Climate change is making floods, fi

Climate change is making floods, fires and droughts more frequent and severe.

Climate change is intensifying the circulation of water on, above and below the surface of the Earth — causing drought and floods to be more frequent, severe and widespread.

Higher temperatures increase the amount of moisture that evaporates from land and water, leading to drought in many areas. Lands affected by drought are more vulnerable to flooding once rain falls.

As temperatures rise globally, droughts will become more frequent and more severe, with potentially devastating consequences for agriculture, water supply and human health. This phenomenon has already been observed in some parts of Asia and Africa, where droughts have become longer and more intense.

Hot temperatures and dry conditions also increase the likelihood of forest fires. In the conifer forests of the western United States, earlier snowmelts, longer summers and an increase in spring and summer temperatures have increased fire frequency by 400 percent and have increased the amount of land burned by 650 percent since 1970.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคือการทำให้น้ำท่วมไฟไหม้และภัยแล้งขึ้นบ่อยและรุนแรง

เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงก​​ารไหลเวียนของน้ำบนด้านบนและด้านล่างพื้นผิวของโลก -.. ก่อให้เกิดภัยแล้งและน้ำท่วมที่จะมีมากขึ้นบ่อยรุนแรงและแพร่หลาย

อุณหภูมิสูงเพิ่มปริมาณของความชื้นที่ระเหยจากดินและน้ำที่นำไปสู่​​ภัยแล้งในหลายพื้นที่ดินแดนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมเมื่อฝนตก.

เป็นอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกจะกลายเป็นภัยแล้งมากขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้นกับผลกระทบที่อาจทำลายล้างเพื่อการเกษตรน้ำประปาและสุขภาพของมนุษย์ ปรากฏการณ์นี้ได้รับการสังเกตแล้วในบางส่วนของเอเชียและแอฟริกาที่แห้งแล้งได้กลายเป็นอีกต่อไปและรุนแรงมากขึ้น.

อุณหภูมิที่ร้อนและแห้งยังเพิ่มโอกาสในการเกิดไฟไหม้ป่า ในป่าต้นสนในรัฐทางตะวันตกของสหรัฐ snowmelts ก่อนหน้านี้ในช่วงฤดู​​ร้อนอีกต่อไปและการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนได้เพิ่มความถี่ในการเกิดไฟไหม้ร้อยละ 400 และมีการเพิ่มจำนวนของที่ดินเผาโดยร้อยละ 650 ตั้งแต่ปี 1970

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สภาพคือการทำให้น้ำท่วม ไฟไหม้ และ droughts บ่อยมาก และรุนแรง

สภาพจะทวีความรุนแรงของการหมุนเวียนของน้ำบน ด้านบน และ ใต้ผิวโลก — เกิดภัยแล้งและน้ำท่วมจะขึ้นบ่อย รุนแรง และแพร่หลาย

อุณหภูมิสูงเพิ่มความชื้นที่ระเหยจากดินและน้ำ การนำไปสู่ภัยแล้งในหลายพื้นที่ ดินแดนที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งมีการน้ำท่วมเมื่อฝนตกการ

เป็นอุณหภูมิสูงขึ้นทั่วโลก droughts จะเป็น บ่อยขึ้น และ รุนแรงมากขึ้น ด้วยเห็นว่าอาจเกิดการเกษตร น้ำ และมนุษย์ สังเกตปรากฏการณ์นี้ในบางส่วนของเอเชียและแอฟริกา droughts ได้กลายเป็นที่อีกต่อไป และรุนแรงมากขึ้นแล้วด้วย

อากาศร้อนและแห้งสภาพยังเพิ่มโอกาสจากไฟป่า ในป่าสนของสหรัฐอเมริกาตะวันตก snowmelts ก่อนหน้า ฤดูร้อนอีกต่อไป และการเพิ่มขึ้นในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน อุณหภูมิเพิ่มความถี่ไฟ 400 เปอร์เซ็นต์ และได้เพิ่มจำนวนที่ดินที่เขียนตั้งแต่ปี 1970 โดยร้อยละ 650

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สภาพ อากาศเปลี่ยนทำให้น้ำท่วม,เพลิงและ ภัย แล้งบ่อยมากขึ้นและรุนแรง.

สภาพ อากาศเปลี่ยนมีความรุนแรงขึ้นได้การไหลเวียนของน้ำบน,เหนือและด้านล่างที่พื้นผิวของโลก - ทำให้เกิด ภัย แล้งและน้ำท่วมเพื่อเป็นบ่อยมากขึ้น,อย่างรุนแรงและแผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง.

สูงกว่า อุณหภูมิ ที่เพิ่มขึ้นของปริมาณความชื้นที่จะระเหยไปจากที่ดินและน้ำ,นำไปสู่ ภาวะ ภัย แล้งในหลายพื้นที่.ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหา ภัย แล้งมีความเสี่ยงมากขึ้นจะเกิดน้ำท่วมเมื่อฝนตก.

เนื่องจาก อุณหภูมิ สูงขึ้นทั่วโลก ภัย แล้งจะกลายเป็นบ่อยมากขึ้นและมากขึ้นอาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงด้วยความเสียหายจะเกิดขึ้นสำหรับพาวเวอร์ซัพพลายน้ำเพื่อการเกษตรและ สุขภาพ ของมนุษย์ ปรากฎการณ์นี้ได้รับการปฏิบัติในบางส่วนของเอเชียและแอฟริกาใต้ที่ฝนแล้งหรือได้กลายเป็นอีกต่อไปและความรุนแรงมากยิ่งขึ้น.

อยู่แล้วอากาศร้อนและแห้งและยังเพิ่มความเป็นไปได้ในจุดไฟป่า ในป่า Conifer ของสหรัฐอเมริกาตะวันตกที่ snowmelts ก่อนฤดูร้อนได้อีกต่อไปและเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนมี อุณหภูมิ เพิ่มขึ้นความถี่เพลิง 400 เปอร์เซ็นต์และมีจำนวนเพิ่มขึ้นตามจำนวนที่ดินถูกเผาใน 650 เปอร์เซ็นต์ในปี 1970