This work presents the influence of

This work presents the influence of alkali pretreatment on the enzymatic hydrolysis and efficiency of
anaerobic digestion of lignocellulosic biomass pretreated both in a one- (chemical or enzymatic) and
two-step (chemical and enzymatic) process. In this study two species of energy crops were used Miscanthus
giganteus and Sida hermaphrodita. The aim of this work was to compare biogas production and
methane yield during fermentation of pretreated and untreated energy crops. The results show that
alkali pretreatment is necessary for the effective biogas generation from plant material due to high
delignification level and significant hemicellulose degradation. The two-step hydrolysis process consisting
on the alkali and enzymatic step leads to the release of high concentrations of glucose (about
20 g L
1
). The best results were achieved for M. giganteus with biogas production yield of
421.5 Ndm3 kg TS
1 and with methane production yield of 257 Ndm3 kg TS

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานนี้แสดงอิทธิพลของด่าง pretreatment ในไฮโตรไลซ์เอนไซม์ในระบบและประสิทธิภาพของย่อยอาหารที่ไม่ใช้ออกซิเจนของชีวมวล lignocellulosic pretreated ทั้งสองในหนึ่ง- (เคมี หรือเอนไซม์ในระบบ) และสองขั้นตอน (เคมี และเอนไซม์ในระบบ) กระบวนการ ในการศึกษานี้ ใช้พลังงานพืชสองชนิดหญ้ามิสแคนทัสทัสช้างและสีดา hermaphrodita จุดมุ่งหมายของงานนี้คือการ เปรียบเทียบการผลิตก๊าซชีวภาพ และมีเทนที่ผลตอบแทนในระหว่างการหมักของพืชพลังงานที่ไม่ถูกรักษา และ pretreated ผลลัพธ์แสดงว่าpretreatment ด่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างก๊าซชีวภาพที่มีประสิทธิภาพจากวัสดุโรงงานเนื่องจากสูงdelignification hemicellulose ระดับ และที่สำคัญย่อยสลาย สองขั้นตอนไฮโตรไลซ์กระบวนการประกอบด้วยใบด่าง และเอนไซม์ในระบบขั้นตอนนำไปปล่อยของความเข้มข้นสูงของกลูโคส (เกี่ยวกับ20 g L 1). ความสำเร็จสุดในม.ทัสช้างกับผลตอบแทนของการผลิตก๊าซชีวภาพของ421.5 ผลผลิต Ndm3 กิโลกรัม TS 1 และ กับการผลิตมีเทนของ 257 กก. Ndm3 TS

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งานนี้มีการจัดอิทธิพลของการปรับสภาพด่างในการย่อยของเอนไซม์และประสิทธิภาพของการ
ใช้ออกซิเจนในการย่อยอาหารของชีวมวลลิกโนเซลลูโลสปรับสภาพทั้งในหนึ่ง (สารเคมีหรือเอนไซม์) และ
สองขั้นตอน (สารเคมีและเอนไซม์) กระบวนการ ในการศึกษานี้ทั้งสองสายพันธุ์ของพืชพลังงานที่ใช้ Miscanthus
Giganteus และสีดา hermaphrodita จุดมุ่งหมายของงานนี้คือการเปรียบเทียบผลิตก๊าซชีวภาพและ
ผลผลิตก๊าซมีเทนในระหว่างการหมักพืชพลังงานก่อนได้รับรังสีและได้รับการรักษา ผลปรากฏว่า
การปรับสภาพด่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับรุ่นที่มีประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพจากวัสดุจากพืชอันเนื่องมาจากที่สูง
ระดับ delignification เฮมิเซลลูโลสและการย่อยสลายอย่างมีนัยสำคัญ กระบวนการไฮโดรไลซิสองขั้นตอนประกอบด้วย
ขั้นตอนที่อัลคาไลและเอนไซม์จะนำไปสู่การเปิดตัวของความเข้มข้นสูงของน้ำตาลกลูโคส (ประมาณ
20 กรัม L 1
) ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ประสบความสำเร็จสำหรับเอ็ม Giganteus กับผลผลิตผลิตก๊าซชีวภาพจาก
421.5 กิโลกรัม Ndm3 TS 1 และมีอัตราผลตอบแทนจากการผลิตก๊าซมีเทนจาก 257 กก. Ndm3 TS?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานนี้แสดงอิทธิพลของการบำบัดเบื้องต้นต่อการย่อยสลายด้วยเอนไซม์ และประสิทธิภาพของ
การหมัก lignocellulosic ชีวมวลที่ผ่านทั้งสองในหนึ่ง - ( เคมีหรือเอนไซม์ )
2 ( สารเคมีและเอนไซม์ ) กระบวนการ ในการศึกษานี้ สองชนิดของพืชพลังงานที่ใช้และ giganteus หญ้ามิสแคนทัส
สีดา hermaphrodita .งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการผลิตก๊าซชีวภาพและ
อัตราผลิตก๊าซมีเทนระหว่างกระบวนการที่ได้รับ และพืชพลังงานดิบ ผลที่ได้แสดงให้เห็นว่า
ด่างก่อนจำเป็นสำหรับประสิทธิภาพก๊าซชีวภาพรุ่นจากวัสดุพืชเนื่องจากระดับสูงและใช้
) เฮมิเซลลูโลสลดลง สองขั้นตอนการย่อย
กระบวนการประกอบด้วยเกี่ยวกับด่างและก้าวไปสู่การปลดปล่อยเอนไซม์กลูโคสที่ความเข้มข้นสูง ( ประมาณ 20 กรัมต่อลิตร
1

) ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือทำม. giganteus กับการผลิตก๊าซชีวภาพต่อ
421.5 ndm3 กก TS
1 และผลผลิตก๊าซมีเทนจาก 257 ndm3 TS
กก.