2) Associating new language informa

2) Associating new language information to concept already in memory
3) Placing new words into a context, such as a meaningful sentence, conversation or story
4) Using semantic mapping
6) Representing sounds in memory in such a way that they can be linked with a target language word in order to remember it better
7) Using mechanical techniques, such as writing words on cards and moving cards from one stack to another when a new word is learned.
1) Some make lists and memorize them.
2) Some read a great deal and mark with an asterisk, a word they do not understand each time they meet it, thus creating their own frequency counts.
3) Some note down words in a short context, repeatedly writing down the same words until their meaning and use are assimilated.
4) Some make associations with words that sound or look similar in their native language, even though the meaning may be different.
6) Some read dictionaries.

In this study, memory strategies were selected to find the effect of using them both in storing (as evaluated by immediate post-test) and retaining vocabulary items for longer periods of time (as reflected in delayed post-test) which is the aim of learning.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2) เชื่อมโยงข้อมูลภาษาใหม่แนวอยู่ในหน่วยความจำ3) ใส่คำใหม่ในบริบท เช่นประโยคมีความหมาย บทสนทนา หรือเรื่องราว4) ใช้การแมปทางตรรก6) Representing เสียงในหน่วยความจำในลักษณะที่พวกเขาสามารถเชื่อมโยงกับคำภาษาเป้าหมายเพื่อจดจำดีขึ้น7) ใช้เทคนิคกล เช่นการเขียนคำในบัตรและย้ายไพ่จากกองหนึ่งไปยังอีกเมื่อมีการเรียนรู้คำใหม่1) บางทำรายการ และจดจำพวกเขาบางอ่านดีที่สุด และทำเครื่องหมาย ด้วยเครื่องหมายดอกจัน คำความเข้าใจแต่ละครั้งที่พวกเขาพบมัน ดังนั้น การสร้างความถี่ของตนเองไว้3) บางหมายเหตุลงในบริบทสั้น ๆ เขียนลงคำเดียวกันซ้ำ ๆ จนหลอมรวมความหมายและใช้คำ4) บางส่วนทำให้ความสัมพันธ์กับคำที่เสียง หรือมีลักษณะคล้ายในภาษาดั้งเดิม แม้ว่าความหมายอาจจะแตกต่างกัน6) บางคนอ่านพจนานุกรม ในการศึกษานี้ กลยุทธ์หน่วยความจำถูกเลือกเพื่อค้นหาผลของการใช้ทั้งในการจัดเก็บ (ตามที่ประเมิน โดยทันทีหลังการทดสอบ) และรักษาศัพท์ระยะเวลา (เป็นล่าช้าหลังการทดสอบ) ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของการเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2) การเชื่อมโยงข้อมูลภาษาใหม่กับแนวคิดอยู่แล้วในหน่วยความจำ
3) การวางคำใหม่ลงในบริบทเช่นประโยคที่มีความหมายการสนทนาหรือเรื่องราว
4) การใช้ความหมายของการทำแผนที่
6) เป็นตัวแทนของเสียงที่อยู่ในหน่วยความจำในลักษณะที่ว่าพวกเขาจะสามารถเชื่อมโยงกับ คำภาษาเป้าหมายในการสั่งซื้อที่จะจำมันได้ดี
7) โดยใช้เทคนิคกลเช่นการเขียนคำในบัตรและบัตรย้ายจากสแต็คไปยังอีกเมื่อคำใหม่ได้เรียนรู้.
1) บางคนทำรายการและจดจำพวกเขา.
2) อ่านบางส่วน การจัดการที่ดีและเครื่องหมายดอกจันคำพวกเขาไม่เข้าใจในแต่ละครั้งที่พวกเขาได้พบมันจึงสร้างนับความถี่ของตัวเอง.
3) บางลงบันทึกคำพูดในบริบทสั้น ๆ ซ้ำ ๆ เขียนลงคำเดียวกันจนความหมายและการใช้งานของพวกเขา มีการหลอมรวม.
4) บางคนทำให้สมาคมด้วยคำพูดที่ว่าเสียงหรือมีลักษณะคล้ายในภาษาพื้นเมืองของพวกเขาแม้ว่าความหมายอาจจะแตกต่างกัน.
6) บางพจนานุกรมอ่าน.

ในการศึกษานี้กลยุทธ์หน่วยความจำที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อหาผลของการใช้พวกเขาทั้งสอง ในการจัดเก็บ (ประเมินโดยทันทีหลังการทดสอบ) และรักษาคำศัพท์สำหรับระยะเวลานานของเวลา (ที่แสดงในล่าช้าหลังการทดสอบ) ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของการเรียนรู้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 ) เชื่อมโยงข้อมูลใหม่ ภาษา แนวคิด ในหน่วยความจำแล้ว3 ) การวางคำใหม่ในบริบท เช่น ประโยคที่มีความหมาย การสนทนา หรือ เรื่องราว4 ) วิเคราะห์ความหมาย6 ) แทนเสียงในความทรงจำในวิธีที่พวกเขาสามารถเชื่อมโยงกับเป้าหมายภาษาคำเพื่อที่จะจำมันได้ดี7 ) การใช้เทคนิคทางกล เช่น เขียนคำบนบัตรและย้ายไพ่จากกองอื่น เมื่อคำใหม่ที่ได้เรียนรู้1 ) ทำรายการและจดจำพวกเขา2 ) อ่านการจัดการที่ดีและเครื่องหมายที่มีเครื่องหมายดอกจัน , คำพูดที่พวกเขาไม่เข้าใจในแต่ละครั้งที่พวกเขาพบมัน ดังนั้น การสร้างนับความถี่ของพวกเขาเอง3 ) บันทึกลงคำในบริบทสั้น ๆเขียนข้อความเดิมๆ จนความหมายของพวกเขาและใช้เป็นเหมือน .4 ) ให้สมาคมกับคำที่ออกเสียงคล้ายกัน หรือดูในภาษาพื้นเมืองของพวกเขาแม้ว่าความหมายจะแตกต่างกัน6 ) อ่านพจนานุกรมในการศึกษานี้ได้เลือกกลยุทธ์หน่วยความจำเพื่อหาผลของการใช้พวกเขาในการจัดเก็บ ( ประเมินโดยการทดสอบการโพสต์ได้ทันที ) และรักษารายการคำศัพท์สำหรับระยะเวลานานของเวลา ( ที่สะท้อนในล่าช้าทดสอบโพสต์ ) ซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของการเรียนรู้