Many college students could not ima

Many college students could not imagine a day without updating their Twitter feeds or Facebook statuses, but according to a recent study led by researchers at the Miriam Hospital, using social media may impair academic performance.

The study was published online in the journal Emerging Adulthood last month.

Unlike past studies, Miriam Hospital researchers expanded the definition of social media to include “new media” like texting and social networking. They also included “traditional media,” like magazines and books.

Researchers tracked female first-year college students’ use of 11 forms of social media including television, movies, music, the Internet and video games over the course of an academic year, and found that they spend nearly 12 hours a day using social media on average. To collect their data, researchers administered surveys to nearly 500 first-year women at a northeastern university about their weekly media use. At the end of each semester, the women also reported their GPAs.

The study found a correlation between lower GPAs and higher social media use.

Researchers found that different types of media use correlated with different reported academic problems. For example, women who spent more time watching television and reading magazines reported lower academic confidence, while those who spent more time on social networking sites reported spending less time on academics, the study found.

Both academic confidence and academic behaviors may be mediating factors that affect GPA, the researchers wrote in the study.

But the study did not find a direct link between social media use and academic performance. “You can’t infer causality from our study because we have no experimental manipulation,” said lead author Jennifer Walsh, assistant professor in the Centers for Behavioral and Preventive Medicine at the Miriam Hospital. But researchers did control for past academic performance and demographic factors, she added. “We do think this is stronger evidence than just measuring the two things and saying that they are correlated,” Walsh said.

The researchers also found the use of some types of social media has beneficial effects, like helping adolescents establish a sense of identity and build networking skills. The study’s authors also noted that some forms of social media, like reading books and newspapers, did not correlate with lower academic performance.

The researchers chose to focus exclusively on first-year women after noticing potential trends in media use in a larger pool of data from a hospital study on first-year women’s health, Walsh said.

“We collected a lot of data from women about their substance abuse, their physical activity, their sexual health. And we noticed how much media these college women were using,” Walsh said. “We also realized that there hadn’t really been any recent comprehensive study of college media use.”

Some students found the study’s definition of social media different from their own.

“I always thought of social media as something where I put something out there, not as something I was reading for pleasure,” said Nick McGurk ’16.

Taylor DeRosa ’16 said she does not think the time she spends using social media affects her academic performance. “It’s that I need to use the time when I’m not using social media to work,” she said.

Many students also wanted to know more information about other variables that may have influenced the women in the study. “Twelve hours a day of social media use surprises me,” said Emma Strother ’15. “But I think other factors — like stress — contribute more to difficulties maintaining a GPA.”

The team of researchers hopes to conduct another study on men’s social media use in the future in order to compare the results, Walsh said.

SHARE ON FACEBOOK

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเรียนจำนวนมากสามารถจินตนาการวันโดยไม่ปรับปรุงตัวดึงข้อมูล Twitter หรือสถานะ Facebook ของพวกเขา แต่ตามการศึกษาล่าสุดที่นำ โดยนักวิจัยที่โรงพยาบาลมิเรียม ใช้สื่อสังคมออนไลน์อาจทำผลการศึกษาการศึกษาเผยแพร่ออนไลน์ใน Emerging วุฒิเดือนสุดท้ายของสมุดรายวันซึ่งแตกต่างจากที่ผ่านการศึกษา นักวิจัยโรงพยาบาลมิเรียมขยายคำจำกัดความของสังคมรวมถึง "สื่อใหม่" เช่น texting และเครือข่ายทางสังคม นอกจากนี้พวกเขายังรวม "ดั้งเดิมสื่อ เช่นนิตยสารและหนังสือของนักเรียนปีแรกหญิงติดตามนักวิจัยใช้แบบฟอร์มที่ 11 ของสังคมรวมถึงโทรทัศน์ ภาพยนตร์ เพลง อินเทอร์เน็ต และวิดีโอเกมในช่วงปีการศึกษา และพบว่า พวกเขาใช้เวลาเกือบ 12 ชั่วโมงโดยใช้สื่อทางสังคมโดยเฉลี่ย นักวิจัยจัดการสำรวจไปเกือบ 500 ปีก่อนผู้หญิงที่มหาวิทยาลัยอีสานเกี่ยวกับการใช้สื่อรายสัปดาห์เพื่อรวบรวมข้อมูล ในตอนท้ายของแต่ละภาค ผู้หญิงยังรายงานอื่น GPAs ของพวกเขาการศึกษาพบว่าความสัมพันธ์ระหว่างอื่น GPAs ล่างและใช้สื่อทางสังคมสูงนักวิจัยพบว่า การใช้สื่อชนิดต่าง ๆ correlated กับปัญหาต่าง ๆ รายงานการศึกษา ตัวอย่าง ผู้หญิงใช้เวลาดูโทรทัศน์ และอ่านนิตยสารรายงานล่างเพื่อความมั่นใจ ในขณะที่ใช้เวลาเพิ่มเติมในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่รายงานใช้เวลาน้อยลงในนักวิชาการ การศึกษาพบว่าความมั่นใจทางวิชาการและศึกษาพฤติกรรมอาจจะเป็นสื่อกลางปัจจัยที่มีผลต่อเกรดเฉลี่ย นักวิจัยเขียนในการศึกษาแต่การศึกษาไม่พบการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการใช้สื่อสังคมและผลการศึกษา "คุณไม่เข้าใจ causality จากเรา เพราะเรามีการจัดการไม่ทดลอง กล่าวว่า ผู้เขียนรอเจนนิเฟอร์วอลช์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ในศูนย์สำหรับพฤติกรรมและเวชศาสตร์ป้องกันโรงพยาบาลมิเรียม แต่นักวิจัยไม่ได้ควบคุมปัจจัยทางประชากรและผลการศึกษาที่ผ่านมา เขาเพิ่ม "เราคิดว่า นี่คือหลักฐานที่แข็งแกร่งกว่าเพียงสองสิ่งที่วัด และพูดว่า พวกเขามี correlated สวีกล่าวนักวิจัยพบการใช้บางชนิดของสื่อสังคมมีผลประโยชน์ เช่นช่วยวัยรุ่นสร้างความรู้สึกของตน และสร้างเครือข่ายทักษะ การศึกษาผู้เขียนสังเกตว่า บางรูปแบบของสื่อทางสังคม ชอบอ่านหนังสือและหนังสือพิมพ์ ไม่ได้เชื่อมโยงกับผลการศึกษาต่ำกว่านักวิจัยเลือกเน้นเฉพาะผู้หญิงปีแรกหลังจากสังเกตเห็นแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในสื่อที่ใช้ในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของข้อมูลจากโรงพยาบาลศึกษาสุขภาพสตรีปีแรก สวีกล่าว"เราเก็บรวบรวมข้อมูลจากสตรีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิสาร กิจกรรมของพวกเขาทางกายภาพ สุขภาพทางเพศ และเราสังเกตเห็นจำนวนสื่อที่ใช้ผู้หญิงวิทยาลัยเหล่านี้ สวีกล่าว "เรายังรู้ไม่ได้จริง ๆ มีการศึกษาครอบคลุมใด ๆ ล่าสุดวิทยาลัยสื่อใช้"Some students found the study’s definition of social media different from their own.“I always thought of social media as something where I put something out there, not as something I was reading for pleasure,” said Nick McGurk ’16.Taylor DeRosa ’16 said she does not think the time she spends using social media affects her academic performance. “It’s that I need to use the time when I’m not using social media to work,” she said.Many students also wanted to know more information about other variables that may have influenced the women in the study. “Twelve hours a day of social media use surprises me,” said Emma Strother ’15. “But I think other factors — like stress — contribute more to difficulties maintaining a GPA.”The team of researchers hopes to conduct another study on men’s social media use in the future in order to compare the results, Walsh said. SHARE ON FACEBOOK

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักศึกษาจำนวนมากไม่อาจจินตนาการวันโดยไม่มีการปรับปรุงฟีด Twitter ของพวกเขาหรือสถานะ Facebook แต่ตามการศึกษาที่ผ่านมานำโดยนักวิจัยที่โรงพยาบาลมิเรียมใช้สื่อทางสังคมอาจทำให้เสียผลการเรียน. การศึกษาได้รับการตีพิมพ์ออนไลน์ในวารสารเกิดใหม่วัยที่ผ่านมา เดือน. ซึ่งแตกต่างจากการศึกษาที่ผ่านมานักวิจัยโรงพยาบาลเรียมขยายความหมายของสื่อทางสังคมที่จะรวมถึง "สื่อใหม่" เช่นการส่งข้อความและเครือข่ายสังคม พวกเขายังรวมถึง "สื่อแบบดั้งเดิม" เช่นนิตยสารและหนังสือ. นักวิจัยติดตามการใช้งานหญิงคนแรกที่ปีนักศึกษาจาก 11 รูปแบบของสื่อสังคมรวมทั้งโทรทัศน์, ภาพยนตร์, เพลง, อินเทอร์เน็ตและวิดีโอเกมในช่วงปีการศึกษาและ พบว่าพวกเขาใช้เวลาเกือบ 12 ชั่วโมงต่อวันการใช้สื่อสังคมโดยเฉลี่ย ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของนักวิจัยยาสำรวจเพื่อผู้หญิงเกือบ 500 ปีแรกที่มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกี่ยวกับการใช้สื่อประจำสัปดาห์ ในตอนท้ายของแต่ละภาคการศึกษาที่ผู้หญิงยังมีรายงานผลการเรียนของพวกเขา. การศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างผลการเรียนที่ต่ำกว่าและสูงกว่าการใช้สื่อสังคม. นักวิจัยพบว่าแตกต่างกันในการใช้สื่อที่แตกต่างกันมีความสัมพันธ์กับการรายงานปัญหาทางวิชาการ ตัวอย่างเช่นผู้หญิงที่ใช้เวลาดูโทรทัศน์และอ่านนิตยสารรายงานต่ำกว่าความเชื่อมั่นของนักวิชาการในขณะที่ผู้ที่ใช้เวลามากขึ้นในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมรายงานการใช้เวลาน้อยลงในการนักวิชาการการศึกษาพบ. ทั้งสองความเชื่อมั่นของนักวิชาการและพฤติกรรมทางวิชาการอาจจะมีปัจจัย mediating ว่า เกรดเฉลี่ยส่งผลกระทบต่อนักวิจัยเขียนในการศึกษา. แต่การศึกษาไม่พบการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการใช้สื่อทางสังคมและผลงานทางวิชาการ "คุณไม่สามารถสรุปสาเหตุจากการศึกษาของเราเพราะเราไม่ได้มีการจัดการทดลอง" กล่าวว่าผู้เขียนนำเจนนิเฟอร์วอลช์ผู้ช่วยศาสตราจารย์ในศูนย์พฤติกรรมและเวชศาสตร์ป้องกันที่โรงพยาบาลมิเรียม แต่นักวิจัยได้ควบคุมผลการเรียนที่ผ่านมาและปัจจัยทางด้านประชากรศาสตร์ที่เธอเข้ามา "เราไม่คิดว่านี่เป็นหลักฐานที่แข็งแกร่งกว่าเพียงแค่การวัดทั้งสองสิ่งต่าง ๆ และบอกว่าพวกเขามีความสัมพันธ์" วอลช์กล่าวว่า. นักวิจัยยังพบว่าการใช้บางชนิดของสื่อทางสังคมมีผลประโยชน์เช่นการช่วยให้วัยรุ่นสร้างความรู้สึกของความเป็นตัวตนและ สร้างทักษะเครือข่าย ผู้เขียนศึกษานอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่าบางรูปแบบของสื่อสังคมเช่นการอ่านหนังสือและหนังสือพิมพ์ไม่ได้มีความสัมพันธ์กับผลการเรียนที่ต่ำกว่า. นักวิจัยเลือกที่จะมุ่งเน้นเฉพาะในผู้หญิงคนแรกปีหลังจากสังเกตเห็นแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นในการใช้งานสื่อในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของข้อมูล จากการศึกษาของโรงพยาบาลที่มีต่อสุขภาพผู้หญิงปีแรกของวอลช์กล่าว. "เราเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมากจากผู้หญิงเกี่ยวกับการใช้สารเสพติดของพวกเขา, การออกกำลังกายของพวกเขาสุขภาพทางเพศของพวกเขา และเราสังเกตเห็นว่าสื่อเหล่านี้มากผู้หญิงวิทยาลัยได้ใช้ "วอลช์กล่าวว่า "นอกจากนี้เรายังตระหนักว่ามีไม่ได้จริงๆใด ๆ การศึกษาที่ครอบคลุมที่ผ่านมาการใช้สื่อวิทยาลัย." นักเรียนบางคนพบความหมายของการศึกษาของสื่อทางสังคมที่แตกต่างจากของตัวเอง. "ผมคิดเสมอของสื่อทางสังคมเป็นสิ่งที่ผมนำสิ่งที่ออกมี ไม่เป็นสิ่งที่ฉันได้อ่านเพื่อความสุขของ "นิค '16 McGurk. กล่าวว่าเทย์เลอร์DeRosa '16 กล่าวว่าเธอไม่ได้คิดว่าเวลาที่เธอใช้เวลาการใช้สื่อสังคมส่งผลกระทบต่อผลการเรียนของเธอ "มันเป็นเรื่องที่ผมต้องใช้เวลาที่ฉันไม่ได้ใช้สื่อทางสังคมในการทำงาน" เธอกล่าว. นักเรียนหลายคนยังต้องการที่จะทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวแปรอื่น ๆ ที่อาจมีอิทธิพลต่อผู้หญิงในการศึกษา "สิบสองชั่วโมงต่อวันในการใช้สื่อทางสังคมที่น่าประหลาดใจฉัน" เอ็มม่า Strother '15 กล่าวว่า "แต่ผมคิดว่าปัจจัยอื่น ๆ ที่ชอบ - ความเครียด -. มีส่วนร่วมมากขึ้นในความยากลำบากในการรักษาเกรดเฉลี่ยเป็น" ทีมงานของนักวิจัยหวังที่จะดำเนินการศึกษาอื่นในผู้ชายใช้สื่อทางสังคมในอนาคตเพื่อเปรียบเทียบผลวอลช์กล่าว. Share on Facebook

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักศึกษาหลายคนอาจไม่คิดวันโดยไม่มีการปรับปรุง Twitter ของพวกเขาฟีดหรือ Facebook สถานะ แต่จากผลการศึกษาล่าสุดที่นำโดยนักวิจัยที่โรงพยาบาลมิเรียม การใช้สื่อสังคมอาจบั่นทอนประสิทธิภาพการปฏิบัติงานวิชาการ

การศึกษาถูกตีพิมพ์ออนไลน์ในวารสารใหม่เป็นเดือน

ไม่เหมือนที่ผ่านมา การศึกษานักวิจัยโรงพยาบาลมิเรียมขยายคำนิยามของสื่อทางสังคมจะรวม " สื่อ " ใหม่เช่นการส่งข้อความและเครือข่ายสังคม พวกเขายังรวม " สื่อแบบดั้งเดิม เช่น นิตยสาร และหนังสือ

นักวิจัยติดตามหญิงนักศึกษาชั้นปี ' ใช้สื่อสังคม 11 รวมถึง โทรทัศน์ ภาพยนตร์ เพลง และวิดีโอ เกม อินเตอร์เน็ต ผ่านหลักสูตรของปี วิชาการและพบว่า พวกเขาใช้เวลาเกือบ 12 ชั่วโมงต่อวันโดยใช้สื่อทางสังคมโดยเฉลี่ย เก็บข้อมูล , นักวิจัยและสำรวจไปเกือบ 500 หญิงชั้นปีที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกี่ยวกับการใช้สื่อรายสัปดาห์ของพวกเขา ในตอนท้ายของแต่ละภาคเรียน ผู้หญิงยังมีรายงานจีพีเอ .

ผลการศึกษาพบความสัมพันธ์ระหว่างต่ำและสูง มีการใช้สื่อสังคม .

นักวิจัยพบว่า ชนิดของสื่อที่ใช้ มีความสัมพันธ์กับปัญหาที่แตกต่างกันรายงานทางวิชาการ ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่ใช้เวลาดูโทรทัศน์และอ่านนิตยสารรายงานทางวิชาการ ความมั่นใจลดลง ในขณะที่ผู้ที่ใช้เวลามากขึ้นในเว็บไซต์เครือข่ายสังคมรายงานการใช้เวลาน้อยลงในนักวิชาการ พบ .

ทั้งความเชื่อมั่นด้านวิชาการและวิชาการพฤติกรรมอาจจะไกล่เกลี่ยปัจจัยที่มีผลต่อเกรดเฉลี่ย นักวิจัยเขียนในการศึกษา .

แต่การศึกษาไม่พบการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการใช้สื่อสังคมและวิชาการงาน " คุณไม่สามารถสรุปได้ว่าจากการศึกษาของเรา เพราะเราได้ทดลองจัดการ " นำผู้เขียน เจนนิเฟอร์ วอลช์