The implementation of in-vehicle sy

The implementation of in-vehicle systems will require multilateral cooperation, as Honda’s Sue Bai explains to Colin Sowman.

Vehicle manufacturers will shape the future direction of in-vehicle ITS systems, but they can’t do it on their own. So to find out what they see on the horizon, and the obstacles they face, ITS International spoke to Sue Bai, principal engineer in the Automobile Technology Research Department with Honda R&D Americas. Not only does she play an important role in Honda’s US-based ITS research, she also chairs the SAE International DSRC Technical Committee which leads efforts to standardise safety related vehicle-to-vehicle (V2V) and vehicle-to-infrastructure (V2I) messages and data dictionary using J2735 and J2945(draft).

Over the next five to 10 years she says many vehicle manufacturers are expecting to be installing collision warning systems and other safety-related technology incorporating dedicated short range communications (DSRC). “If these systems can give two or three seconds warning of an impending incident, that would be useful,” she says. “But five to 10 seconds of heads-up to avoid getting into the last second imminent collision situation would be even better.” However, she adds the caveat that road-side infrastructure support such as DSRC equipment will be required to fully achieve the safety benefit.

She views the installation of roadside equipment as a ‘game changer’ for the vehicle manufacturers. “Without the roadside equipment, the in-vehicle systems that will be available would be less attractive to car buyers. We know that car buyers may not want to invest in such a system if they have the only vehicle on the road within 200 miles using this technology and are looking at ways to conquer that adoption issue.

“Although the safety benefit of incorporating V2V DSRC technology can be significant, when most people are buying a car they don’t do so thinking they will have an accident. Therefore short-range collision avoidance may not be that tempting a prospect. The majority of car buyers will drive for many years without having an accident but they will encounter traffic lights many times every day. So buyers would see the value in investing in a system that effectively meant traffic lights turn green just as they reached the intersection or tells them 100 metres from the junction that they won’t make the lights so back off the accelerator and save gas. The traffic light phase and timing information is also critical for warning a distracted driver from unintentionally running through a red light.”

Bai says that even with a small percentage of vehicles outfitted with the technology, the benefit could be spread among many drivers. “If one driver gets advanced information to reduce speed when approaching a set of traffic lights, then those following will also have to slow down. So not only does the vehicle outfitted with the technology pass through the junction without stopping, so do the others that are following - they also benefit.”

The same is true of a V2I system that avoids late lane changing by advising drivers which lane to select ahead of a junction, or automatically alerts drivers of stationary traffic around the next bend. Such technology would not only avoid many car accidents but also the subsequent traffic delays, personal injuries and the cost of clearing the wreckage.

She believes there are sound socio-economic reasons why road authorities, both commercial organisations and public bodies, should invest in DSRC infrastructure and sees European road operators, automotive OEMs and roadside equipment manufacturers as leading the way out of the current ‘which should come first’ situation. Indeed Bai would like to see similar initiation in the US pushing forward the inclusion of V2I systems.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การใช้งานของระบบรถยนต์จะต้องมีความร่วมมือพหุภาคี เป็นของฮอนด้าบางซื่อไบอธิบายให้ Colin Sowmanผู้ผลิตจะเป็นทิศทางในอนาคตของรถยนต์ของระบบ แต่พวกเขาไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง เพื่อค้นหาสิ่ง ที่พวกเขาเห็นบนเส้นขอบฟ้า และพวกเขาต้องเผชิญอุปสรรค นานาชาติการพูดเพื่อไบบางซื่อ หลักวิศวกรในฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีรถยนต์กับบริษัทฮอนด้าอาร์แอนด์ดีอเมริกา ไม่เพียงแต่เธอไม่เล่นบทบาทสำคัญในการวิจัยของสหรัฐอเมริกาของฮอนด้า เธอยังเก้าอี้ SAE นานา DSRC กรรมการฝ่ายเทคนิคซึ่งนำไปสู่ความพยายามที่จะ standardise ความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องยานพาหนะไปรถยนต์ (V2V) และข้อความ (V2I) รถโครงสร้างพื้นฐาน และข้อมูลพจนานุกรมที่ใช้ J2735 และ J2945(draft) เหนือถัดไป 5 ถึง 10 ปีเธอกล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากคาดว่าจะสามารถติดตั้งระบบเตือนการชนและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องมีช่วงสั้นโดยเฉพาะสื่อสารอื่น ๆ (DSRC) "ถ้า ระบบเหล่านี้สามารถให้สอง หรือสามวินาทีของเหตุการณ์ใกล้ ที่เป็นประโยชน์ เธอกล่าว "แต่ห้าถึง 10 วินาทีของหน้าต่างแจ้งจะหลีกเลี่ยงในสถานการณ์จวนเจียนชนสองครั้งสุดท้ายจะดีขึ้น" อย่างไรก็ตาม เธอเพิ่ม caveat ว่า สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานด้านถนนเช่น DSRC อุปกรณ์จะต้องครบบรรลุประโยชน์ของความปลอดภัยเธอมองการติดตั้งอุปกรณ์ฉุกเฉินเป็นการ 'เปลี่ยน' สำหรับผู้ผลิตยานยนต์ โดยไม่มีอุปกรณ์ฉุกเฉิน ระบบรถยนต์ที่จะมีจะได้น่าสนใจน้อยให้กับผู้ซื้อรถ เรารู้ว่ารถที่ผู้ซื้ออาจไม่ต้องลงทุนในระบบดังกล่าวถ้ามียานพาหนะเดียวบนถนนภายใน 200 ไมล์ใช้เทคโนโลยีนี้ และหาวิธีที่จะพิชิตปัญหาที่ยอมรับ "แม้ว่าประโยชน์ความปลอดภัยของการผสมผสานเทคโนโลยี V2V DSRC สามารถสำคัญ เมื่อคนส่วนใหญ่จะซื้อรถที่พวกเขาไม่คิดเพื่อ จะได้เกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น ช่วงสั้น ๆ ชนหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ดึงดูดความโน้ม ส่วนใหญ่ผู้ซื้อรถขับรถเป็นเวลาหลายปี โดยไม่เกิดอุบัติเหตุ แต่พวกเขาจะพบไฟจราจรหลายครั้งทุกวัน ดังนั้น ผู้ซื้อจะเห็นค่าในการลงทุนในระบบที่มีประสิทธิภาพหมายถึง สัญญาณไฟจราจรสีเขียวเช่นเดียวกับพวกเขามาถึงสี่แยก หรือบอก 100 เมตรจากแยกที่พวกเขาจะไม่ทำให้ไฟนั้นกลับปิดคันเร่ง และประหยัดแก๊ส ข้อมูลขั้นตอนและระยะเวลาที่ไฟยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคำเตือนโปรแกรมควบคุมฟุ้งซ่านจากตั้งใจวิ่งผ่านแสงสีแดง" ไบกล่าวว่า แม้จะ มีขนาดเล็กเปอร์เซ็นต์ของยานพาหนะด้วยเทคโนโลยี ประโยชน์สามารถจะแพร่กระจายในหมู่โปรแกรมควบคุมจำนวนมาก "โปรแกรมควบคุมหนึ่งได้รับขั้นสูงข้อมูลเพื่อลดความเร็วเมื่อเข้าใกล้ชุดสัญญาณไฟจราจร จากนั้นจะต่อไปยังได้ช้าลง ดังนั้นไม่เพียงไม่ยานพาหนะด้วยเทคโนโลยีผ่านการเชื่อมต่อโดยไม่หยุด ทำให้คนอื่น ๆ ที่กำลังติดตาม - พวกเขายังได้รับประโยชน์" เดียวกันเป็นจริงของระบบ V2I ที่หลีกเลี่ยงปลายเลนการเปลี่ยน โดยแนะนำให้ขับเลนไหนเพื่อเลือก ก่อนถึงทางแยก หรือโดยอัตโนมัติแจ้งเตือนโปรแกรมควบคุมการจราจรหยุดนิ่งรอบโค้งถัดไป เทคโนโลยีดังกล่าวจะไม่หลีกเลี่ยงการอุบัติเหตุทางรถยนต์จำนวนมากแต่ยังการจราจรตามมาล่าช้า บาดเจ็บส่วนบุคคล และค่าใช้จ่ายของการล้างดสมุทรศาสตร์เท่านั้น เธอมีเหตุผลเศรษฐกิจที่เสียงทำไมถนนหน่วยงาน องค์กรเชิงพาณิชย์และทบวง ควรลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเห็นผู้ประกอบการยุโรปถนน DSRC ยานยนต์ Oem และผู้ผลิตอุปกรณ์ฉุกเฉินเป็นการนำวิธีจากปัจจุบันสถานการณ์ 'ซึ่งควรมาก่อน' แน่นอนไบอยากจะดูคล้ายกับการเริ่มต้นในสหรัฐอเมริกาผลักดันรวมของระบบ V2I

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การดำเนินงานของระบบในรถจะต้องมีความร่วมมือพหุภาคีเป็นของฮอนด้าซูตากใบอธิบายให้โคลิน Sowman.

ผู้ผลิตรถยนต์จะมีรูปร่างทิศทางในอนาคตของระบบในรถ แต่พวกเขาไม่สามารถทำมันได้ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะหาสิ่งที่พวกเขาเห็นบนขอบฟ้าและอุปสรรคที่พวกเขาเผชิญระหว่างประเทศของตนพูดกับซูตากใบวิศวกรหลักในรถยนต์เทคโนโลยีฝ่ายวิจัยกับฮอนด้า R & D อเมริกา ไม่เพียง แต่เธอมีบทบาทสำคัญในการของฮอนด้า US-based วิจัยเธอยังเป็นประธานการ SAE นานาชาติ DSRC คณะกรรมการเทคนิคซึ่งนำไปสู่ความพยายามที่จะสร้างมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะให้กับยานพาหนะ (V2V) และยานพาหนะให้กับโครงสร้างพื้นฐาน (V2I) ข้อความ และพจนานุกรมข้อมูลโดยใช้ J2735 และ J2945 (ร่าง).

ในอีกห้าปีถึง 10 ปีเธอบอกว่าผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากถูกคาดหวังว่าจะได้รับการติดตั้งระบบเตือนการชนกันและเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการใช้มาตรการการสื่อสารช่วงสั้น ๆ (DSRC) "ถ้าระบบเหล่านี้สามารถให้สองหรือสามวินาทีเตือนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกำลังจะเกิดขึ้นที่จะเป็นประโยชน์" เธอกล่าว " แต่ห้าถึง 10 วินาทีของหัวขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าไปในวินาทีสุดท้ายสถานการณ์การปะทะกันใกล้เข้ามาจะดียิ่งขึ้น." แต่เธอจะเพิ่ม caveat ที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานถนนด้านเช่นอุปกรณ์ DSRC จะต้องประสบความสำเร็จด้านความปลอดภัยอย่างเต็มที่ ได้รับประโยชน์.

เธอมองการติดตั้งอุปกรณ์ริมถนนเป็น changer เกม 'สำหรับผู้ผลิตยานพาหนะ "ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ริมถนนระบบในยานพาหนะที่จะสามารถใช้ได้จะน้อยน่าสนใจให้กับผู้ซื้อรถ เรารู้ว่าผู้ซื้อรถอาจไม่ต้องการที่จะลงทุนในระบบดังกล่าวหากพวกเขามีรถเพียงบนถนนภายใน 200 ไมล์โดยใช้เทคโนโลยีนี้และกำลังมองหาวิธีที่จะเอาชนะปัญหาการยอมรับว่า.

"แม้ว่าประโยชน์ด้านความปลอดภัยของการผสมผสานเทคโนโลยี V2V DSRC อย่างมีนัยสำคัญเมื่อคนส่วนใหญ่จะซื้อรถพวกเขาไม่ได้ทำเช่นนั้นคิดว่าพวกเขาจะมีอุบัติเหตุ ดังนั้นระยะสั้นหลีกเลี่ยงการชนอาจจะไม่เป็นที่ดึงดูดโอกาส ส่วนใหญ่ของผู้ซื้อรถจะขับรถเป็นเวลาหลายปีโดยไม่ต้องมีการเกิดอุบัติเหตุ แต่พวกเขาจะพบสัญญาณไฟจราจรหลายครั้งทุกวัน เพื่อให้ผู้ซื้อจะเห็นค่าในการลงทุนในระบบที่มีประสิทธิภาพหมายถึงสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเช่นเดียวกับที่พวกเขามาถึงสี่แยกหรือบอกพวกเขา 100 เมตรจากสถานีชุมทางที่พวกเขาจะไม่ทำให้ไฟเพื่อกลับออกคันเร่งและประหยัดน้ำมัน เฟสสัญญาณไฟจราจรและข้อมูลเวลานอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเตือนคนขับรถฟุ้งซ่านจากไม่ได้ตั้งใจวิ่งผ่านไฟแดง. "

ตากใบกล่าวว่าแม้จะมีขนาดเล็กเปอร์เซ็นต์ของยานพาหนะติดอาวุธด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับประโยชน์ที่อาจจะแพร่กระจายในหมู่ไดรเวอร์หลาย "ถ้าหนึ่งคนขับได้รับข้อมูลที่ทันสมัยเพื่อลดความเร็วเมื่อใกล้สัญญาณไฟจราจรแล้วเหล่านั้นต่อไปยังจะมีการชะลอตัวลง ดังนั้นไม่เพียง แต่รถติดอาวุธด้วยเทคโนโลยีผ่านทางแยกโดยไม่ต้องหยุดเพื่อทำคนอื่น ๆ ที่ได้รับการต่อไปนี้. - พวกเขายังได้รับประโยชน์ "

เช่นเดียวกับที่เป็นจริงของระบบ V2I ที่หลีกเลี่ยงเลนปลายเปลี่ยนโดยการให้คำปรึกษาแก่คนขับรถซึ่งช่องทางในการเลือก ข้างหน้าของการแยกหรือการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติไดรเวอร์ของการจราจรนิ่งรอบโค้งต่อไป เทคโนโลยีดังกล่าวจะไม่เพียง แต่หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจำนวนมากรถ แต่ยังล่าช้าการจราจรต่อมาได้รับบาดเจ็บส่วนบุคคลและค่าใช้จ่ายของการล้างซากปรักหักพัง.

เธอเชื่อว่ามีเหตุผลทางเศรษฐกิจและสังคมเสียงทำไมถนนเจ้าหน้าที่ทั้งองค์กรธุรกิจและหน่วยงานของรัฐควรลงทุนใน DSRC โครงสร้างพื้นฐานและเห็นผู้ประกอบการในยุโรปถนน OEMs ยานยนต์และผู้ผลิตอุปกรณ์ริมถนนเป็นสถานการณ์ที่นำวิธีการออกจากปัจจุบัน 'ซึ่งควรมาก่อน' อันที่จริงตากใบต้องการที่จะเห็นการเริ่มต้นที่คล้ายกันในสหรัฐผลักดันการรวมของระบบ V2I

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใช้ในระบบรถจะต้องใช้ความร่วมมือพหุภาคี เช่น ฮอนด้า ซูไป๋อธิบายกับโคลิน sowman .ผู้ผลิตรถยนต์จะรูปร่างในอนาคตทิศทางของรถในระบบของมัน แต่พวกเขาไม่สามารถทำมันได้ด้วยตัวเอง เพื่อค้นหาสิ่งที่พวกเขาเห็นบนขอบฟ้าและอุปสรรคที่พวกเขาเผชิญ ของนานาชาติคุยกับซูไป๋ ผู้อำนวยการวิศวกรในแผนกวิจัยด้วยเทคโนโลยีรถยนต์ฮอนด้า R & D อเมริกา เธอไม่เพียง แต่จะเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในรถเราตามการวิจัยของ เธอยังเก้าอี้เซนานาชาติ dsrc ทางเทคนิคคณะกรรมการซึ่งทำให้ความพยายามเพื่อให้เป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะยานพาหนะ ( v2v ) และยานพาหนะสาธารณูปโภค ( วีทูไอ ) ข้อความและพจนานุกรมข้อมูลและใช้ j2735 j2945 ( ร่าง )อีกห้าถึง 10 ปี เธอกล่าวว่าผู้ผลิตรถยนต์หลายต้องการติดตั้งระบบเตือนการชนและความปลอดภัยอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการสื่อสารระยะใกล้จะทุ่มเท dsrc ) " ถ้าระบบเหล่านี้สามารถให้สองหรือสามวินาทีเตือนของเหตุการณ์ที่ใกล้เข้ามา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ , " เธอกล่าว " แต่ 5 ถึง 10 วินาทีของหัวขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในวินาทีสุดท้ายใกล้การปะทะสถานการณ์จะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เธอเพิ่มข้อแม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานด้านถนนสนับสนุน เช่น อุปกรณ์ dsrc จะต้องเต็มที่ ให้เกิดความปลอดภัย ประโยชน์เธอมองการติดตั้งอุปกรณ์ริมถนนเป็น changer เกม " " สำหรับรถยนต์ผู้ผลิต " ไม่มีอุปกรณ์อยู่ริมถนนในรถยนต์ระบบที่จะสามารถใช้ได้จะน้อยที่น่าสนใจให้กับผู้ซื้อรถ เราทราบว่าผู้ซื้อรถอาจไม่ต้องลงทุนในระบบดังกล่าวหากพวกเขามียานพาหนะบนถนนในระยะ 200 ไมล์ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ และกำลังมองหาวิธีที่จะชนะการยอมรับปัญหา" แม้ว่าความปลอดภัย ประโยชน์ของการผสมผสานเทคโนโลยี dsrc v2v สามารถอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อคนส่วนใหญ่ซื้อรถ พวกเขาไม่ทำเช่นนั้นพวกเขาคิดว่าจะมีอุบัติเหตุ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการปะทะระยะสั้นอาจจะไม่ดึงดูดลูกค้า ส่วนใหญ่ของผู้ซื้อรถจะขับรถเป็นเวลาหลายปีโดยไม่มีอุบัติเหตุ แต่พวกเขาจะพบสัญญาณไฟจราจรทุกวัน หลายๆ ครั้ง ดังนั้น ผู้ซื้อจะเห็นค่าในการลงทุนในระบบที่มีประสิทธิภาพหมายถึงสัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเช่นเดียวกับพวกเขา ถึง สี่แยก หรือบอกพวกเขา 100 เมตรจากทางแยกที่พวกเขาจะไม่ทำให้ไฟเพื่อกลับปิดคันเร่งและประหยัดแก๊ส ระยะแสงการจราจรและข้อมูลระยะเวลายังวิกฤตเพื่อเตือนไดรเวอร์จากสมาธิตั้งใจวิ่งผ่านไฟแดง "ไป๋กล่าวว่า แม้จะมีขนาดเล็กเปอร์เซ็นต์ของยานพาหนะ outfitted กับเทคโนโลยี ผลประโยชน์อาจจะแพร่กระจายในหมู่มากไดรเวอร์ " ถ้าคนขับได้รับข้อมูลขั้นสูงเพื่อลดความเร็วเมื่อเข้าใกล้ชุดสัญญาณไฟจราจร จากนั้นผู้ที่ต่อไปนี้จะต้องชะลอตัวลง ดังนั้นไม่เพียง แต่รถ outfitted กับเทคโนโลยีผ่านชุมทางโดยไม่หยุด ทำให้คนอื่น ๆที่ติดตามพวกเขาได้ประโยชน์ "เดียวกันเป็นจริงของวีทูไอ ระบบที่หลีกเลี่ยงสายเลนเปลี่ยนจากหัวไดรเวอร์เลนซึ่งเลือกไปข้างหน้าของการแยกหรือการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติไดรเวอร์ของการจราจรหยุดนิ่งอยู่โค้งหน้า เทคโนโลยีดังกล่าวจะไม่เพียง แต่หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุรถหลาย แต่ยังมีความล่าช้าการจราจรตามมา บาดเจ็บส่วนบุคคลและค่าใช้จ่ายในการล้างซากเธอเชื่อว่ามีสาเหตุที่สังคมเสียงทำไมเจ้าหน้าที่ถนนทั้งองค์กรในเชิงพาณิชย์และสาธารณะร่าง ควรจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และผู้ประกอบการ dsrc เห็นถนนยุโรป รถยนต์ OEM และผู้ผลิตอุปกรณ์ชั้นนำริมถนนเป็นทางออกของสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งควรจะมาครั้งแรก " จริงๆอยากเห็นใบเริ่มต้นที่คล้ายกันในสหรัฐอเมริกาผลักดันการรวมของระบบวีทูไอ .