and Posner, and Lakdawalla and Phil

and Posner, and Lakdawalla and Philipson.
They all concluded that increases in body-mass
index (BMI) over time are related to a lower
use of calories (due to reductions in the strenuousness
of work). Philipson and Posner presented
a theoretical model that suggests that
technological change is a major factor that contributes
to rising obesity rates. Philipson also
suggested other potential reasons that could
explain the growth of obesity rates. These reasons
include, among others, the change from
rural to urban societies and changes in cultural
habits, such as a higher rate of passive entertainment.
Lakdawalla and Philipson used data
from the National Health Interview Survey
from 1976 to 1994, and from the National Longitudinal
Survey ofYouth from the period 1982
through 1998. They empirically estimated the
relationship between obesity and reduction of
physical activity and concluded that about40%
of the total growth in obesity is due to expansion
of the food supply, potentially through
agricultural innovation, and about 60% is due
to demand factors such as decline in physical
activity in market and home production.
Chou, Grossman, and Saffer looked at the
role played by other societal forces that may
alter the individual’s time allocation for food
preparation and consumption in an industrialized
society. In particular, their main hypothesis
was that given the higher value of time in
industrialized societies, individuals would devote
more time to the labor market, thereby
having less time available for food preparation
and leisure. Using cross-sectional data from
the Behavioral Risk Factor Surveillance System
(BRFSS), they analyzed, among other factors,
the expansion of the different restaurants,
the price of a meal in each type of restaurant,
the price of food consumed at home, the
price of cigarettes, hours of work per week, and hourly wage rates by sociodemographic characteristics.
Their main results indicated a large
positive effect associated with the per capita
number of restaurants. In addition, the authors
found that downward trends in food prices account
for part of the upward trend in weightrelated
incidence, while increases in cigarette
prices are associated with growth in weightrelated
problems.
The studies discussed above provide explanations
for the growth of obesity mainly in
the United States. To our knowledge, only the
work by Cutler, Glaeser, and Shapiro has attempted
to study the factors affecting overweight
and obesity rates in multiple countries.However, as acknowledged by the authors, the
data they used are limited to obesity statistics
for a few countries and a few years.
Obesity and overweight rates are increasing
in several countries, particularly in the Organisation
for Economic Co-operation and Development
(OECD) member countries (see
figure 1). No other known study, however,
has examined the factors that affect overweight
and obesity rates in OECD countries.
To fill this void, we analyze the effect of several
socioeconomic factors on obesity rates
in OECD countries. Although previous U.S.
studies showed a positive relationship between
obesity, calories consumed, and the urbanization
process, it is also necessary to estimate
the magnitude of such relationships when
different agricultural policies, agricultural productivities,
and other sociodemographic, environmental,
and cultural factors are taken into
consideration.
In this article, we employ the latest data
on obesity and overweight-related statistics released
by the OECD (Health Data). These
records are augmented with country-level data
pertaining to a wide variety of social, economic,
and environmental variables found to
be important determinants of obesity-related
measures in past studies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

และ Posner, Lakdawalla และ Philipson ด้วยพวกเขาทั้งหมดได้ที่เพิ่มขึ้นในร่างกายโดยรวม(BMI) ดัชนีเวลาเกี่ยวข้องกับตัวล่างใช้แคลอรี่ (เพราะลดใน strenuousness ที่ของงาน) Philipson และ Posner แสดงแบบจำลองทฤษฎีที่แนะนำที่เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนอัตราโรคอ้วนสูงขึ้น Philipson ยังเหตุผลอื่น ๆ มีศักยภาพที่สามารถแนะนำอธิบายการเจริญเติบโตอัตราโรคอ้วน ด้วยเหตุผลดังกล่าวรวม หมู่คนอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงจากสังคมชนบทการเมืองและการเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรมนิสัย เช่นอัตราความบันเทิงแฝงสูงใช้ข้อมูล Lakdawalla และ Philipsonจากการสำรวจสัมภาษณ์สุขภาพแห่งชาติจากปี 1976 1994 และแห่งชาติระยะยาวOfYouth แบบสำรวจจากระยะ 1982ผ่านปี 1998 พวกเขาประเมิน empiricallyความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและการลดกิจกรรมทางกายภาพ และสรุปว่า about40%การเจริญเติบโตรวมในโรคอ้วนเป็นเนื่องจากการขยายตัวอาหารซัพพลาย อาจผ่านนวัตกรรมเกษตร และประมาณ 60% จะครบกำหนดกับปัจจัยความต้องการเช่นลดลงจริงกิจกรรมในการผลิตการตลาดและบ้านโชว Grossman และ Saffer ที่มองการบทบาทอื่น ๆ กองนิยมที่อาจเปลี่ยนแปลงการจัดสรรเวลาของแต่ละบุคคลสำหรับอาหารการเตรียมและการใช้ในการอุตสาหกรรมสังคม สมมติฐานหลักของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้รับค่าสูงในสังคมอุตสาหกรรม บุคคลจะอุทิศได้ในขณะแรงงานตลาด ผลมีเวลาน้อยพร้อมใช้งานสำหรับการเตรียมอาหารและผ่อนคลาย ใช้ข้อมูลเหลวจากระบบการเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงพฤติกรรม(BRFSS), พวกเขาวิเคราะห์ ระหว่างปัจจัยอื่น ๆการขยายตัวของร้านอาหารต่าง ๆราคาของอาหารแต่ละประเภทของร้านอาหารราคาของอาหารที่ใช้ในบ้าน การราคาของบุหรี่ ชั่วโมงทำงานต่อสัปดาห์ และอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง โดยลักษณะ sociodemographicผลลัพธ์หลักระบุขนาดใหญ่ผลบวกที่เกี่ยวข้องกับต่อหัวจำนวนร้านอาหาร นอกจากนี้ ผู้เขียนพบว่า แนวโน้มลงในอาหารราคาบัญชีในส่วนของแนวโน้มเพิ่มขึ้นใน weightrelatedอุบัติการณ์ ในขณะที่บุหรี่เพิ่มขึ้นราคาเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตใน weightrelatedปัญหาคำอธิบายมีการศึกษากล่าวถึงข้างต้นสำหรับการเติบโตของโรคอ้วนส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา การเพิ่ม เท่าทำงาน โดย Cutler, Glaeser และ Shapiro ได้พยายามเพื่อศึกษาปัจจัยมีผลต่อน้ำหนักเกินและอัตราโรคอ้วนในหลายประเทศอย่างไรก็ตาม เป็นดีโดยผู้เขียนข้อมูลที่พวกเขาใช้ไม่จำกัดสถิติโรคอ้วนสำหรับบางประเทศและกี่ปีโรคอ้วนและน้ำหนักเกินอัตราจะเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์กรสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศสมาชิก (OECD) (ดูรูปที่ 1) ไม่อื่น ๆ รู้จักศึกษา อย่างไรก็ตามได้ตรวจสอบปัจจัยที่มีผลต่อน้ำหนักเกินและอัตราโรคอ้วนในประเทศ OECDประจุนี้ โมฆะ เราวิเคราะห์ผลของหลายปัจจัยประชากรอัตราโรคอ้วนในประเทศ OECD แม้ว่าก่อนหน้านี้สหรัฐฯศึกษาพบความสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างโรคอ้วน แคลอรี่ที่ใช้ และตั้งกระบวนการ ยังจำเป็นต้องประเมินขนาดของความสัมพันธ์ดังกล่าวเมื่อนโยบายต่าง ๆ ด้านการเกษตร เกษตร productivitiesและอื่น ๆ sociodemographic สิ่งแวดล้อมและมีนำปัจจัยทางวัฒนธรรมเป็นพิจารณาในบทความนี้ เราใช้ข้อมูลล่าสุดโรคอ้วนและน้ำหนักเกินที่เกี่ยวข้องกับสถิติการนำออกใช้โดย OECD (ข้อมูลสุขภาพ) เหล่านี้ระเบียนจะออกเมนต์กับข้อมูลระดับประเทศเกี่ยวข้องกับความหลากหลายของสังคม เศรษฐกิจและตัวแปรสิ่งแวดล้อมพบว่าดีเทอร์มิแนนต์สำคัญของที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนได้มาตรการในการศึกษาที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

และ Posner และ Lakdawalla และ Philipson.
พวกเขาทั้งหมดได้ข้อสรุปว่าการเพิ่มขึ้นของมวลร่างกาย
ดัชนี (BMI) มากกว่าเวลาที่เกี่ยวข้องกับการลดลง
ของการใช้แคลอรี่ (เนื่องจากการลดลงของ strenuousness
ของการทำงาน) Philipson และ Posner นำเสนอ
รูปแบบทางทฤษฎีที่ชี้ให้เห็นว่า
การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยใน
การเพิ่มขึ้นของอัตราโรคอ้วน Philipson ยัง
ชี้ให้เห็นเหตุผลที่มีศักยภาพอื่น ๆ ที่สามารถ
อธิบายการเจริญเติบโตของอัตราโรคอ้วน เหตุผลเหล่านี้
รวมถึงคนอื่น ๆ เปลี่ยนจาก
ชนบทเพื่อสังคมเมืองและการเปลี่ยนแปลงในวัฒนธรรม
นิสัยเช่นอัตราที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ของความบันเทิง.
Lakdawalla Philipson และใช้ข้อมูล
จากการสัมภาษณ์การสำรวจสุขภาพแห่งชาติ
1976-1994 และจากระยะยาวแห่งชาติ
สำรวจ ofYouth จากงวดปี 1982
ผ่านปี 1998 พวกเขาสังเกตุโดยประมาณ
ความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและการลดลงของ
การออกกำลังกายและได้ข้อสรุปว่า about40%
ของการเจริญเติบโตโดยรวมในโรคอ้วนเกิดจากการขยายตัว
ของอุปทานอาหารที่อาจเกิดขึ้นผ่าน
นวัตกรรมทางการเกษตรและประมาณ 60% เป็นผลมาจาก
การเรียกร้องปัจจัยต่าง ๆ เช่นการลดลงในทางกายภาพ
กิจกรรมในตลาดและการผลิตที่บ้าน.
โจวกรอสแมนและ Saffer มองไปที่
บทบาทของกองกำลังทางสังคมอื่น ๆ ที่อาจ
เปลี่ยนแปลงการจัดสรรเวลาของแต่ละบุคคลสำหรับอาหาร
การเตรียมความพร้อมและการบริโภคในอุตสาหกรรม
สังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมมติฐานหลักของพวกเขา
คือการที่ได้รับค่าที่สูงขึ้นของเวลาใน
สังคมอุตสาหกรรมบุคคลที่จะอุทิศ
เวลามากขึ้นเพื่อตลาดแรงงานจึง
มีเวลาน้อยลงสำหรับการเตรียมอาหาร
และการพักผ่อน โดยใช้ข้อมูลตัดขวางจาก
ปัจจัยเสี่ยงพฤติกรรมระบบเฝ้าระวัง
(BRFSS) พวกเขาวิเคราะห์ท่ามกลางปัจจัยอื่น ๆ
การขยายตัวของร้านอาหารที่แตกต่างกัน
ราคาของอาหารในแต่ละประเภทของร้านอาหาร,
ราคาของอาหารที่บริโภคที่บ้าน
ราคาของบุหรี่, ชั่วโมงการทำงานต่อสัปดาห์และอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงโดยลักษณะยาวนาน.
ผลหลักของพวกเขาแสดงให้เห็นขนาดใหญ่
ผลบวกที่เกี่ยวข้องกับต่อหัว
จำนวนร้านอาหาร นอกจากนี้ผู้เขียน
พบว่าแนวโน้มการลดลงของราคาอาหารบัญชี
สำหรับส่วนหนึ่งของแนวโน้มสูงขึ้นใน weightrelated
อุบัติการณ์ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของบุหรี่
ราคามีความเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตใน weightrelated
ปัญหา.
การศึกษากล่าวข้างต้นให้คำอธิบาย
สำหรับการเจริญเติบโตของโรคอ้วนส่วนใหญ่อยู่ใน
ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อความรู้ของเราเพียง แต่
การทำงานโดยมีด Glaeser และชาปิโรมีความพยายามที่
จะศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อน้ำหนักตัวมากเกิน
อัตราและโรคอ้วนใน countries.However หลายเป็นที่ยอมรับของผู้เขียน
ข้อมูลที่พวกเขานำมาใช้จะถูก จำกัด ให้สถิติโรคอ้วน
สำหรับไม่กี่ประเทศ และไม่กี่ปีที่ผ่านมา.
โรคอ้วนและน้ำหนักเกินอัตราที่เพิ่มขึ้น
ในหลายประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในองค์การ
เพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
(OECD) ประเทศสมาชิก (ดู
รูปที่ 1) ไม่มีการศึกษาที่เป็นที่รู้จักอื่น ๆ แต่
มีการตรวจสอบปัจจัยที่มีผลต่อน้ำหนักตัวมากเกิน
อัตราและโรคอ้วนในประเทศ OECD.
เพื่อเติมเต็มช่องว่างนี้เราวิเคราะห์ผลกระทบจากหลาย
ปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจในอัตราโรคอ้วน
ในประเทศ OECD แม้ว่าก่อนหน้านี้สหรัฐ
ศึกษาพบความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่าง
โรคอ้วน, แคลอรี่ที่บริโภคและการขยายตัวของเมือง
กระบวนการก็ยังจำเป็นที่จะต้องประเมิน
ความสำคัญของความสัมพันธ์ดังกล่าวเมื่อ
นโยบายการเกษตรที่แตกต่างกันทางการเกษตร,
และอื่น ๆ ที่ยาวนานด้านสิ่งแวดล้อม
และวัฒนธรรมปัจจัยที่จะนำมา
การพิจารณา.
ในบทความนี้เราจ้างข้อมูลล่าสุด
เกี่ยวกับโรคอ้วนน้ำหนักเกินและสถิติที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยตัว
โดย OECD (ข้อมูลสุขภาพ) เหล่านี้
ระเบียนที่จะถูกเสริมเข้ากับข้อมูลระดับประเทศ
ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของสังคมเศรษฐกิจ
และตัวแปรด้านสิ่งแวดล้อมพบว่า
เป็นปัจจัยที่สำคัญของโรคอ้วนที่เกี่ยวข้องกับ
มาตรการในการศึกษาที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และ โพสเนอร์ และ lakdawalla และ philipson .
พวกเขาทั้งหมดสรุปได้ว่า ดัชนีมวลของร่างกายเพิ่มขึ้น
( BMI ) มากกว่าเวลาที่เกี่ยวข้องกับการใช้พลังงาน ( เนื่องจากกว่า

( ความเข้มแข็งของงาน ) และ philipson พอสเนอร์เสนอเป็นแบบจำลองทางทฤษฎีที่ชี้ให้เห็นว่า

เปลี่ยนเทคโนโลยีเป็นปัจจัยหลักที่มีส่วนช่วย
อัตราโรคอ้วนเพิ่มขึ้น philipson ยัง
เหตุผลที่มีศักยภาพอื่น ๆ ที่ช่วยแนะนำ
อธิบายการเติบโตของอัตราโรคอ้วน
รวมเหตุผลเหล่านี้ในหมู่คนอื่น ๆ เปลี่ยนจากสังคมในเมืองและชนบท

การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมทางวัฒนธรรม เช่น อัตราที่สูงขึ้นเรื่อยๆเพื่อความบันเทิง และใช้ข้อมูล

lakdawalla philipson จากการสัมภาษณ์การสำรวจสุขภาพแห่งชาติ
จาก 2519 ถึง 1994 และจาก
แห่งชาติตามยาวสำรวจ ofyouth จากช่วงปี 1982
ผ่าน 1998 พวกเขาใช้ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและลด

กิจกรรมทางกาย และสรุปได้ว่า about40 %
ของการเจริญเติบโตโดยรวมในโรคอ้วนเนื่องจากการขยายตัวของอุปทานอาหาร

อาจผ่านนวัตกรรมการเกษตร และประมาณร้อยละ 60 เนื่องจาก
ความต้องการปัจจัยต่างๆ เช่น การลดลงในกิจกรรมทางกาย
ในตลาดและการผลิตบ้าน .
โจว กรอสแมน และ saffer มองบทบาทที่เล่นโดยอื่น ๆสังคมบังคับ ที่อาจเปลี่ยนแปลงการจัดสรรเวลาของแต่ละคน

เตรียมอาหารและการบริโภคในสังคมอุตสาหกรรม

โดยเฉพาะสมมติฐานหลักของพวกเขาคือ
ที่ได้รับสูงกว่า ค่าของเวลาใน

สังคมอุตสาหกรรม บุคคลจะอุทิศเวลามากขึ้นเพื่อตลาดแรงงานจึง
มีเวลาน้อยสามารถใช้ได้สำหรับ
เตรียมอาหารและการพักผ่อน โดยใช้ข้อมูลภาคตัดขวางจากระบบเฝ้าระวังพฤติกรรมปัจจัยเสี่ยง

( brfss ) พวกเขาวิเคราะห์ ระหว่างปัจจัยอื่น ๆ ,
การขยายตัวของร้านอาหารที่แตกต่างกัน
ราคาของอาหารในแต่ละประเภทของร้านอาหาร
ราคาอาหารบริโภคในบ้าน
ราคาบุหรี่ ชั่วโมงทำงาน / สัปดาห์และอัตราค่าจ้างรายชั่วโมง โดยลักษณะอุตสาหกรรม .
ผลลัพธ์หลักของพวกเขาชี้ให้เห็นขนาดใหญ่
มีผลบวกที่เกี่ยวข้องกับต่อหัว
จำนวนร้านอาหาร นอกจากนี้ ผู้เขียนพบว่าแนวโน้มราคาลง

อาหารบัญชีสำหรับส่วนหนึ่งของแนวโน้มขึ้นใน weightrelated
อุบัติการณ์ ในขณะที่การเพิ่มราคาบุหรี่
เกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตใน weightrelated

ปัญหาการศึกษาที่กล่าวข้างต้นให้คำอธิบายสำหรับการเจริญเติบโตของโรคอ้วน

ส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ความรู้เฉพาะ
งานคัทเลอร์ , เกลเซอร์ , และ ชาปิโร ได้พยายามที่จะศึกษาปัจจัยที่มีผลต่ออ้วน

และอัตราโรคอ้วนในหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม ยอมรับจากผู้เขียน
ข้อมูลที่พวกเขาใช้จะถูก จำกัด ให้สถิติโรคอ้วน
ไม่กี่ประเทศ และเพียงไม่กี่ปี
โรคอ้วนและน้ำหนักเกินอัตราจะเพิ่มขึ้น
ในหลายประเทศ โดยเฉพาะในองค์กรเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจ จำกัด

( OECD ) ประเทศสมาชิก ( ดู
รูปที่ 1 ) ไม่มีอื่น ๆที่รู้จักกันเรียน อย่างไรก็ตาม
ได้ตรวจสอบปัจจัยที่มีผลต่อน้ำหนักเกินและโรคอ้วนในประเทศ OECD อัตรา
.
เพื่อเติมช่องว่างนี้ เราวิเคราะห์ผลจากหลายปัจจัยสังคมเศรษฐกิจอัตราโรคอ้วน

ในประเทศ OECD . แม้ว่าการศึกษาก่อนหน้านี้พบความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างสหรัฐอเมริกา

อ้วน เผาผลาญแคลอรี และเมือง
กระบวนการ มันก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อประเมินขนาดของความสัมพันธ์เมื่อ

นโยบายการเกษตรต่าง ๆเช่นการผลิตการเกษตรและอุตสาหกรรมอื่น ๆ
, ,
และปัจจัยสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรมนำ

บทความนี้ในการพิจารณา ,เราใช้ข้อมูลล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วนและอ้วน

สถิติที่ออกโดย OECD ( ข้อมูลสุขภาพ ) ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลระดับประเทศเพิ่มด้วย

เกี่ยวกับความหลากหลายของสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม พบว่า ตัวแปร

เป็นปัจจัยกำหนดที่สำคัญของโรคอ้วนที่เกี่ยวข้อง
มาตรการที่ผ่านมาการศึกษา