Etymology[edit]The word "chon" orig

Etymology[edit]
The word "chon" originates from the Sanskrit word "jala" meaning water, and the word "buri" from Sanskrit "puri" meaning "town" or "city". Hence the name of the province literally means "city of water".

Geography[edit]
The province is on the Bay of Bangkok, the northern end of the Gulf of Thailand. The Khao Khiao mountain range stretches from the northwest to the southeast of the province, while the fertile plains of the north were long used for farming. In Laem Chabang, in the south of the province, is one of the few deep-water harbours of Thailand.

The provincial permanent legal population has risen at nearly 4% annually from 1,040,865 in 2000 to 1,554,365 in 2010.[3] There is a large floating population of long term residents (non-Thai) without permanent status, on perpetual tourist visa and/or migrant workers (legal or not), as well as heavy, short term tourist influxes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศัพทมูลวิทยา [แก้ไข]คำว่า "ชลบุรี" มีต้นกำเนิดมาจากคำสันสกฤต "ยะลา" ความหมายน้ำ หมาย word "บุรี" สันสกฤต "ภูริ" ความหมาย "เมือง" หรือ "เมือง" ดังนั้น ชื่อของจังหวัดอย่างแท้จริงหมายความว่า "ห้องน้ำ"[แก้ไข] ภูมิศาสตร์จังหวัดอยู่ในอ่าวของกรุงเทพ ตอนเหนือของอ่าวไทย เทือกเขาเขียวทอดยาวจากตะวันตกเฉียงเหนือไปตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัด ในขณะที่ราบอุดมสมบูรณ์ของภาคเหนือยาวใช้สำหรับทำการเกษตร ในแหลมฉบัง ในจังหวัด เที่ยวท่าเรือเชิงส่วนน้อยของประเทศไทยประชากรถาวรตามกฎหมายจังหวัดได้เพิ่มขึ้นเกือบ 4% ทุกปีจาก 1,040,865 ใน 2000 กับ 1,554,365 ในปี 2553 [3] ไม่มีประชากรลอยตัวขนาดใหญ่ยาวระยะคน (ไม่ใช่ของไทย) มีสถานะถาวร บนท่องเที่ยวถาวรวีซ่าและ/หรือย้ายถิ่นแรงงาน (ตามกฎหมาย หรือไม่), และ influxes ท่องเที่ยวระยะสั้น หนัก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นิรุกติศาสตร์ [แก้ไข]
คำว่า "ชลบุรี" มาจากคำภาษาสันสกฤต "รุ่งโรจน์" หมายถึงน้ำและคำว่า "บุรี" จากภาษาสันสกฤต "ปูรี" ความหมาย "เมือง" หรือ "เมือง" ดังนั้นชื่อของจังหวัดหมายถึง "เมืองแห่งน้ำ" ได้. ภูมิศาสตร์ [แก้ไข] จังหวัดที่อยู่ในอ่าวของกรุงเทพฯตอนเหนือสุดของอ่าวไทย ป่าเขาเขียวเทือกเขาทอดยาวจากทิศตะวันตกเฉียงเหนือไปยังทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดในขณะที่ที่ราบอุดมสมบูรณ์ของภาคเหนือที่ถูกใช้งานมานานสำหรับการทำฟาร์ม ในแหลมฉบังในตอนใต้ของจังหวัดที่เป็นหนึ่งในไม่กี่ท่าเรือน้ำลึกแห่งประเทศไทย. ประชากรจังหวัดทางกฎหมายถาวรได้เพิ่มขึ้นเกือบ 4% ต่อปีจาก 1,040,865 ในปี 2000 เพื่อ 1,554,365 ในปี 2010 [3] มีความเป็น ประชากรลอยขนาดใหญ่ของผู้อยู่อาศัยระยะยาว (ที่ไม่ใช่คนไทย) ที่ไม่มีสถานะถาวรในการขอวีซ่าท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและ / หรือแรงงานข้ามชาติ (ตามกฎหมายหรือไม่) เช่นเดียวกับหนักสั้น influxes ท่องเที่ยว