Controversy over police conduct[edi

Controversy over police conduct[edit]
Although it is a sleepy town in the mountains, Pai has over the past decade generated an unusual amount of controversy (even for Thailand) concerning the conduct of local police, as well as the conduct of Thai drug enforcement police operating there. This is partially due to the proximity of Pai to drug routes from the Shan State in Burma. However, given the post-2000 rise in incidents involving foreign tourists, it is evident that other factors are also at work. Some examples of this clear long-term trend in Pai include:
On December 24, 2001, the local Pai police arrested and jailed the owner of Bebop Bar, with the rather dubious explanation that he was "letting people dance in a place of business not officially licensed as a disco."[9] After this event, both Bebop and Mountain Blue received additional discriminatory treatment in the form of illegal, or uneven, application of Thailand's closing-time laws. The so-called "dancing ban" by the Thai Police became a famous and well-known joke which business owners were still talking about years later.
Also in 2001, and again in 2003, Pai district officials and police began enforcing several illegal measures ostensibly aimed at increasing "safety" for the local tourists, specifically "a 'recommendation' via illegal denial of permits whereby all guesthouses must have walls made from a solid material, such as wood, gypsum, compressed fibre or cement"[10] rather than the cheaper and more traditional bamboo favored by many guesthouse owners and low-budget backpackers. Most locals suspected other motives were involved, including both a desire to "weed out" low-budget tourists and to encourage higher-priced construction that would generate higher construction kickbacks. Several locals pointed out uneven enforcement of these laws for different businesses, depending on personal relationships with the police or district officials.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความขัดแย้งเหนือจรรยาบรรณตำรวจ [แก้]แม้ว่าจะเป็นการเดินในภูเขา ปายได้ทศวรรษสร้างถกเถียงสำหรับประเทศไทย) เกี่ยวกับการดำเนินการของตำรวจท้อง เช่นเดียวกับพฤติกรรมของยาไทยบังคับตำรวจปฏิบัติการมีจำนวนผิดปกติขึ้น ได้บางส่วนเนื่องจากความใกล้ชิดของปายเส้นทางยาเสพติดจากรัฐฉานประเทศพม่า อย่างไรก็ตาม ได้รับเพิ่มขึ้น 2000 โพสต์ในเหตุการณ์เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ จะเห็นว่า ปัจจัยอื่น ๆ ทำงาน ตัวอย่างของแนวโน้มนี้ระยะยาวชัดเจนในปายรวมถึง:เมื่อ 24 ธันวาคม 2001 ปายเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม และติดเจ้าของบาร์ Bebop มีคำอธิบายค่อนข้างน่าสงสัยที่เขา "ให้คนเต้นรำในสถานที่ของธุรกิจที่ได้รับอนุญาตอย่างไม่เป็นแบบดิสโก้" [9] หลังจากเหตุการณ์นี้ Bebop และภูเขาสีฟ้ารับรักษาเลือกปฏิบัติเพิ่มเติมในรูปแบบของการประยุกต์กฎหมายเวลาปิดของประเทศไทยถูกต้อง หรือ ไม่สม่ำเสมอ เรียกว่า "เต้นรำ"บ้าน โดยตำรวจไทยกลายเป็น ตลกชื่อดัง และรู้จักกันดีซึ่งเจ้าของธุรกิจก็ยังคงพูดถึงปีต่อมาในปี 2001 และอีกครั้ง ใน 2003 เจ้าหน้าที่อำเภอปายและตำรวจก็เริ่มบังคับใช้มาตรการกฎหมายหลายอย่างเห็นได้ชัดเพื่อเพิ่มความปลอดภัย"สำหรับนักท่องเที่ยวท้องถิ่น โดยเฉพาะ"คำ 'แนะนำ' ผ่านกฎหมายปฏิเสธใบอนุญาตโดยเกสต์เฮาส์ทั้งหมดต้องมีผนังที่ทำจากวัสดุไม้ เช่นไม้ ยิปซัม ใยอัด หรือซีเมนต์" [10] แทนไม้ไผ่แบบดั้งเดิม และถูกกว่าที่ชื่นชอบ โดยมากเจ้าของเกสต์เฮาส์ราคาถูกและประหยัด ชาวบ้านส่วนใหญ่สงสัยว่า แรงจูงใจอื่น ๆ ได้มีส่วนร่วม รวมทั้งความปรารถนา "คัดออก" นักท่องเที่ยวงบประมาณต่ำ และ การสนับสนุนให้ก่อสร้างราคาสูงกว่าที่จะสร้างเงินใต้โต๊ะก่อสร้างสูงขึ้น หลายคนชี้ออกบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้สำหรับธุรกิจที่แตกต่าง ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรืออำเภอไม่สม่ำเสมอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทะเลาะวิวาทมากกว่าตำรวจดำเนิน [แก้ไข]
แม้ว่ามันจะเป็นเมืองที่เงียบสงบในภูเขาปายได้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาสร้างจำนวนเงินที่ผิดปกติของความขัดแย้ง (แม้สำหรับประเทศไทย) เกี่ยวกับการดำเนินการของตำรวจท้องที่เช่นเดียวกับการดำเนินการของการปราบปรามยาเสพติดของไทย ตำรวจปฏิบัติการมี นี่คือบางส่วนเนื่องจากความใกล้ชิดของปายเส้นทางยาเสพติดจากรัฐฉานในพม่า แต่ให้เพิ่มขึ้นหลังปี 2000 ในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะเห็นว่าปัจจัยอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีในที่ทำงาน ตัวอย่างบางส่วนของแนวโน้มระยะยาวที่ชัดเจนแบบนี้ในอำเภอปายรวมถึง:
เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2001 ตำรวจปายท้องถิ่นจับกุมและถูกตัดสินจำคุกเจ้าของแจ๊ชบาร์ที่มีคำอธิบายที่ค่อนข้างน่าสงสัยว่าคนที่เขาเป็น "ปล่อยให้เต้นในสถานที่ของธุรกิจไม่ได้ ได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการเป็นดิสโก้. "[9] หลังจากเหตุการณ์นี้ทั้งแจ๊ชและบลูเมาน์เทนได้รับการรักษาพินิจพิเคราะห์เพิ่มเติมในรูปแบบของผิดกฎหมายหรือไม่สม่ำเสมอ, การประยุกต์ใช้กฎหมายปิดตามเวลาของประเทศไทย ที่เรียกว่า "บ้านเต้นรำ" โดยตำรวจไทยกลายเป็นเรื่องตลกที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักซึ่งเจ้าของธุรกิจก็ยังคงพูดคุยเกี่ยวกับปีต่อมา.
นอกจากนี้ในปี 2001 และอีกครั้งในปี 2003 ปายเจ้าหน้าที่อำเภอและตำรวจเริ่มบังคับใช้มาตรการที่ผิดกฎหมายหลายอย่างเห็นได้ชัด มุ่งเป้าไปที่การเพิ่ม "ความปลอดภัย" สำหรับนักท่องเที่ยวในท้องถิ่นโดยเฉพาะ "ซึ่งเป็น 'คำแนะนำ' ผ่านการปฏิเสธที่ผิดกฎหมายของใบอนุญาตโดยเกสต์เฮ้าส์ทุกคนจะต้องมีผนังทำจากวัสดุที่เป็นของแข็งเช่นไม้, ยิปซั่มไฟเบอร์บีบอัดหรือซีเมนต์" [10] มากกว่า ราคาถูกและแบบดั้งเดิมมากขึ้นไม้ไผ่ได้รับการสนับสนุนโดยเจ้าของเกสท์เฮ้าส์แบ็คแพ็คจำนวนมากและงบประมาณต่ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่สงสัยว่าแรงจูงใจอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมทั้งความปรารถนาที่จะ "คัดออก" นักท่องเที่ยวงบประมาณต่ำและเพื่อส่งเสริมการก่อสร้างที่ราคาสูงกว่าที่จะสร้างสินบนก่อสร้างที่สูงขึ้น ชาวบ้านหลายคนชี้ให้เห็นการบังคับใช้ไม่สม่ำเสมอของกฎหมายเหล่านี้สำหรับธุรกิจที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ส่วนตัวกับตำรวจหรือเจ้าหน้าที่อำเภอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การโต้เถียงกับตำรวจนำ [ แก้ไข ]แม้ว่าจะเป็นเมืองง่วงนอนในภูเขา ปายมีกว่าทศวรรษที่ผ่านมาสร้างผิดปกติจำนวนมาก ( สำหรับประเทศไทย ) การโต้เถียงเกี่ยวกับความประพฤติของตำรวจท้องถิ่น ตลอดจนความประพฤติของไทยบังคับใช้ยาเสพติดตำรวจปฏิบัติการนั้น นี่คือบางส่วนเนื่องจากความใกล้ชิดของปาย เส้นทางยาจากรัฐฉานในพม่า อย่างไรก็ตาม , ได้รับ post-2000 เพิ่มขึ้นในเหตุการณ์ต่าง ๆที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ พบว่า ปัจจัยอื่น ๆยังทำงานอยู่ ตัวอย่างบางส่วนของแนวโน้มระยะยาวที่ชัดเจนในปาย รวมถึง :ในวันที่ 24 ธันวาคม 2544 ตำรวจจับกุมและกักขังปายท้องถิ่นเป็นเจ้าของ Bebop บาร์ กับค่อนข้างไม่แน่นอน อธิบายว่า เขาคือ " ให้คนเต้นในสถานที่ของธุรกิจไม่ได้เป็นใบอนุญาตเป็นดิสโก้ " [ 9 ] หลังจากเหตุการณ์นี้ทั้ง Bebop สีฟ้าและภูเขาที่ได้รับการรักษาในรูปแบบของการ เพิ่มเติม ผิดกฎหมาย หรือขนาดไม่เท่า การประยุกต์ใช้กฎหมายไทยปิดเวลา เรียกว่า " เต้นบัน " โดยตำรวจไทยได้กลายเป็นที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก โจ๊ก ซึ่งเจ้าของธุรกิจก็ยังคงพูดคุยเกี่ยวกับปีที่ผ่านมานอกจากนี้ ในปี 2001 และอีกครั้งในปี 2003 ปายอำเภอและตำรวจเริ่มบังคับใช้กฎหมายอย่างชัดเจนหลายมาตรการที่มุ่งเพิ่ม " ความปลอดภัย " สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ " " " ผ่านการแนะนำที่ผิดกฎหมายอนุญาต ซึ่งทั้งหมดต้องทำรีวิวผนังจากวัสดุแข็ง เช่น ไม้ ไฟเบอร์ซีเมนต์ ยิปซัมอัดหรือ " [ 10 ] มากกว่าและราคาถูกกว่าแบบดั้งเดิมมากขึ้นซึ่งเจ้าของเกสต์เฮาส์และไม้ไผ่หลายแบ็คแพ็คงบประมาณต่ำ ชาวบ้านส่วนใหญ่สงสัยแรงจูงใจอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งความปรารถนาที่จะ " วัชพืช " งบประมาณต่ำ นักท่องเที่ยว และเพื่อกระตุ้นให้ราคาสูงกว่าการก่อสร้างสูงกว่าการก่อสร้างที่จะสร้างเงิน . หลายท้องถิ่นชี้การบังคับใช้กฎหมายเหล่านี้สำหรับธุรกิจต่าง ๆไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ส่วนตัวกับตำรวจหรือเจ้าหน้าที่เขต