Starch/poly(l-lactic acid) (PLA) hy

Starch/poly(l-lactic acid) (PLA) hybrid foams were prepared by baking a mixture of starch, PLA, and other ingredients in a hot mold. The effects of relative humidity, storage time, PLA content, and type and content of added plasticizer (e.g. glycerol, urea, or ammonium chloride) on moisture and water absorption, mechanical properties, and enzymatic degradability of the as-prepared foams were investigated. In all of the conditions investigated, the ultimate tensile strength was shown to exhibit a maximum when the relative humidity was 42% RH (for a fixed storage time of 7 days) and when the storage time was 2 days (for a fixed relative humidity of 42% RH). Addition of PLA helped improve the ultimate tensile strength and the percentage of elongation at break of the hybrid foams. Resistance to water absorption of the starch/PLA hybrid foams was superior to that of pure starch foams. Lastly, enzymatic degradation tests in an α-amylase solution showed that addition of PLA improved the resistance to enzymatic degradability of the hybrid foams.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โฟมผสมแป้ง (ปลา) poly(l-lactic acid) ถูกจัดทำ โดยอบส่วนผสมของแป้ง ปลา และส่วนผสมอื่น ๆ ในแม่พิมพ์ร้อน ผลของความชื้นสัมพัทธ์ เก็บ ปลา เนื้อหา และชนิดและเนื้อหาเพิ่มกระด้างไนล (เช่นกลีเซอร ยูเรีย หรือแอมโมเนียมคลอไรด์) ดูดซึมน้ำและความชื้น คุณสมบัติทางกล และ degradability ของโฟมเตรียมเป็นเอนไซม์ในระบบถูกตรวจสอบ ในเงื่อนไขการตรวจสอบ แรงที่สุดที่แสดงแสดงได้สูงสุดเมื่อความชื้นสัมพัทธ์ RH 42% (สำหรับการเก็บถาวรเมื่อวันที่ 7 และเมื่อระยะเวลาการเก็บ 2 วัน (ที่คงความชื้นสัมพัทธ์ของ 42% RH) เพิ่มปลาช่วยปรับปรุงแรงสุดและเปอร์เซ็นต์ของ elongation ที่แบ่งของโฟมผสม ความต้านทานการดูดซึมของโฟมผสมแป้ง/ปลาน้ำเหนือกว่าของโฟมแป้งบริสุทธิ์ สุดท้ายนี้ ทดสอบเอนไซม์ในระบบย่อยสลายในการแก้ปัญหาด้วยกองทัพ-amylase พบว่า เพิ่มปลาปรับปรุงความต้านทานการ degradability ของโฟมผสมเอนไซม์ในระบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แป้ง / โพลี (กรดแลคติก l-) (PLA) โฟมไฮบริดได้รับการจัดทำขึ้นโดยอบส่วนผสมของแป้งปลาและส่วนผสมอื่น ๆ ในแม่พิมพ์ร้อน ผลกระทบของความชื้นสัมพัทธ์เวลาการเก็บรักษาเนื้อหา PLA และประเภทและเนื้อหาของพลาสติเพิ่ม (เช่นกลีเซอรอล, ยูเรียหรือแอมโมเนียมคลอไร) จากความชื้นและการดูดซึมน้ำสมบัติทางกลและการสลายตัวของเอนไซม์เป็นโฟมเตรียมถูกตรวจสอบ ในทุกสภาพการตรวจสอบความต้านทานแรงดึงที่ดีที่สุดถูกนำมาแสดงที่จะแสดงได้สูงสุดเมื่อความชื้นสัมพัทธ์ 42% RH (สำหรับระยะเวลาการเก็บถาวรของ 7 วัน) และเมื่อเวลาการเก็บรักษาเป็นเวลา 2 วัน (สำหรับความชื้นคงที่ 42% RH) นอกเหนือจากปลาช่วยปรับปรุงความต้านทานแรงดึงที่ดีที่สุดและร้อยละของความยืดเมื่อขาดของโฟมไฮบริด ความต้านทานต่อการดูดซึมน้ำของแป้ง / ปลาโฟมเป็นไฮบริดกว่าของโฟมแป้งบริสุทธิ์ สุดท้ายการทดสอบการย่อยสลายของเอนไซม์ในการแก้ปัญหาαอะไมเลสแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของปลาที่ดีขึ้นความต้านทานต่อการสลายตัวของเอนไซม์โฟมไฮบริด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แป้ง / พอลิ ( Name ) ( PLA ) โฟมผสมเตรียมโดยการอบส่วนผสมของแป้ง , ปลา , และวัสดุอื่น ๆในแม่พิมพ์ร้อน ผลของความชื้นสัมพัทธ์เวลากระเป๋าปลา ได้แก่ ชนิดและปริมาณของพลาสติไซเซอร์ ( เพิ่ม เช่น กลีเซอรอล ปุ๋ยยูเรีย หรือแอมโมเนียมคลอไรด์ ) ความชื้นและการดูดซึมน้ำ สมบัติเชิงกลการสลายตัวของเอนไซม์และของที่เตรียมโฟม คือ ในทั้งหมดของเงื่อนไขตรวจสอบ , ความต้านทานแรงดึงสูงสุดก็แสดงเพื่อแสดงสูงสุดเมื่อความชื้นสัมพัทธ์ 42 เปอร์เซ็นต์ ( สำหรับจัดเก็บข้อมูลถาวรเป็นเวลา 7 วัน ) และเมื่อกระเป๋าเวลา 2 วัน ( สำหรับการแก้ไขความชื้นสัมพัทธ์ 42 เปอร์เซ็นต์ )นอกจากนี้ปลาช่วยปรับปรุงความต้านทานแรงดึงสูงสุดและเปอร์เซ็นต์การยืดตัวที่จุดแตกหักของโฟมไฮบริด ต้านทานการดูดซึมน้ำของแป้ง / ปลาลูกผสมโฟมถูกกว่าของโฟมแป้งบริสุทธิ์ ท้ายนี้ การย่อยสลายของเอนไซม์แอลฟาอะไมเลสในการทดสอบโซลูชั่น พบว่า นอกจากปลาปรับปรุงความต้านทานต่อการสลายตัวด้วยเอนไซม์ของโฟมไฮบริด