนติเมตร •ความยาว 20-30 เมตรพื้นโต๊ะ•ใช้ไม้หรือคอนกรีตตีตามแนวยาวเป็นขอบโต๊ะ• ใช้ไม้หรือคอนกรีต วางเป็นคานขวางห่างกัน 50-75 เซนติเมตร
• ใช้ไม้ระแนงหรือสายโทรศัพท์ ขึงตามแนวยาวของ โต๊ะ จำนวน 4 คู่ เพื่อรองรับต้นกล้วยไม้และเครื่องปลูก
3.2 การเตรียมพันธุ์ ต้นพันธุ์ที่จะนำไปปลูก เลี้ยงเตรียมได้ 5 วิธีคือ
1. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
• นำลูกกล้วยไม้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ขนาดความ สูง 6-7 เซนติเมตร ไว้ในโรงเรือน กันฝนซึ่งพรางแสง 80%
7-10 วันก่อนออกจากขวด
• ใช้ลวดงอเป็นตะขอเกี่ยวส่วนโคนรากแล้วดึงออกจากขวด ด้วยความระมัด ระวัง หรือใช้ฆ้อนทุบก้นขวด
• ล้างวุ้นออกในน้ำสะอาด
• แยกต้นตามขนาด ใหญ่ กลาง เล็ก เรียงในตะกร้าผึ่งในโรงเรือนกันฝนซึ่ง พรางแสง 80 เปอร์เซ็นต์ 1-2 สัปดาห์
• ย้ายลูกกล้วยไม้ลงปลูกใน กระถาง 1 นิ้ว โดยใช้ถ่านทุบหรือใยมะพร้าวหรือกาบมะพร้าวเป็นวัสดุ ปลูก ยกเว้นสกุล
แวนด้าไม่ต้องมีเครื่องปลูก
• วางไว้ในโรงเรือนอนุบาลกันฝนและพรางแสง 60-70 เปอร์เซ็นต์ 4-5 เดือนสำหรับสกุลวาย, สำหรับสกุลอื่น ๆ
10-18 เดือน จึงย้ายปลูกเพื่อตัดดอก
2. การ แยกลำ ใช้ในการขยายพันธุ์สกุลหวายและออนซิเดียม
• วิธีตัดแยกลำหน้า ควรทำขณะลำหน้ามีรากอ่อนเจริญออกมาพอสมควร ตัดแยก แบ่งให้กลุ่มลำหน้ามี 2-3 ลำ
7-10 วันก่อนออกจากขวด
• วิธีตัดแยกลำหลัง ตัดแบ่งให้กลุ่มลำหลังมี 1-2 ลำ ทำได้ 2 วิธี
1. ตัดชำไว้ในแปลงจนกว่าแตก หน่ออ่อน แล้วจึงแยกไปปลูก
2. ตัดแล้วนำไปปลูกได้ทันทีโดยไม่จำเป็นต้องมีหน่อ
3. การ แยกตะเกียง ใช้สำหรับการขยายพันธุ์ในสกุลหวาย
• เป็นหน่อเล็ก ๆ แตกจากตาที่ส่วนบนของลำลูกกล้วยมีราก สามารถตัดแยกปลูกเป็นต้นได้
4. การตัดยอด ใช้ สำหรับการขยายพันธุ์ในสกุลอะแรนต้า ม็อคคาร่า และแวนด้า
• ตัดยอดให้มีความยาวพอประมาณ โดยมีรากสมบูรณ์ ติดมา 1-2 ราก
5. การ แยกหน่อแขนง ใช้สำหรับการขยายพันธุ์ในสกุลอะแรนต้า ม็อคคา ร่า และแวนด้า
• ตัดเมื่อหน่อแขนงมีรากสมบูรณ์ 1-2 ราก แล้วนำไปปลูก
3.3 การปลูก
1. สกุลหวาย
• ปลูกในกระบะกาบมะพร้าวอัด ขนาด 24 x 32 เซนติเมตร แต่ละกระบะจะปลูกหวายได้ 4 ต้น
(ประมาณ 12,000 – 15,000 ต้น/ไร่)
• ปลูกในกาบมะพร้าวพร้อมเปลือกแข็งที่วางหงาย โดยใช้ระยะปลูก 20 x 20 หรือ 20 x 25 ซม.
2. สกุล ออนซิเดียม
• ปลูกในกระถางขนาด 4 นิ้ว ใช้กาบมะพร้าวเป็นวัสดุปลูก ในพื้นที่มีฝนตก ชุกใช้ถ่านหรืออิฐแทนกาบมะพร้าว
3. สกุลอะแรนด้า ม็อคคาร่า และ แวนด้า
• ปลูกบนโต๊ะกล้วยไม้ที
การแปล กรุณารอสักครู่..
