Bhumibol was born at Cambridge Hosp

Bhumibol was born at Cambridge Hospital (now Mount Auburn Hospital) in Cambridge, Massachusetts, in the United States, on 5 December 1927.[30] He was the youngest son of Prince Mahidol Adulyadej, the Prince of Songkla, and his commoner wife Mom Sangwan (later Princess Srinagarindra, the Princess Mother). His U.S. birth certificate reads simply "Baby Songkla", as the parents had to consult his uncle, King Rama VII (Prajadhipok), then head of the House of Chakri, for an auspicious name. The king chose Bhumibol Adulyadej, meaning "strength of the land, incomparable power" (from Sanskrit: भूमिबल अतुल्यतेज, IAST: Bhūmibala Atulyatēja). His father was enrolled in the public health program at Harvard University, which is why Bhumibol was the only monarch to be born in the US.[31]:46–47 Bhumibol had an older sister, Princess Galyani Vadhana, and an older brother, Prince Ananda Mahidol.

Bhumibol came to Thailand in 1928, after his father obtained a certificate from Harvard. His father died of kidney failure in September 1929, when Bhumibol was less than two years old.[31]:62 He briefly attended Mater Dei school in Bangkok, but in 1933 his mother took her family to Switzerland, where he continued his education at the École nouvelle de la Suisse romande in Lausanne. In 1934 Bhumibol was given his first camera, which ignited his lifelong enthusiasm for photography.[31]:67 When Bhumibol's childless uncle Prajadhipok abdicated in 1935, his nine-year-old brother Ananda became the new King Rama VIII. However, the family remained in Switzerland and the affairs of the head of state were conducted by a regency council. They returned to Thailand for only two months in 1938. In 1942, Bhumibol became a jazz enthusiast, and started to play the saxophone, a passion that he kept throughout his life.[31]:73–74 He received the baccalauréat des lettres (high-school diploma with a major in French literature, Latin, and Greek) from the Gymnase Classique Cantonal of Lausanne, and by 1945 had begun studying sciences at the University of Lausanne, when World War II ended and the family was able to return to Thailand.[

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภูมิพลเกิดที่โรงพยาบาลเคมบริดจ์ (ตอนนี้เมาท์ออเบิร์นรพ) ในเคมบริดจ์ แมซซาซูเสท์ สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 5 1927 ธันวาคม [30] เขาเป็นลูกคนสุดท้องของเจ้ามหิดลภูมิพลอดุลยเดช เจ้าชายสงขลา และภรรยา commoner Sangwan แม่ (หลังศรีนคริน สมเด็จย่า) พระสูติบัตรสหรัฐฯ อ่านเพียงแค่ "เด็กสงขลา" มีพ่อแม่ไปปรึกษาลุง คิงราม VII (ปกเกล้า), หัวแล้วของบ้านของเทพ สำหรับชื่อที่เป็นมงคล เลือกกษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดช ความหมาย "ความแข็งแรงของแผ่นดิน พลังงานที่เปรียบมิได้" (จากภาษาสันสกฤต: भूमिबलअतुल्यतेज IAST: Bhūmibala Atulyatēja) พ่อของเขาถูกลงทะเบียนในโปรแกรมสาธารณสุขที่มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเหตุผลที่พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์เท่านั้นที่เกิดในสหรัฐอเมริกา [31]: 46 – 47 พระองค์ได้มีพี่สาว ลวง มีพี่ชาย เจ้าชายอานันทมหิดลพระองค์มาถึงไทยใน 1928 หลังจากที่พ่อของเขาได้รับใบรับรองจากฮาร์วาร์ด พ่อของเขาเสียชีวิตจากไตวายใน 1929 กันยายน เมื่อพระองค์มีอายุน้อยกว่าสองปี [31]: 62 เขาสั้น ๆ เข้าโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร แต่ในปี 1933 มารดาได้พาครอบครัวของเธอไปที่เขายังคงศึกษาของเขาที่ École nouvelle de la Suisse romande ในโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ ในปี 1934 พระองค์ได้รับกล้องแรกของเขา ซึ่งจุดประกายความกระตือรือร้นของเขาตลอดชีวิตการถ่ายภาพ [31]: 67 เมื่อลุงหมันของพระองค์ปกเกล้า abdicated ในปี 1935 พี่เก้าปีอนันดากลายเป็น พระราม VIII ใหม่ของ คิง อย่างไรก็ตาม ครอบครัวยังคงในสวิตเซอร์แลนด์ และได้ดำเนินการกิจการของประมุขแห่งรัฐ โดยสภารีเจนซี่ พวกเขากลับมายังประเทศไทยเพียง 2 เดือนในปี 1938 ในปี 1942 ภูมิพลกลายเป็น ผู้ที่ชื่นชอบดนตรีแจ๊ส และเริ่มเล่นแซกโซโฟน ความรักที่เขาเก็บตลอดชีวิตของเขา [31]: 73 – 74 เขารับ lettres des baccalauréat (มัธยมประกาศนียบัตรสาขาวรรณคดีฝรั่งเศส ละติน และภาษากรีก) จากการ Gymnase Classique แห่งโลซาน และ โดย 1945 เริ่มศึกษาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Lausanne เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และครอบครัวได้กลับมาประเทศไทย [

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิพลเกิดที่เคมบริดจ์โรงพยาบาล (ตอนนี้โรงพยาบาลเมาท์ออเบิร์น) ในเคมบริดจ์, แมสซาชูเซตในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 1927 [30] เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องของสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดชสงขลานครินทร์และภรรยาของเขาปุถุชนหม่อมสังวาลย์ (ต่อมาเจ้าหญิงศรีนครินแม่) สูติบัตรสหรัฐของเขาอ่านเพียงแค่ "เด็กสงขลา" ในขณะที่พ่อแม่มีให้คำปรึกษาลุงของเขาพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ปกเกล้าเจ้าอยู่หัว) แล้วหัวของสภาจักรีสำหรับชื่อมงคล กษัตริย์เลือกภูมิพลอดุลยเดช, ความหมาย "ความแข็งแรงของที่ดินที่ใช้พลังงานที่เปรียบมิได้" (จากภาษาสันสกฤต: भूमिबलअतुल्यतेज, IAST: BhūmibalaAtulyatēja) พ่อของเขาเป็นที่ลงทะเบียนเรียนในโปรแกรมสุขภาพของประชาชนที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ซึ่งเป็นเหตุผลที่ภูมิพลเป็นพระมหากษัตริย์เท่านั้นที่จะเกิดในสหรัฐอเมริกา [31]:. 46-47 ภูมิพลมีพี่สาวกัลยาณิวัฒนาและพี่ชายคนโต เจ้าชายอานันทมหิดล.

ภูมิพลมาเมืองไทยในปี 1928 หลังจากที่พ่อของเขาได้รับใบรับรองจากฮาร์วาร์ พ่อของเขาเสียชีวิตจากโรคไตวายในเดือนกันยายน 1929 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอายุน้อยกว่าสองปี [31]:. 62 ชั่วครู่เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีในกรุงเทพฯ แต่ในปี 1933 แม่ของเขาเอาครอบครัวของเธอวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเขายังคงศึกษาของเขาที่ ในÉcole Nouvelle de la Suisse Romande ในโลซาน ในปี 1934 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลได้รับกล้องตัวแรกของเขาซึ่งจุดประกายความกระตือรือร้นของเขาตลอดชีวิตสำหรับการถ่ายภาพ [31]:. 67 เมื่อบุตรลุงภูมิพลปกเกล้าเจ้าอยู่หัวสละราชสมบัติในปี 1935 พี่ชายเก้าปีของเขาอนันดาก็กลายเป็นพระราชาองค์ใหม่พระรามแปด แต่ครอบครัวยังคงอยู่ในวิตเซอร์แลนด์และกิจการของหัวของรัฐได้ดำเนินการโดยสภาผู้สำเร็จราชการ พวกเขากลับมาเมืองไทยเพียงสองเดือนในปี 1938 ในปี 1942 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลกลายเป็นที่ชื่นชอบดนตรีแจ๊สและเริ่มที่จะเล่นแซกโซโฟน, ความรักที่เขาเก็บไว้ตลอดชีวิตของเขา [31]:. 73-74 เขาได้รับbaccalauréat des Lettres ( ประกาศนียบัตรมัธยมโรงเรียนที่มีสำคัญในวรรณคดีฝรั่งเศสละตินและกรีก) จาก Gymnase Classique Cantonal โลซานและ 1945 ได้เริ่มเรียนวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโลซานเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงและครอบครัวก็สามารถที่จะกลับไป ประเทศไทย.[

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกิดที่ รพ. ภูมิพล เคมบริดจ์ ( ตอนนี้โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น ) ใน Cambridge , Massachusetts , สหรัฐอเมริกา , วันที่ 5 ธันวาคม 2470 [ 30 ] เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องของเจ้าฟ้าชายมหิดลอดุยเดช , มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , และภรรยาของเขาสามัญชนแม่สังวาลย์ ( ต่อมาเจ้าหญิงสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จแม่ ) สหรัฐสูติบัตรอ่านเพียงแค่เด็ก " สงขลา " เป็นพ่อแม่ ต้องปรึกษาลุงของเขา พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ( 6-7 ) แล้วหัวของบ้านฯ สำหรับชื่อที่เป็นมงคล พระราชาทรงเลือกภูมิพลอดุลยเดช , ความหมาย " พลังของแผ่นดินที่หาที่เปรียบไม่ได้ พลัง " ( สันสกฤต : भूमिबलअतुल्यतेजสุดท้าย : BH , ยู mibala atulyat ēจา ) พ่อเรียน สาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นเหตุให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์เท่านั้นที่จะเกิดในสหรัฐอเมริกา . [ 31 ] : 46 - 47 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพี่สาว เจ้าหญิงสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และพี่ชาย เจ้าชายอานันทมหิดล .ภูมิพลมาเมืองไทยในปี 1928 หลังจากที่พ่อของเขาได้รับใบรับรองจากฮาร์วาร์ด พ่อของเขาเสียชีวิตจากไตล้มเหลวในเดือนกันยายน 1929 เมื่อภูมิพลน้อยกว่าสองปี [ 31 ] : เขาสั้นเข้าร่วมโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย โรงเรียนในกรุงเทพ แต่ในปี 1933 แม่เขาพาครอบครัวไปสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเขายังคงศึกษาของเขาที่เอกอลนูแวลล์ de la Suisse romande ในเมืองโลซานน์ . เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกล้องครั้งแรกของเขา ซึ่งจุดประกายความกระตือรือร้นตลอดชีวิตของเขาสำหรับการถ่ายภาพ [ 31 ] : 67 เมื่อภูมิพลไม่มีลูกลุง ) สละราชสมบัติในปี 1935 , ปีของเขาเก้าเก่าพี่อนันดาเป็นกษัตริย์องค์ใหม่ พระรามแปด อย่างไรก็ตาม ครอบครัวอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์ และกิจการของหัวหน้าของรัฐได้ดำเนินการโดย Regency council พวกเขากลับเมืองไทยแค่ 2 เดือน ในปี 1938 . ในปี 1942 , พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นแจ๊สที่ชื่นชอบและเริ่มเล่นแซกโซโฟน , ความหลงใหลที่เขาเก็บไว้ตลอดชีวิตของเขา [ 31 ] : 73 - 74 ) ที่เขาได้รับ baccalaur des lettres ( โรงเรียนมัธยมประกาศนียบัตรกับเอกในวรรณคดีฝรั่งเศสละตินและกรีก ) จาก gymnase Classique cantonal โลซานและ ในปี 1945 ได้เริ่มเรียนวิทยาศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยโลซานเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงและครอบครัวได้เดินทางกลับประเทศไทย .