การบวช เป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดยมีขั้นตอนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาผู้นั การแปล - การบวช เป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดยมีขั้นตอนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาผู้นั ไทย วิธีการพูด

การบวช เป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดย

การบวช เป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดยมีขั้นตอนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาผู้นับถือศาสนาต่างๆกลายเป็นนักบวชของศาสนาที่ตนนับถือ การบวชมักประกอบไปด้วยพิธีกรรมและแบบพิธีต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนการบวชเองนั้นก็มีความแตกต่างกันไปตามศาสนาและชื่อเรียกขาน ผู้ที่กำลังเตรียมเข้าสู่การบวชเรียกว่า ผู้เตรียมบวช (อังกฤษ: ordinand)
ในพระพุทธศาสนา เรียกการบวชว่าการอุปสมบท (บาลี: อุปสมฺปทา) ในสมัยพุทธกาลมี 8 อย่าง คือ
1-เอหิภิกขุอุปสัมปทา เป็นการบวชที่พระโคตมพุทธเจ้าประทานแก่พระสาวกบางองค์ด้วยพระองค์เอง ด้วยการตรัสว่า "เอหิ ภิกขุ แปลว่า เธอจงมาเป็นภิกษุเถิด" พระอัญญาโกณฑัญญะเป็นคนแรกและพระสุภัททะเป็นคนสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าทรงบวชด้วยวิธีนี้
2-ติสรณคมนูปสัมปทา เป็นการบวชโดยให้ผู้ขอบวชเปล่งวาจาต่อหน้าพระสาวกว่าขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสามครั้ง ปัจจุบันวิธีนี้ใช้ในการบรรพชาสามเณร
3-ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา เป็นการบวชโดยให้คณะสงฆ์ประชุมกันในอุโบสถ โดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งแจ้งว่ามีผู้ขอบวช เมื่อประกาศครบสี่ครั้งไม่มีพระรูปใดคัดค้าน ถือว่าผู้ขอบวชได้รับการยอมรับให้เป็นพระภิกษุ
4-ครุธัมมปฏิคคหณูปสัมปทา เป็นการบวชโดยที่พระพุทธเจ้าประทานครุธรรม 8 ประการ แก่พระนางมหาปชาบดีและสตรีชาวสากยะ 500 คน เมื่อพวกนางยอมรับครุธรรมก็ได้รับสถานะเป็นภิกษุณี
5-อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทา เป็นการบวชภิกษุณีโดยให้รับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุณีสงฆ์ก่อนครั้งหนึ่ง และจึงรับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุสงฆ์อีกครั้ง เมื่อผ่านการอุปสมบททั้งสองครั้งแล้วจึงเป็นภิกษุณี
6-โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าประทานพระโอวาทแก่พระมหากัสสปะ เมื่อท่านรับโอวาทแล้วก็เป็นพระภิกษุ
7-ปัญหาพยากรณูปสัมปทา เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาของสามเณรโสปาก
8-ทูเตนอุปสัมปทา เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงส่งทูตของพระองค์ไปบวชหญิงโสเภณีชื่ออัฑฒกาสี

อุปสมบท (อ่านว่า อุปะ-, อุบปะ-) แปลว่า การเข้าถึง คือการบวช เป็นศัพท์เฉพาะในศาสนาพุทธ ใช้หมายถึงการบวชเป็นภิกษุและภิกษุณี เรียกเต็มว่า อุปสมบทกรรม
อุปสมบทเป็นสังฆกรรมอย่างหนึ่ง ในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงวางหลักเกณฑ์และระเบียบปฏิบัติไว้รัดกุมและละเอียดมากโดยทรงบัญญัติให้สวดอนุสาวนาไม่ต้องระบุนามแต่ระบุบุเพียงโคตร(สกุล)ได้และสวดประกาศครั้งละ ๒-๓ รูปได้โดยมีอุปัชฌายะ และทรงอนุญาตให้นับอายุผู้บวชว่าครบ ๒๐ โดยคิดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ศาสนทายาทที่ดีไว้สืบสานพระพุทธศาสนา ในประเทศไทยจะถือเป็นประเพณีเลยว่า ลูกชายของครอบครัวเป็นพุทธต้องบวชสักครั้งในชีวิตเพื่อให้แม่เกาะชายผ้าเหลือง ชดใช้ค่าน้ำนม อันเป็นสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาโดยเปลี่ยนจากผู้นับถือพระรัตนตรัยขึ้นไปเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย
ประเภท
1-เอหิภิกขุอุปสัมปทาการอุปสมบทที่กล่าวคำว่าท่านจงมาเป็นภิกษุเถิด เป็นการอุปสมบทที่พระพุทธเจ้าบวชให้โดยพระองค์เอง
2-ติสรณคมนูปสัมปทาการอุปสมบทที่ผู้บวชกล่าวว่าพระรัตนตรัยเป็นที่พึง ที่รำลึก เป็นการอุปสมบทโดยพระเถระที่พระพุทธเจ้าทรงแต่งตั้งอนุญาตแทนพระองค์(เกิดจากการลำบากในการเดินทางมาทูลขอให้พระพุทธเจ้าทรงประทานอุปสมบทให้)
3-ญัตติจตุตถกรรมวาจาการอุปสมบทด้วยการเห็นชอบของสงฆ์ ตามพระบรมพุทธานุญาติ ที่ใช้กันในปัจจุบันนี้ (เกิดจากการที่พระพุทธเจ้าทรงมอบให้สงฆ์เป็นผู้ตัดสินใจในการให้อนุญาตกุลบุตรผู้มาขออุปสมบท)

มีการอุปสมบทที่พิเศษแตกต่างไปจากนี้ เช่น การประทานโอวาท ๓ ประการแก่พระมหากัสสปะ การให้อุปสมบทด้วยการประทานครุธรรม๘ประการ แก่พระนางกีสาโคตมี และทรงเปลี่ยนให้การบวชแบบติสรณคมนูปสัมปทา ให้เป็นรูปแบบการบวชของสามเณร สามเณรี สิกขมานา แทน
ส่วนคำว่า บรรพชา ซึ่งหมายถึงการบวชเป็นสามเณรสามเณรี สิกขมานา แม่ชี และพราหมณ์ (ผู้ถืออุโบสถศีล) ส่วนอาชีวัฏฐมกศีล บางคนอาจถือแล้วนุ่งขาวปฏิบัติธรรม แต่จะไม่ใช่การบรรพชาแต่เป็นเพียงการรับศีลที่สูงกว่าปัญจศีลเท่านั้น
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
การบวชเป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดยมีขั้นตอนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาผู้นับถือศาสนาต่างๆกลายเป็นนักบวชของศาสนาที่ตนนับถือการบวชมักประกอบไปด้วยพิธีกรรมและแบบพิธีต่างๆ ซึ่งขั้นตอนการบวชเองนั้นก็มีความแตกต่างกันไปตามศาสนาและชื่อเรียกขานผู้ที่กำลังเตรียมเข้าสู่การบวชเรียกว่าผู้เตรียมบวช (อังกฤษ: ordinand)ในพระพุทธศาสนาเรียกการบวชว่าการอุปสมบท (บาลี: อุปสมฺปทา) คือเชิงแบบอย่างทางในสมัยพุทธกาลมี 81-เอหิภิกขุอุปสัมปทาเป็นการบวชที่พระโคตมพุทธเจ้าประทานแก่พระสาวกบางองค์ด้วยพระองค์เองด้วยการตรัสว่า "เอหิภิกขุแปลว่าเธอจงมาเป็นภิกษุเถิด" พระอัญญาโกณฑัญญะเป็นคนแรกและพระสุภัททะเป็นคนสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าทรงบวชด้วยวิธีนี้ปัจจุบันวิธีนี้ใช้ในการบรรพชาสามเณรเป็นการบวชโดยให้ผู้ขอบวชเปล่งวาจาต่อหน้าพระสาวกว่าขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสามครั้ง 2 ติสรณคมนูปสัมปทา3 ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาเป็นการบวชโดยให้คณะสงฆ์ประชุมกันในอุโบสถโดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งแจ้งว่ามีผู้ขอบวชเมื่อประกาศครบสี่ครั้งไม่มีพระรูปใดคัดค้านถือว่าผู้ขอบวชได้รับการยอมรับให้เป็นพระภิกษุ4 ครุธัมมปฏิคคหณูปสัมปทาเป็นการบวชโดยที่พระพุทธเจ้าประทานครุธรรม 8 ประการแก่พระนางมหาปชาบดีและสตรีชาวสากยะ 500 คนเมื่อพวกนางยอมรับครุธรรมก็ได้รับสถานะเป็นภิกษุณี5 อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทาเป็นการบวชภิกษุณีโดยให้รับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุณีสงฆ์ก่อนครั้งหนึ่งและจึงรับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุสงฆ์อีกครั้งเมื่อผ่านการอุปสมบททั้งสองครั้งแล้วจึงเป็นภิกษุณี6 โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทาเป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าประทานพระโอวาทแก่พระมหากัสสปะเมื่อท่านรับโอวาทแล้วก็เป็นพระภิกษุ7 ปัญหาพยากรณูปสัมปทาเป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาของสามเณรโสปาก8-ทูเตนอุปสัมปทาเป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงส่งทูตของพระองค์ไปบวชหญิงโสเภณีชื่ออัฑฒกาสีอุปสมบท (อ่านว่าอุปะ- อุบปะ-) แปลว่าเข้าคือการบวชเป็นศัพท์เฉพาะในศาสนาพุทธใช้หมายถึงการบวชเป็นภิกษุและภิกษุณีเรียกเต็มว่าอุปสมบทกรรมอุปสมบทเป็นสังฆกรรมอย่างหนึ่ง ในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงวางหลักเกณฑ์และระเบียบปฏิบัติไว้รัดกุมและละเอียดมากโดยทรงบัญญัติให้สวดอนุสาวนาไม่ต้องระบุนามแต่ระบุบุเพียงโคตร(สกุล)ได้และสวดประกาศครั้งละ ๒-๓ รูปได้โดยมีอุปัชฌายะ และทรงอนุญาตให้นับอายุผู้บวชว่าครบ ๒๐ โดยคิดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ทั้งนี้เพื่อให้ได้ศาสนทายาทที่ดีไว้สืบสานพระพุทธศาสนา ในประเทศไทยจะถือเป็นประเพณีเลยว่า ลูกชายของครอบครัวเป็นพุทธต้องบวชสักครั้งในชีวิตเพื่อให้แม่เกาะชายผ้าเหลือง ชดใช้ค่าน้ำนม อันเป็นสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาโดยเปลี่ยนจากผู้นับถือพระรัตนตรัยขึ้นไปเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัยประเภท1-เอหิภิกขุอุปสัมปทาการอุปสมบทที่กล่าวคำว่าท่านจงมาเป็นภิกษุเถิด เป็นการอุปสมบทที่พระพุทธเจ้าบวชให้โดยพระองค์เอง2-ติสรณคมนูปสัมปทาการอุปสมบทที่ผู้บวชกล่าวว่าพระรัตนตรัยเป็นที่พึง ที่รำลึก เป็นการอุปสมบทโดยพระเถระที่พระพุทธเจ้าทรงแต่งตั้งอนุญาตแทนพระองค์(เกิดจากการลำบากในการเดินทางมาทูลขอให้พระพุทธเจ้าทรงประทานอุปสมบทให้)3-ญัตติจตุตถกรรมวาจาการอุปสมบทด้วยการเห็นชอบของสงฆ์ ตามพระบรมพุทธานุญาติ ที่ใช้กันในปัจจุบันนี้ (เกิดจากการที่พระพุทธเจ้าทรงมอบให้สงฆ์เป็นผู้ตัดสินใจในการให้อนุญาตกุลบุตรผู้มาขออุปสมบท)มีการอุปสมบทที่พิเศษแตกต่างไปจากนี้ เช่น การประทานโอวาท ๓ ประการแก่พระมหากัสสปะ การให้อุปสมบทด้วยการประทานครุธรรม๘ประการ แก่พระนางกีสาโคตมี และทรงเปลี่ยนให้การบวชแบบติสรณคมนูปสัมปทา ให้เป็นรูปแบบการบวชของสามเณร สามเณรี สิกขมานา แทนส่วนคำว่า บรรพชา ซึ่งหมายถึงการบวชเป็นสามเณรสามเณรี สิกขมานา แม่ชี และพราหมณ์ (ผู้ถืออุโบสถศีล) ส่วนอาชีวัฏฐมกศีล บางคนอาจถือแล้วนุ่งขาวปฏิบัติธรรม แต่จะไม่ใช่การบรรพชาแต่เป็นเพียงการรับศีลที่สูงกว่าปัญจศีลเท่านั้น
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
การบวช ๆ ผู้เตรียมบวช (อังกฤษ: ordinand)
ในพระพุทธศาสนาเรียกการบวชว่าการอุปสมบท (บาลี: อุปสมฺปทา) ในสมัยพุทธกาลมี 8 อย่างคือ
1- เอหิภิกขุอุปสัมปทา ด้วยการตรัสว่า "เอหิภิกขุแปลว่าเธอจงมาเป็นภิกษุเถิด" 8 ประการแก่พระนางมหาปชาบดีและสตรีชาวสากยะ 500 คน (อ่านว่าอุปะ - อุบปะ -) แปลว่าการเข้าถึงคือการบวชเป็นศัพท์เฉพาะในศาสนาพุทธ เรียกเต็มว่า ในพระพุทธศาสนา 2-3 รูปได้โดยมีอุปัชฌายะ 20 โดยคิดตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในประเทศไทยจะถือเป็นประเพณีเลยว่า ชดใช้ค่าน้ำนม ที่รำลึก ตามพระบรมพุทธานุญาติที่ใช้กันในปัจจุบันนี้ เช่นการประทานโอวาท 3 ประการแก่พระมหากัสสปะ แก่พระนางกีสาโคตมี เป็นรูปให้แบบหัวเรื่อง: การบวชของสามเณรสามเณรีสิกขมานาแทนส่วนคำว่าได้บรรพชา สิกขมานาแม่ชีและพราหมณ์ (ผู้ถืออุโบสถศีล) ส่วนอาชีวัฏฐมกศีลบางคนอาจถือแล้วนุ่งขาวปฏิบัติธรรม
















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
การบวชเป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดยมีขั้นตอนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาผู้นับถือศาสนาต่างๆกลายเป็นนักบวชของศาสนาที่ตนนับถือการบวชมักประกอบไปด้วยพิธีกรรมและแบบพิธีต่างไม่มีผู้ที่กำลังเตรียมเข้าสู่การบวชเรียกว่าผู้เตรียมบวช ( อังกฤษ :ผู้ )
ในพระพุทธศาสนาเรียกการบวชว่าการอุปสมบท ( บาลี : อุปสมฺปทา ) ในสมัยพุทธกาลมีอย่างความ
81 - เอหิภิกขุอุปสัมปทาเป็นการบวชที่พระโคตมพุทธเจ้าประทานแก่พระสาวกบางองค์ด้วยพระองค์เองด้วยการตรัสว่า " เอหิภิกขุแปลว่าเธอจงมาเป็นภิกษุเถิด "2 - ติสรณคมนูปสัมปทาเป็นการบวชโดยให้ผู้ขอบวชเปล่งวาจาต่อหน้าพระสาวกว่าขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสามครั้งปัจจุบันวิธีนี้ใช้ในการบรรพชาสามเณร
3 - ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาเป็นการบวชโดยให้คณะสงฆ์ประชุมกันในอุโบสถโดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งแจ้งว่ามีผู้ขอบวชเมื่อประกาศครบสี่ครั้งไม่มีพระรูปใดคัดค้านถือว่าผู้ขอบวชได้รับการยอมรับให้เป็นพระภิกษุ
4 - ครุธัมมปฏิคคหณูปสัมปทาเป็นการบวชโดยที่พระพุทธเจ้าประทานครุธรรม 8 ประการแก่พระนางมหาปชาบดีและสตรีชาวสากยะ 500 คนเมื่อพวกนางยอมรับครุธรรมก็ได้รับสถานะเป็นภิกษุณี
5 - อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทาเป็นการบวชภิกษุณีโดยให้รับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุณีสงฆ์ก่อนครั้งหนึ่งและจึงรับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุสงฆ์อีกครั้งเมื่อผ่านการอุปสมบททั้งสองครั้งแล้วจึงเป็นภิกษุณี
6 - โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทาเป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าประทานพระโอวาทแก่พระมหากัสสปะเมื่อท่านรับโอวาทแล้วก็เป็นพระภิกษุ
7 - ปัญหาพยากรณูปสัมปทาเป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาของสามเณรโสปาก
8 - ทูเตนอุปสัมปทาเป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงส่งทูตของพระองค์ไปบวชหญิงโสเภณีชื่ออัฑฒกาสี

อุปสมบท ( อ่านว่าอุปะ - ,
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: