Anthracnose, caused by the fungus C

Anthracnose, caused by the fungus Colletotrichum gloeosporioides, is the most widespread and serious postharvest disease of many tropical fruits including mango, papaya, pitaya, and avocado. The most damaging phase of the disease begins as a quiescent infection, when the fruit is in the preclimacteric phase of development. Growth of the pathogen is resumed only after harvest when the fruit starts to ripen and postharvest anthracnose develops leading to significant decay losses during storage and marketing. The disease is traditionally controlled by synthetic chemical fungicides and hot water treatment, in the case of papaya and mango. However, when harvested fruits are treated with fungicides, there is greater likelihood of direct human exposure to them and of development of resistance in pathogens. This chapter brings to light the key emerging environmentally friendly techniques, in particular, use of edible coatings and essential oils. It is well recognized that there is a need to develop new and effective methods of controlling postharvest diseases that are perceived as safe by the public and pose negligible risk to human health and the environment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Anthracnose เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides เป็นโรคหลังการเก็บเกี่ยวอย่างกว้างขวาง และร้ายแรงที่สุดของผลไม้เมืองร้อนหลายที่รวมทั้งมะม่วง มะละกอ pitaya และอะโวคาโด ขั้นตอนการทำลายมากที่สุดของโรคเริ่มเป็นการติดเชื้อที่ไม่มีการทำ เมื่อผลไม้อยู่ในขั้นตอนการ preclimacteric ของการพัฒนา เจริญเติบโตของเชื้อโรคจะดำเนินต่อหลังจากเก็บเกี่ยวเมื่อผลเริ่มสุก และ anthracnose หลังการเก็บเกี่ยวพัฒนานำไปสู่การสูญเสียเสื่อมสลายที่สำคัญในระหว่างการเก็บและการตลาด ประเพณีมีควบคุมโรค โดยการสังเคราะห์สารเคมีเชื้อราและรักษาน้ำร้อน กรณีมะละกอและมะม่วง อย่างไรก็ตาม เมื่อเก็บเกี่ยวผลไม้ได้รับเชื้อรา มีโอกาสมากขึ้นของมนุษย์โดยตรงกับพวกเขา และพัฒนาความต้านทานในเชื้อโรค บทนี้นำแสงสำคัญเกิดกับสิ่งแวดล้อมเทคนิคการ โดยเฉพาะ ใช้เคลือบกินและน้ำมันหอมระเหย มันเป็นที่ยอมรับกันว่า มีความจำเป็นในการพัฒนาวิธีการใหม่ และมีประสิทธิภาพของการควบคุมโรคหลังการเก็บเกี่ยวที่มีการรับรู้เป็นความปลอดภัยสาธารณะ และก่อให้เกิดความเสี่ยงเล็กน้อยสุขภาพมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แอนแทรกโนที่เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides เป็นโรคหลังการเก็บเกี่ยวที่แพร่หลายมากที่สุดและร้ายแรงของผลไม้เมืองร้อนจำนวนมากรวมทั้งมะม่วงมะละกอแก้วมังกรและอะโวคาโด ขั้นที่อันตรายมากที่สุดของโรคเริ่มต้นการติดเชื้อนิ่งเมื่อผลไม้อยู่ในขั้นตอนของการพัฒนา preclimacteric การเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่จะกลับมาเฉพาะหลังการเก็บเกี่ยวเมื่อผลเริ่มสุกและหลังการเก็บเกี่ยวแอนแทรกโนพัฒนาที่นำไปสู่​​การสูญเสียผุอย่างมีนัยสำคัญระหว่างการเก็บรักษาและการตลาด โรคที่มีการควบคุมแบบดั้งเดิมโดยเชื้อราสารเคมีสังเคราะห์และการบำบัดน้ำร้อนในกรณีของมะละกอและมะม่วง แต่เมื่อผลไม้ที่เก็บเกี่ยวรับการรักษาด้วยสารฆ่าเชื้อรามีโอกาสมากขึ้นของการสัมผัสของมนุษย์โดยตรงกับพวกเขาและการพัฒนาของความต้านทานเชื้อโรคใน ในบทนี้จะนำมาสู่แสงที่สำคัญที่เกิดขึ้นใหม่เทคนิคการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สารเคลือบและกินน้ำมันหอมระเหย เป็นที่ยอมรับกันว่ามีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาวิธีการใหม่และมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคหลังการเก็บเกี่ยวที่ถูกมองว่าเป็นความปลอดภัยของประชาชนและมีความเสี่ยงน้อยมากต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคเกิดจากเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides , เป็นที่แพร่หลายมากที่สุดและร้ายแรงโรคหลังการเก็บเกี่ยวของผลไม้เขตร้อนมากมาย อาทิ มะม่วง มะละกอ แก้วมังกร และอะโวคาโด ที่สร้างความเสียหายมากที่สุด ระยะของโรคเริ่มเป็นเชื้อที่มี เมื่อผลไม้ในเฟส preclimacteric ของการพัฒนา การเจริญเติบโตของเชื้อต่อหลังจากเก็บเกี่ยวเมื่อผลเริ่มสุก และโรคหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อนำไปสู่การสูญเสียที่สำคัญในการพัฒนาจัดเก็บและการตลาด โรคถูกควบคุมแบบดั้งเดิมโดยสารเคมีสังเคราะห์ทางเคมีและการรักษาของน้ำร้อน ในกรณีของมะละกอและมะม่วง อย่างไรก็ตาม เมื่อเก็บเกี่ยวผลไม้จะได้รับการรักษาด้วยสารฆ่าเชื้อรา มีมากกว่าโอกาสโดยการสัมผัสพวกเขาและการพัฒนาในการต่อต้านเชื้อโรค บทนี้ทำให้แสงคีย์ใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการใช้เทคนิคการเคลือบและกินน้ํามันหอมระเหย มันเป็นอย่างดีได้รับการยอมรับว่า มีความต้องการที่จะพัฒนาวิธีการใหม่และมีประสิทธิภาพในการควบคุมโรคหลังการเก็บเกี่ยวที่มองว่าปลอดภัยของประชาชนและก่อให้เกิดไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม