A botany researcher at New Zealand'

A botany researcher at New Zealand's University of Otago and colleagues have developed a an objective method for monitoring how vegetation reacts as climate new system to map the world's "biomes" -- large-scale vegetation formations -- that will provide changes.
The system uses satellite observations of the timing and intensity of vegetation activity and how this relates to temperature and soil moisture to classify the world's vegetation into 24 biome types.
Several other global biome maps exist, but the researchers' goal was to produce one that is not reliant on expert opinion or correlations between vegetation and climate.
Botany Professor Steven Higgins says they used their new classification scheme to examine change in biomes over time and found that 13 per cent of Earth's land surface changed its biome state over the last three decades.
"This suggests that substantial shifts in the character of Earth's surface are under way. Examples include swathes of Nambia and north-central Australia transitioning into drier biome categories and large expanses of cold limited systems shifting to more productive categories."
Professor Higgins says while global change is the likely driver of the biome shifts detected, their study did not attempt establish such causal links.
"Future studies could use this system to monitor biome change and attribute the causes of the change.
"Our system provides an objective way to classify the land surface, which is important not only for monitoring change but also for comparing the behaviour of ecosystems in different parts of the world. These comparisons are essential for understanding the drivers of ecosystem dynamics and how ecosystems might respond to change.
"If such comparisons are underpinned by a faulty biome classification we end up comparing apples with oranges."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พฤกษศาสตร์นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยโอตาโกและเพื่อนร่วมงานของนิวซีแลนด์ได้พัฒนาเป็นวิธีการวัตถุประสงค์สำหรับการตรวจสอบวิธีการตอบสนองพืชภูมิอากาศระบบใหม่กับแผนที่โลก "biomes" - formations พืชขนาดใหญ่ - ที่จะให้การเปลี่ยนแปลงระบบจะใช้ดาวเทียมสังเกตการณ์ระยะเวลาและความเข้มของกิจกรรมพืชและวิธีนี้เกี่ยวข้องกับความชื้นดินและอุณหภูมิในการจัดประเภทของโลกพืชในนิเวศน์วิทยา 24 ชนิดแผนที่นิเวศน์วิทยาระดับโลกหลายอื่นมีอยู่ แต่เป้าหมายของนักวิจัยคือการ ผลิตที่จะไม่พึ่งความเห็นผู้เชี่ยวชาญหรือความสัมพันธ์ระหว่างพืชและสภาพภูมิอากาศพฤกษศาสตร์ศาสตราจารย์ฮิกกินส์สตีเฟนกล่าวว่า พวกเขาใช้โครงร่างการจัดประเภทใหม่ของพวกเขาเพื่อตรวจสอบเปลี่ยนแปลง biomes ตลอดเวลา และพบว่า ร้อยละ 13 ของผิวดินโลกเปลี่ยนสภาพนิเวศน์วิทยากว่าสามทศวรรษ"นี่แสดงให้เห็นว่า กะพบในลักษณะของพื้นผิวโลกที่อยู่ภายใต้วิธี ตัวอย่างเช่น swathes Nambia และออสเตรเลียเหนือกลางเปลี่ยนเป็นประเภทแห้งนิเวศน์วิทยาและระบบจำกัดเย็นขยับไปมากกว่าประเภทกว้างใหญ่"ศาสตราจารย์ฮิกกินส์ว่า เปลี่ยนเป็น ไดรเวอร์ที่มีแนวโน้มของนิเวศน์วิทยากะตรวจพบ การศึกษาก็ไม่ได้พยายามสร้างการเชื่อมโยงเชิงสาเหตุดังกล่าว"อนาคตศึกษาสามารถใช้ระบบนี้ตรวจสอบเปลี่ยนแปลงนิเวศน์วิทยา และสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของแอตทริบิวต์"ระบบของเราให้ต้องจัดประเภทที่ดินพื้นผิว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงแต่ยังสำหรับการเปรียบเทียบพฤติกรรมของระบบนิเวศในส่วนต่าง ๆ ของโลก เปรียบเทียบเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจเกี่ยวกับไดรเวอร์ของระบบนิเวศ dynamics และว่าระบบนิเวศอาจตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง"ถ้าเปรียบเทียบดังกล่าวอยู่ภายใต้จรรยาบรรณ โดยการจำแนกผิดพลาดนิเวศน์วิทยา เราท้ายเปรียบเทียบแอปเปิ้ลกับส้ม"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิจัยพฤกษศาสตร์ของนิวซีแลนด์มหาวิทยาลัยโอทาโกและเพื่อนร่วมงานได้มีการพัฒนาวิธีการที่มีวัตถุประสงค์สำหรับการตรวจสอบวิธีการที่พืชทำปฏิกิริยาเป็นระบบใหม่สภาพภูมิอากาศของแผนที่โลก "biomes" - ขนาดใหญ่ก่อพืช -. ที่จะช่วยให้การเปลี่ยนแปลง
ใช้ระบบ สังเกตจากดาวเทียมของระยะเวลาและความรุนแรงของกิจกรรมพืชและวิธีการนี้เกี่ยวข้องกับอุณหภูมิและความชื้นในดินในการจำแนกพืชของโลกออกเป็น 24 ประเภทนิเวศน์วิทยา.
อื่น ๆ อีกหลายแผนที่นิเวศน์วิทยาทั่วโลกมีอยู่ แต่เป้าหมายของนักวิจัยคือการผลิตที่ไม่ได้พึ่งพา ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญหรือความสัมพันธ์ระหว่างพืชและสภาพภูมิอากาศ.
พฤกษศาสตร์ศาสตราจารย์สตีเฟนฮิกกินส์กล่าวว่าพวกเขาใช้รูปแบบการจัดหมวดหมู่ใหม่ของพวกเขาที่จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในชีวนิเวศเมื่อเวลาผ่านไปและพบว่าร้อยละ 13 ของพื้นผิวดินแดนของโลกต่อการเปลี่ยนสถานะนิเวศน์วิทยาของมันในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา.
"นี้แสดงให้เห็น ว่าการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในลักษณะของพื้นผิวของโลกอยู่ภายใต้วิธี. ตัวอย่าง ได้แก่ กอของ Nambia และภาคกลางออสเตรเลียก้าวเข้าสู่แห้งประเภทนิเวศน์วิทยาและกว้างใหญ่ขนาดใหญ่ Systems Limited เย็นขยับไปประเภทมีประสิทธิผลมากขึ้น. "
ศาสตราจารย์ฮิกกินส์กล่าวว่าในขณะที่การเปลี่ยนแปลงของโลกคือ คนขับรถที่มีแนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงนิเวศน์วิทยาที่ตรวจพบการศึกษาของพวกเขาไม่ได้พยายามสร้างการเชื่อมโยงสาเหตุดังกล่าว.
"การศึกษาในอนาคตสามารถใช้ระบบนี้ในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนิเวศน์วิทยาและแอตทริบิวต์สาเหตุของการเปลี่ยนแปลง.
" ระบบของเราให้เป็นวิธีที่มีวัตถุประสงค์ในการจำแนกพื้นผิวแผ่นดิน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญไม่เพียง แต่สำหรับการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลง แต่ยังสำหรับการเปรียบเทียบพฤติกรรมของระบบนิเวศในส่วนต่างๆของโลก เปรียบเทียบเหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับการทำความเข้าใจไดรเวอร์ของการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศและวิธีการที่ระบบนิเวศอาจตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง.
"ถ้าเปรียบเทียบดังกล่าวได้รับการสนับสนุนโดยการจัดหมวดหมู่นิเวศน์วิทยาผิดพลาดที่เราจบลงเมื่อเทียบกับแอปเปิ้ลส้ม."