looked for an A or an E (more shall

looked for an A or an E (more shallow processing). A
subsequent test reflection indicated that students
overall did not change their multimedia use while
studying after receiving the levels of processing
demonstration. Therefore, an in-class demonstration
aimed at promoting better metacognitive awareness of
the negative effect of media multitasking did not lead to
a change in students’ multitasking behavior.
What, then, could be effective and practical strategies
to curb students’ media multi-tasking while studying?
Rosen et al. (2013) findings on students’ anxiety when
unable to check devices clearly demonstrates that
removing them from the study environment is not
effective. Perhaps one of the most successful
strategies may be to encourage students to take
periodic breaks to engage in unrelated texting, social
networking, etc. during study sessions. Evidence
suggests that when students are given a one-minute
opportunity to check their devices for each 15-minutes
spent studying, their attention to the study task and
subsequent learning increased (Rosen et al., 2013). It
is likely that interventions along these lines must rely on
students’ metacognitive awareness. Interventions
aimed at increasing metacognitive abilities may hold the
key to promoting better study habits, by enabling
students to set aside their devices and recognize when
media multitasking is appropriate, and when it is
detrimental to learning outcomes

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดู A หรือ E มี (การประมวลผลเพิ่มเติมตื้น) Aทดสอบภายหลังสะท้อนแสดงที่นักเรียนโดยรวม ไม่เปลี่ยนการใช้มัลติมีเดียในขณะที่เรียนหลังจากได้รับระดับของการประมวลผลสาธิตการ ดังนั้น การสาธิตในชั้นเรียนที่มุ่งส่งเสริมดี metacognitive จิตสำนึกของไม่ได้นำผลกระทบของสื่อหลายการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของนักเรียนหลายอะไร แล้ว อาจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และการปฏิบัติการยั้งสื่อนักต่อสู้ในขณะที่เรียนหรือไม่พบโร et al. (2013) ในนักเรียนความวิตกกังวลเมื่อสามารถตรวจสอบอุปกรณ์ชัดเจนแสดงให้เห็นถึงที่ลบจากสิ่งแวดล้อมศึกษาไม่มีผลบังคับใช้ บางทีหนึ่งประสบความสำเร็จมากที่สุดกลยุทธ์อาจตั้งขึ้นเพื่อ ส่งเสริมให้นักเรียนใช้แบ่งเป็นครั้งคราวในไม่เกี่ยวข้อง texting สังคมฯลฯ เครือข่าย ในระหว่างรอบเวลาเรียน หลักฐานแนะนำที่เมื่อนักเรียนจะได้รับหนึ่งโอกาสที่จะตรวจสอบอุปกรณ์ของพวกเขาแต่ละ 15 นาทีใช้ในการเรียน ความสนใจที่จะศึกษางาน และภายหลังเรียนเพิ่มขึ้น (โรร้อยเอ็ด al., 2013) มันมีแนวโน้มว่า การแทรกแซงตามรายการเหล่านี้ต้องอาศัยนักเรียนรับรู้ metacognitive การแทรกแซงห้องเพิ่มความสามารถ metacognitive อาจค้างเพื่อส่งเสริมนิสัยการศึกษาดีขึ้น การเปิดใช้งานคีย์นักเรียนตั้งไว้อุปกรณ์ของพวกเขา และรับรู้เมื่อหลายสื่อที่เหมาะสม และเมื่อเป็นผลดีผลการเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มองหาหรือ E (เพิ่มเติมประมวลผลตื้น) สะท้อนภายหลังการทดสอบแสดงให้เห็นว่านักเรียนโดยรวมไม่ได้เปลี่ยนการใช้งานมัลติมีเดียของพวกเขาในขณะที่การศึกษาหลังจากที่ได้รับระดับของการประมวลผลการสาธิต ดังนั้นการสาธิตในชั้นเรียนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความตระหนักอภิปัญญาที่ดีขึ้นของผลกระทบเชิงลบของการทำงานหลายสื่อไม่ได้นำไปสู่​​ '. พฤติกรรมการทำงานแบบ multitasking การเปลี่ยนแปลงในนักเรียนอะไรแล้วอาจจะเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและการปฏิบัติเพื่อลดนักเรียนสื่อมัลติทาสกิ้งในขณะที่เรียน? Rosen, et al (2013) ผลการวิจัยเกี่ยวกับนักเรียนวิตกกังวลเมื่อไม่สามารถตรวจสอบอุปกรณ์อย่างชัดเจนแสดงให้เห็นว่าการลบพวกเขาจากสภาพแวดล้อมการศึกษาไม่ได้มีประสิทธิภาพ บางทีอาจจะเป็นหนึ่งในความสำเร็จมากที่สุดกลยุทธ์อาจจะเป็นเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนใช้เวลาหยุดพักเป็นระยะเพื่อมีส่วนร่วมในการส่งข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องทางสังคมเครือข่ายอื่นๆ ในระหว่างการประชุมการศึกษา หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเมื่อนักเรียนจะได้รับหนึ่งนาทีโอกาสที่จะตรวจสอบอุปกรณ์ของพวกเขาสำหรับแต่ละ15 นาทีใช้เวลาศึกษาให้ความสนใจกับงานการศึกษาและการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้นตามมา(Rosen et al., 2013) มันเป็นไปได้ว่าการแทรกแซงตามเส้นเหล่านี้จะต้องขึ้นอยู่กับการรับรู้อภิปัญญาของนักเรียน การแทรกแซงการมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มความสามารถในการอภิปัญญาอาจถือกุญแจสำคัญในการส่งเสริมพฤติกรรมการเรียนที่ดีขึ้นด้วยการทำให้นักเรียนในการตั้งสำรองอุปกรณ์ของพวกเขาและรับรู้เมื่อทำงานหลายสื่อที่มีความเหมาะสมและเมื่อมันเป็นอันตรายต่อผลการเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มองสำหรับ A หรือ E ( การประมวลผลตื้นมากกว่า ) แบบทดสอบ พบว่า นักเรียนสะท้อนตามมา

โดยรวมไม่เปลี่ยนแปลง มัลติมีเดีย การใช้ในขณะที่
เรียนหลังจากได้รับระดับของการประมวลผล
สาธิต ดังนั้น ในการสาธิตรุ่นที่มุ่งส่งเสริมดีกว่า

ความตระหนักรู้ของผลกระทบของสื่อ multitasking ไม่ทำให้
การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของนักเรียน multitasking .
อะไร แล้ว อาจจะมีประสิทธิภาพและกลยุทธ์ในทางปฏิบัติ
( นักเรียนสื่อมัลติทาสกิ้งในขณะที่เรียน
โรเซน et al . ( 2013 ) ผลต่อความวิตกกังวลของนักเรียนเมื่อ
ไม่สามารถตรวจสอบอุปกรณ์อย่างชัดเจนแสดงให้เห็นว่า
เอาออกจากการศึกษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้
ที่มีประสิทธิภาพ บางทีหนึ่งในความสำเร็จมากที่สุด
กลยุทธ์อาจจะสนับสนุนให้นักเรียนที่จะใช้
แบ่งงวดที่จะมีส่วนร่วมในการส่งข้อความที่ไม่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสังคม
, ฯลฯ ในช่วงที่เรียน หลักฐาน
แนะนําว่า เมื่อนักเรียนจะได้รับโอกาสหนึ่งนาที
เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์สำหรับแต่ละ 15 นาที
ใช้เวลาเรียน ความสนใจที่จะศึกษาและเรียนรู้งาน
ตามมาเพิ่มขึ้น ( โรเซน et al . , 2013 ) มัน
มีแนวโน้มว่า การแทรกแซงตามบรรทัดเหล่านี้ต้องพึ่งพา
นักเรียนความตระหนักรู้ . โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความสามารถทาง

อาจถือกุญแจที่จะส่งเสริมดีกว่าการเรียนโดยให้นักเรียนไว้

สื่ออุปกรณ์ของพวกเขาและยอมรับเมื่อได้อย่างเหมาะสม และเมื่อมันมี
detrimental เพื่อการเรียนรู้