It was the storm that changed his l

It was the storm that changed his life. And whenever he remembers the storm, Jeremy thinks how lucky he is.
Five years ago, on a cloudy, moonless night, Jeremy was driving home from work when the rain began. Then the thunder and lightning started. Jeremy, who wasn't bothered by storms, continued driving.
suddenly, when Jeremy drove around a bend, there it was - a huge tree trunk straight across the road. Jeremy guessed it must have been struck by lightning. But it looked as if the driver ahead of him hadn't been so lucky. Jeremy could see a damaged car underneath the fallen trunk.
That young woman, Debbie, is now Jeremy's wife, and it's all thanks to the storm!

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเป็นพายุที่มีการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขา และเมื่อใดก็ตามที่เขาจำได้ว่าพายุเจเรมีคิดว่าโชคดีที่เขาเป็น.
ห้าปีที่ผ่านมาบนเมฆเดือนมืด, เจเรมีก็ขับรถกลับบ้านจากการทำงานเมื่อฝนเริ่ม จากนั้นฟ้าร้องและฟ้าผ่าเริ่มต้น เจเรมีที่ไม่ได้รับการใส่ใจจากพายุยังคงขับรถ.
ทันใดนั้นเมื่อเจเรมีขับรถไปรอบโค้งมีมันเป็น - ลำต้นของต้นไม้ขนาดใหญ่ตรงข้ามถนน เจเรมี guessed มันต้องได้รับการฟ้าผ่า แต่มันดูราวกับว่าคนขับข้างหน้าของเขาไม่ได้รับโชคดีอย่างนั้น เจเรมีจะได้เห็นรถยนต์ที่เสียหายอยู่ใต้ลำตัวลดลง.
ที่หญิงสาวเด็บบี้อยู่ในขณะนี้ภรรยาของเจเรมีและก็ขอบคุณทุกพายุ!

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นพายุที่เปลี่ยนชีวิตของเขา และเมื่อใดก็ตามที่เขาจำได้ พายุ เจเรมี่ คิดว่าเขาช่างเป็นผู้ชายที่โชคดีจริงๆ .
5 ปีที่แล้ว บนเมฆ คืนเดือนมืด เจเรมี่ก็ขับรถกลับบ้าน เมื่อฝนเริ่ม แล้วเสียงฟ้าร้องและสายฟ้าเริ่ม เจเรมี่ ที่ไม่ถูกรบกวนโดยพายุ แล้วขับต่อ
อยู่ๆเจเรมี่ขับรถรอบโค้งนั่นมัน -- ขนาดใหญ่ต้นไม้ลำต้นตรงข้ามถนน เจเรมี่ เดาได้ว่ามันต้องโดนฟ้าผ่า แต่ดูเหมือนว่าคนขับข้างหน้าเขาไม่ได้โชคดี เจเรมี่ได้เห็นความเสียหายรถยนต์ใต้ลดลงรถ
เด็กผู้หญิง , เด็บบี้ ตอนนี้เป็นภรรยาของเจเรมี และต้องขอบคุณพายุ !