การกำหนดมาตรการบริเวณจุดผ่านแดนณ เม

การกำหนดมาตรการบริเวณจุดผ่านแดน
ณ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ( นายประจวบ ไชยสาส์น ) ราชอาณาจักรไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ( นายอึง ฮวด ) ได้ลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างประเทศทั้งสอง
1. จุดที่ทำการเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวร คือ บริเวณช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย กับช่องจวม อำเภออันลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา
2. ระยะเวลาเปิด - ปิด ให้ทำการค้าสัญจรไป -มา ระหว่างเวลา 07.00 - 20.00 น .ของทุกวัน
3. ให้ทั้งสองฝ่ายจัดสถานที่สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าห่างจากจุดผ่านแดนช่องสะงำ - ช่องจวม ออกมาไม่น้อยกว่า 500 เมตร ทั้งนี้ สถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าให้เป็นไปตามที่ทางราชการของแต่ละฝ่ายกำหนด
การปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้า - ออก ของบุคคล
1. บุคคลต่างชาติประเทศที่สาม การเดินทางเข้า - ออก ให้ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
2. กรณีคนไทยเดินทางไปกัมพูชา ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยปฏิบัติโดยออกหนังสือเดินผ่านแดน (BORDER PASS) ตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 โดยอนุญาตให้เดินทางถึงจังหวัดอุดรมีชัย ทุกอำเภอ ภายในระยะเวลา 7 วัน สำหรับการออกบัตรผ่านแดน (BORDER PASS) จะออกให้เฉพาะบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่อำเภอภูสิงห์เท่านั้น การทำบัตรผ่านแดนสามารถติดต่อทำบัตรผ่านแดนได้ที่ที่ว่าการอำเภอภูสิงห์ (ห้องปกครอง ชั้น 2) ทุกวันทำการ เอกสารขอทำบัตรผ่านแดน
1) สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ
2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
3) รูปถ่ายขนาด 1 นิ้วครึ่ง ถึง 2 นิ้ว 3 รูป
4) ค่าธรรมเนียม 200 บาท
3. กรณีกัมพูชาเดินทางเข้ามาประเทศไทย ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติโดยออกหนังสือ ผ่านแดน (BORDER PASS) ตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่ง พระราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 โดยอนุญาตให้เดินทางถึงจังหวัดอุดรมีชัย ทุกอำเภอ ภายในระยะเวลา 7 วัน
แนวทางปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา
หนังสือที่จะใช้เดินทางข้ามแดนบริเวณชายแดนระหว่างประเทศทั้งสอง มี 2 ประเภท คือ
1. หนังสือเดินทาง ( PASSPORT ) สำหรับประชาชนไทย ประชาชนกัมพูชา และประชาชนประเทศที่สาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การกำหนดมาตรการบริเวณจุดผ่านแดนณเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายประจวบไชยสาส์น) ราชอาณาจักรไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ (นายอึงฮวด) ได้ลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างประเทศทั้งสอง1. จุดที่ทำการเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรคือบริเวณช่องสะงำอำเภอภูสิงห์จังหวัดศรีสะเกษไรประเทศไทยกับช่องจวมอำเภออันลองเวงจังหวัดอุดรมีชัยประเทศกัมพูชา2. ระยะเวลาเปิด - ปิดให้ทำการค้าสัญจรไป - มาระหว่างเวลาเวลา 07.00-20.00 น..ของทุกวัน3. ให้ทั้งสองฝ่ายจัดสถานที่สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าห่างจากจุดผ่านแดนช่องสะงำ - สถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าให้เป็นไปตามที่ทางราชการของแต่ละฝ่ายกำหนดทั้งนี้ช่องจวมออกมาไม่น้อยกว่า 500 เมตรการปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้า - ออกของบุคคล1. บุคคลต่างชาติประเทศที่สามการเดินทางเข้า - ออกให้ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ2. กรณีคนไทยเดินทางไปกัมพูชา ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยปฏิบัติโดยออกหนังสือเดินผ่านแดน (BORDER PASS) ตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 โดยอนุญาตให้เดินทางถึงจังหวัดอุดรมีชัย ทุกอำเภอ ภายในระยะเวลา 7 วัน สำหรับการออกบัตรผ่านแดน (BORDER PASS) จะออกให้เฉพาะบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่อำเภอภูสิงห์เท่านั้น การทำบัตรผ่านแดนสามารถติดต่อทำบัตรผ่านแดนได้ที่ที่ว่าการอำเภอภูสิงห์ (ห้องปกครอง ชั้น 2) ทุกวันทำการ เอกสารขอทำบัตรผ่านแดน 1) สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ 2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ 3) รูปถ่ายขนาด 1 นิ้วครึ่ง ถึง 2 นิ้ว 3 รูป 4) ค่าธรรมเนียม 200 บาท3. กรณีกัมพูชาเดินทางเข้ามาประเทศไทย ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติโดยออกหนังสือ ผ่านแดน (BORDER PASS) ตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่ง พระราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 โดยอนุญาตให้เดินทางถึงจังหวัดอุดรมีชัย ทุกอำเภอ ภายในระยะเวลา 7 วัน แนวทางปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาหนังสือที่จะใช้เดินทางข้ามแดนบริเวณชายแดนระหว่างประเทศทั้งสอง มี 2 ประเภท คือ1. หนังสือเดินทาง ( PASSPORT ) สำหรับประชาชนไทย ประชาชนกัมพูชา และประชาชนประเทศที่สาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การกำหนดมาตรการบริเวณจุดผ่านแดน
ณเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ( นายประจวบไชยสาส์น ) ราชอาณาจักรไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ( นายอึงฮวด )1 . จุดที่ทำการเปิดเป็นจุดผ่านแดนถาวรความบริเวณช่องสะงำอำเภอภูสิงห์จังหวัดศรีสะเกษประเทศไทยกับช่องจวมอำเภออันลองเวงจังหวัดอุดรมีชัยประเทศกัมพูชา
2 ระยะเวลาเปิด - ปิดให้ทำการค้าสัญจรไป - มาระหว่างเวลา 0700 - 20.00 น . ของทุกวัน
3ให้ทั้งสองฝ่ายจัดสถานที่สำหรับซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าห่างจากจุดผ่านแดนช่องสะงำ - ช่องจวมออกมาไม่น้อยกว่า 500 เมตรทั้งนี้สถานที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าให้เป็นไปตามที่ทางราชการของแต่ละฝ่ายกำหนด
การปฏิบัติเกี่ยวกับการเข้า - ออกของบุคคล
1 บุคคลต่างชาติประเทศที่สามการเดินทางเข้า - ออกให้ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
2 กรณีคนไทยเดินทางไปกัมพูชา ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยปฏิบัติโดยออกหนังสือเดินผ่านแดน (BORDER PASS) ตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย กับรัฐบาลแห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 โดยอนุญาตให้เดินทางถึงจังหวัดอุดรมีชัย ทุกอำเภอ ภายในระยะเวลา 7 วัน สำหรับการออกบัตรผ่านแดน (BORDER PASS) จะออกให้เฉพาะบุคคลที่มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่อำเภอภูสิงห์เท่านั้น ( ห้องปกครองชั้นทุกวันทำการเอกสารขอทำบัตรผ่านแดน
2 )1) สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ฉบับ
2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
3) รูปถ่ายขนาด 1 นิ้วครึ่ง ถึง 2 นิ้ว 3 รูป
4) ค่าธรรมเนียม 200 บาท
3.กรณีกัมพูชาเดินทางเข้ามาประเทศไทยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติโดยออกหนังสือผ่านแดน ( ผ่านแดน ) ตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งพระราชอาณาจักรกัมพูชาเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2540 โดยอนุญาตให้เดินทางถึงจังหวัดอุดรมีชัย ทุกอำเภอ ภายในระยะเวลา 7 วัน
แนวทางปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยการสัญจรข้ามแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา
หนังสือที่จะใช้เดินทางข้ามแดนบริเวณชายแดนระหว่างประเทศทั้งสอง มี 2 ประเภท คือ
1.หนังสือเดินทาง ( พาสปอร์ต ) สำหรับประชาชนไทยประชาชนกัมพูชาและประชาชนประเทศที่สาม