"ความสัมพันธ์" ของคนเราก็เปรียบเสมื

"ความสัมพันธ์" ของคนเราก็เปรียบเสมือนกับ "น้ำในแก้วใบหนึ่ง"
ถ้าเราทำไม่ดีกับใคร ก็เหมือนกับ "หยดหมึกแดง" ลงไปในแก้ว

ยิ่งทำไปนานๆ น้ำจากที่เคยใสก็จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราคิดอยากคืนดีกับใคร ก็เหมือนกับ "หยดน้ำเปล่า" ลงไปแทน

เมื่อ "น้ำในแก้ว" ได้มีสีแดงเจือปน ก็ยากที่จะกลับมาทำให้ "ใส" ดังเดิม

การ "ทำลาย" ความสัมพันธ์นั้นง่ายกว่า การ "ฟื้นฟู" หลายเท่านัก...

"หมึกแดง" หนึ่งหยด รุนแรงกว่า "น้ำเปล่า" หนึ่งหยด
การทำไม่ดีหนึ่งครั้งจึง ไม่เท่ากับ การทำดีหนึ่งครั้ง

"แมลงสาบ" หนึ่งตัวอยู่ในชามที่เต็มไปด้วย "เชอรี่"
ก็เพียงพอที่จะทำให้ "เชอรี่" เหล่านั้นดู "ไร้ค่า"

แต่ "เชอรี่"หนึ่งลูกปนในชามที่เต็มไปด้วย "แมลงสาบ"
กลับไม่ช่วยให้แมลงสาบเหล่านั้นดูดีขึ้นเลย

จากงานวิจัย พบว่า การที่คนเรารับรู้ความรู้สึกแย่ได้มากกว่าความรู้สึกดีนั้น เกิดจาก "สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด" ของบรรพบุรุษในอดีต ซึ่งติดตัว "มนุษย์" เราทุกคนมาจนถึงทุกวันนี้ ...

เพราะฉะนั้น "มนุษย์ทั้งหลาย" โปรดทำใจยอมรับ "จุดบอด" ของตน

จงเริ่ม "ทำดี" กับผู้คนรอบข้างไว้ให้เป็นนิสัย
รักษา "น้ำในแก้ว" ให้ใสแจ๋วอยู่เสมอ
ส่งต่อให้ "เพื่อน" ที่คุณแคร์มากที่สุดนะครับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"ความสัมพันธ์" ของคนเราก็เปรียบเสมือนกับ "น้ำในแก้วใบหนึ่ง"ลงไปในแก้วถ้าเราทำไม่ดีกับใครก็เหมือนกับ "หยดหมึกแดง"ยิ่งทำไปนาน ๆ น้ำจากที่เคยใสก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราคิดอยากคืนดีกับใครลงไปแทนก็เหมือนกับ "หยดน้ำเปล่า"เมื่อ "น้ำในแก้ว" ได้มีสีแดงเจือปนก็ยากที่จะกลับมาทำให้ "ใส" ดังเดิมตามหลัก "ทำลาย" ความสัมพันธ์นั้นง่ายกว่าตามหลัก "ฟื้นฟู" หลายเท่านัก..."หมึกแดง" หนึ่งหยดรุนแรงกว่า "น้ำเปล่า" หนึ่งหยดการทำไม่ดีหนึ่งครั้งจึงไม่เท่ากับการทำดีหนึ่งครั้ง"แมลงสาบ" หนึ่งตัวอยู่ในชามที่เต็มไปด้วย "เชอรี่"ก็เพียงพอที่จะทำให้ "เชอรี่" เหล่านั้นดู "ไร้ค่า"แต่ "เชอรี่" หนึ่งลูกปนในชามที่เต็มไปด้วย "แมลงสาบ"กลับไม่ช่วยให้แมลงสาบเหล่านั้นดูดีขึ้นเลยจากงานวิจัยพบว่าการที่คนเรารับรู้ความรู้สึกแย่ได้มากกว่าความรู้สึกดีนั้นเกิดจาก "สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด" ของบรรพบุรุษในอดีตซึ่งติดตัว "มนุษย์" เราทุกคนมาจนถึงทุกวันนี้...เพราะฉะนั้น "มนุษย์ทั้งหลาย" โปรดทำใจยอมรับ "จุดบอด" ของตนกับผู้คนรอบข้างไว้ให้เป็นนิสัยจงเริ่ม "ทำดี"รักษา "น้ำในแก้ว" ให้ใสแจ๋วอยู่เสมอที่คุณแคร์มากที่สุดนะครับส่งต่อให้ "เพื่อน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ความสัมพันธ์" ของคนเราก็เปรียบเสมือนกับ
ก็เหมือนกับ "หยดหมึกแดง" ลงไปในแก้วยิ่งทำไปนาน ๆ น้ำจากที่เคยใสก็จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเราคิดอยากคืนดีกับใครก็เหมือนกับ "หยดน้ำเปล่า" ลงไปแทนเมื่อ "น้ำในแก้ว" ได้มีสีแดงเจือปนก็ยากที่จะกลับมาทำให้ "ใส" ดังเดิมการ "ทำลาย" ความสัมพันธ์นั้นง่ายกว่าการ "ฟื้นฟู" หลายเท่านัก ... "หมึกแดง" หนึ่งหยดรุนแรงกว่า " น้ำเปล่า "หนึ่งหยดการทำไม่ดีหนึ่งครั้งจึงไม่เท่ากับการทำดีครั้งหนึ่ง"แมลงสาบ" หนึ่งตัวอยู่ในชามที่เต็มไปด้วย "เชอรี่" ก็เพียงพอที่จะทำให้ "เชอรี่" เหล่านั้นดู "ไร้ค่า " แต่ พบว่า เกิดจาก "สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด" ของบรรพบุรุษในอดีตซึ่งติดตัว "มนุษย์" เราทุกคนมาจนถึงทุกวันนี้ ... เพราะฉะนั้น "มนุษย์ทั้งหลาย" โปรดทำใจยอมรับ "จุดบอด" ของตนจงเริ่ม "ทำดี" "น้ำในแก้ว" ให้ใสแจ๋วอยู่เสมอส่งต่อให้ "เพื่อน" ที่คุณแคร์มากที่สุดนะครับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ความสัมพันธ์ " ของคนเราก็เปรียบเสมือนกับ " น้ำในแก้วใบหนึ่ง "
ถ้าเราทำไม่ดีกับใครก็เหมือนกับ " หยดหมึกแดง " ลงไปในแก้ว

ยิ่งทำไปนานๆน้ำจากที่เคยใสก็จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงมากขึ้นเรื่อยๆถ้าเราคิดอยากคืนดีกับใครก็เหมือนกับ " หยดน้ำเปล่า " ลงไปแทน

เมื่อ " น้ำในแก้ว " ได้มีสีแดงเจือปนก็ยากที่จะกลับมาทำให้ " ใส " ดังเดิม

การ " ทำลาย " ความสัมพันธ์นั้นง่ายกว่าการ " ฟื้นฟู " หลายเท่านัก . . . . . . .

" หมึกแดง " หนึ่งหยดรุนแรงกว่า " น้ำเปล่า " หนึ่งหยด
การทำไม่ดีหนึ่งครั้งจึงไม่เท่ากับการทำดีหนึ่งครั้ง

" แมลงสาบ " หนึ่งตัวอยู่ในชามที่เต็มไปด้วย " เชอรี่ "
ก็เพียงพอที่จะทำให้ " เชอรี่ " เหล่านั้นดู " ไร้ค่า A "

" เชอรี่ " หนึ่งลูกปนในชามที่เต็มไปด้วย " แมลงสาบ "

กลับไม่ช่วยให้แมลงสาบเหล่านั้นดูดีขึ้นเลยจากงานวิจัยพบว่าการที่คนเรารับรู้ความรู้สึกแย่ได้มากกว่าความรู้สึกดีนั้นเกิดจาก " สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด " ของบรรพบุรุษในอดีตซึ่งติดตัว " มนุษย์เราทุกคนมาจนถึงทุกวันนี้

" . . . . . . .เพราะฉะนั้น " มนุษย์ทั้งหลาย " โปรดทำใจยอมรับ " จุดบอด " ของตน

จงเริ่ม " ทำดี " กับผู้คนรอบข้างไว้ให้เป็นนิสัย
รักษา " น้ำในแก้ว " ให้ใสแจ๋วอยู่เสมอ
ส่งต่อให้ " เพื่อน " ที่คุณแคร์มากที่สุดนะครับ